เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 09.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย (มท.1) เป็นประธานการชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย (มท.4) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้บริหารกระทรวง และผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมประชุม
นายอนุทิน กล่าวก่อนการประชุมว่า ตนคิดว่าทุกคนสุขสบายดีหลังจากได้พบกันเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งเป็นทำงานร่วมกันเข้าสู่เดือนที่ 2 ขอบคุณผู้บริหารทุกคนที่ร่วมมือในการทำงาน ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและของรมว.มหาดไทย มีนโยบายเร่งด่วนที่ได้รับบัญชาโดยตรงจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โดยนายกฯให้ความไว้วางใจเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยทุกคน อีกทั้งนายกฯ เดินทางไปจังหวัดต่างๆ ได้พูดคุยกับผู้ว่าฯ แต่ตอนนี้จะพยายามไปพบกับผู้ว่าฯจังหวัดท่องเที่ยว
“นายกฯได้ชื่นชมการทำงานทั้งผู้ว่าฯเชียงใหม่และผู้ว่าฯชลบุรีในการปฎิบัติหน้าที่ และฝากให้กำลังใจกับผู้ว่าฯภูเก็ตที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ขอให้ท่านมีกำลังใจในการทำงาน เราจะมาเปลี่ยนม้ากลางศึกไม่ได้เป็นเรื่องลำบาก” นายอนุทิน กล่าว
จากนั้น นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการสรุปสิ่งที่ทำงานในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งมีข้อสั่งการให้เป็นแนวทางปฏิบัติของเดือนต่อไป ส่วนนโยบายเร่งด่วนคือเรื่องการจัดระเบียบสังคม ตนได้หารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ฝ่ายปกครองกระทรวงมหาดไทย และตำรวจ รวมทั้งท้องถิ่นที่ต้องทำงานร่วมกันให้สังคมมีความเรียบร้อย ไม่ได้เข้ามาทำให้เกิดความขัดแย้งหรือแย่งชิงผลงานกัน จริงๆ ไม่มีอยู่แล้ว แต่บางทีจังหวะที่เข้าไปการสื่อสารอาจจะคลาดเคลื่อน จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้อีก
"ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ได้ Kick off ปฏิบัติการพิเศษตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ขอเรียนให้ท่านทราบว่า กระทรวงมหาดไทย โดยรัฐมนตรีว่าการฯ และท่านอธิบดีกรมการปกครอง ได้หารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน เพื่อจัดระเบียบสังคม โดยมีข้อสรุปว่า จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกระทรวงมหาดไทย กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน และ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองประธาน อธิบดีกรมการปกครอง เป็นกรรมการ และ เลขานุการ เพื่อบูรณาการการทำงานจัดระเบียบสังคม และปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อให้การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน มีประสิทธิภาพสูงสุด ขอยืนยันว่า ผู้บริหารทั้งสองหน่วยงาน ไม่มีความขัดแย้งต่อกัน มีแต่ความร่วมมือกัน ที่จะทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม" นายอนุทินกล่าวและว่า
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังเน้นย้ำถึงนโยบายที่สำคัญ นอกจากการจัดระเบียบสังคม และปราบผู้มีอิทธิพล ได้แก่ การช่วยเหลือค่าน้ำค่าไฟ การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยและคลื่นลมแรงในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ การจัดที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชน การขยายเวลาการเปิดสถานบริการเพื่อกระตุ้นภาคท่องเที่ยว และการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น