วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

คณะสงฆ์สมุทรสงครามมอบโซล่าเซลล์รพ.อัมพวา ดร.หลวงพ่อแดงเทศน์ "พระพุทธศาสนากับความพอเพียง ด้วยหลักธรรม บวร" แก่คณะรองอธิบดีกรมอนามัย



วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 ที่วัดอินทาราม ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พระเมธีวัชรประชาทร (ดร.หลวงพ่อแดง นันทิโย) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 15 อนุกรรมการหน่วยอบรมประชาชนส่วนกลาง และเจ้าอาวาสวัดอินทาราม   เปิดเผยว่าคณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสงครามมอบโซล่าเซลล์ให้โรงพยาบาลอัมพวา มูลค่า 1.5 ล้านบาท  โดยมีพระภาวนาวิสุทธิโสภณ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์   พระครูโสภิตวิริยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภออัมพวา  พระเมธีวัชรประชาทร และคณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสงคราม และ แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัยประธานฝ่ายฆารวาส ได้ส่งมอบโครงการโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell) (ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและส่งเสริมการเรียนรู้ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง)  โดยมี นายแพทย์สิทธิโชค จิติวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัมพวา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสงคราม 

โดยโครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินการขับเคลื่อนงานสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสงคราม ตามแผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา   ประธานกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ประจำจังหวัด โดยนำไปดำเนินการให้เกิดประโยชน์ตามวัตถุประสงค์อย่างสูงสุด ด้วยหลักการปฏิบัติ 4 หลัก  คือ 1.สงเคราะห์ 2.เกื้อกูล 3.พัฒนา 4.บูรณาการ  

ด้วยพลัง “บวร”บ้าน  วัด ราชการ  โดยในโครงการพระเมธีวัชรประชาทร  ได้บริจาคปัจจัย 1.5 ล้านบาท เพื่อทำโซล่าเซลล์มอบให้กับโรงพยาบาลอัมพวา    ซึ่งสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้เดือนละประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน และ 360,000 บาทต่อปี ใช้ระยะเวลาในการคืนทุน 4 ปี อายุการใช้งาน 15-20 ปี สามารถช่วยลดการใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าได้ถึง 14 ตันต่อปี

"ขออนุโมทนาประธานฝ่ายสงฆ์ พระเดชพระคุณพระภาวนาวิสุทธิโสภณ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม เจ้าอาวาสวัดประดู่พระอารามหลวง  ได้มอบปัจจัยสนับสนุนเพิ่มอีก 15,000 บาท และพระครูโสภิตวิริยาภรณ์  เจ้าคณะอำเภออัมพวา เจ้าอาวาสวัดจุฬามณี มอบปัจจัยสนับสนุนเพิ่มอีก 100,000 บาท  เพื่อที่จะติดตั้ง โซล่าเซลล์  ให้กับโรงเรียนวัดเสด็จ และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเหมืองใหม่ และภายในในจังหวัด ต่อไปในอนาคต ขออนุโมทนาบุญ งานนี้จะสำเร็จไม่ได้เลย จึงต้องขออนุโมทนาสาธุการเป็นอย่างยิ่ง แก่อาจารย์บัณฑิต ป้านสวาท ผู้เป็นวิศวกรออกแบบวางแผนประสานงานทุกเรื่องจนสำเร็จเรียบร้อยทุกประการ" พระเมธีวัชรประชาทร   กล่าวและว่า

และในวันเดียวกันนี้ได้บรรยายพิเศษ "พระพุทธศาสนากับความพอเพียง ด้วยหลักธรรม"บวร" มีรองอธิบดีกรมอนามัยเป็นประธาน มีนาย​นิพนธ์​ เงิน​คง​พันธ์​ ผอ.รพ.สต.บ้าน​คลอง​เหมือง​ใหม่​ เป็นผู้ประสานงาน นายแพทย์​เอกชัย​ เพียรศรีวัชรา​ รองอธิบดี​กรมอนามัย, นายคำรน​ ศรีวงศ์ษา​ รองนายแพทย์​สาธารณสุข​จังหวัด​สมุทร​สงคราม, นายเจริญ​ จังหวัด​ สาธารณสุข​อำเภอ​อัมพวา​ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ในงาน​พิธี​ มอบประกาศ​เกียรติคุณ​ ณ​ วัดอิน​ทา​ราม​ โดยมีกิจกรรม​ ดังนี้

1.​ การบรรยายพิเศษ​ เรื่อง​ "พระพุทธ​ศาสนา​กับปรัชญา​เศรษฐกิจพอเพียง​และการพัฒนา​ชุมชน​อย่างยั่งยืน" โดย พระเมธี​วัชรประชาทร​ (ดร.หลวงพ่อ​แดง นันทิโย) 2.​ พิธีมอบใบประกาศ​เกียรติคุณ​ โดยนพ.​ เอกชัย​ เพียร​ศรีวัชรา​ รองอธิบดี​กรมอนามัย​ แก่​ พระเมธี​วัชรประชาทร​ (ดร.หลวงพ่อ​แดง)​ รองเจ้าคณะ​อำเภอ​อัมพวา​ เจ้าอาวาส​วัด​อิน​ทา​ราม​" รางวัล​พระสงฆ์​ต้นแบบ​ในการขับ​เคลื่อน​งานวัดส่งเสริม​สุขภาพ​และพระคิลานุปัฏฐาก​ ดีเด่นระดับประเทศ"  และ​ประกาศ​เกียรติคุณ​แก่วัดอินทาราม​ เพื่อแสดงว่าเป็น "วัดส่งเสริม​สุขภาพ​ระดับยั่งยืน" 

สธ. ติดตั้ง"โซล่าเซลล์" 1,252 แห่งลดค่าไฟ กว่า 322 ล้านบาท/ปี 

ทั้งนี้นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (Climate Change) ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทั้งจากโรคต่างๆ และภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้น โดยผลการศึกษาในปี พ.ศ. 2565 พบว่าโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสัดส่วนร้อยละ 9 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งประเทศ หรือ 33,766,720 tCO2-eq /ปี โดยกิจกรรมที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกสูงสุด คือ การเดินทางมาโรงพยาบาลของผู้ป่วยและญาติ และการใช้ไฟฟ้าในโรงพยาบาล ซึ่งข้อมูลการจัดการพลังงาน ปี 2564 พบว่า มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าถึง 1,217 ล้านกิโลวัตต์/ปี คิดเป็นค่าไฟฟ้าประมาณ 4,730 ล้านบาท/ปี

นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงจัดทำแผนเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย Smart Energy and Climate Action (SECA) : พลังงานอัจฉริยะและการดำเนินการที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ โดยให้ทุกหน่วยงานในสังกัดใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการสูญเสียพลังงานอย่างไร้ประโยชน์ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ผ่านกลไกการทำงาน 8 ด้าน คือ

1.การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์  2.เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อการประหยัดพลังงาน)  3.ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า (EV)  4.อาคารอนุรักษ์พลังงาน (Green Building)  5.การเพิ่มพื้นที่สีเขียว  6.เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ (ลดการเดินทาง, Telemedicine)  7.เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการมูลฝอย,น้ำเสีย 8.กิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน

หน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลระดับต่างๆ ซึ่งข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566 มีหน่วยบริการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว 1,252 แห่ง จากทั้งหมด 1,857 แห่ง มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 62,245.80 กิโลวัตต์ สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 35,420 tCO2-eq /ปี ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้กว่า 322 ล้านบาท/ปี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"บึงกาฬ" จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนเเรงในครอบครัว

เมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ จัดกิจกรรมกา...