วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560

มนุษย์สากลหัวใจสู่สังคมพหุวัฒนธรรมสันติภาพที่แท้จริง



ศาสนาเป็นทางรอดของสังคม ร้อยเรียงให้คนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข : พระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร รายงาน



หลักสูตรการพัฒนาความเป็นผู้นำศาสนายุคใหม่ ณ สถาบันพัฒนาผู้นำศาสนาอิสลาม สำนักจุฬาราชมนตรี โดยการสนับสนุนงบประมาณจากกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มีการจัดเสวนาการอยู่ร่วมกันในพหุวัฒนธรรม โดยเสวนาภายใต้หัวข้อว่า " สังคมพหุวัฒนธรรม มุมมองต่างศานิกชน " เมื่อวันที่ ๑๔ ต.ค.๒๕๖๐ ที่ผ่านมา โดยร่วมเสวนา ๓ ท่านคือ


๑) พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส รศ.ดร. ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ และผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา ในฐานะผู้แทนพระพรหมบัณฑิต ศ.ดร.อธิการบดีมหาจุฬาฯ  และผู้แทนสถาบันการศึกษาด้านพระพุทธศาสนา กล่าวว่า ต้องมี ๔ สากล เพราะธรรมชาติอย่างไรก็สากล เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม


๑)" มนุษย์สากล" ๒)"เมตตากรุณาสากล" ๓) "ปัญญาสากล" ๔) "สันติภาพสากล"

๒) มงซินญอร์ ดร.วิษณุ ธัญญอนันต์ รองเลขาธิการสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ผู้แทนศาสนาคริสต์ กล่าวว่า การเสวนาเป็นสื่อสารจาก ๒ ฝ่าย เพื่อนำไปสู่ " การพูดการฟัง การให้ การรับ มิตรภาพ " มุสลิมจากประเทศตูนีเชีย มูฟตี มูฮัมหมัด ทาลบี กล่าวว่า " เมื่อใดก็ตามถ้าหากปากกาของพวกเราหัก สิ่งที่เหลืออยู่ มีเพียงอย่างเดียวคือ มีดพก "

๓) พระดุษฏี เมธังกุโร ผู้แทนพระพุทธศาสนา กล่าวว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่มีอิทธิพลมากสำหรับคนปัจจุบัน วัตถุนิยมครอบงำคนในสังคมปัจจุบัน ในเทคโนโลยียากจะหาความจริงใจ สามารถตั้งชื่อปลอมได้ ไร้ซึ่งความจริงใจ เพราะไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากัน

สรุปว่า ถ้าเราไม่มีความเมตตา เราจะไม่ได้รับความเมตตาเช่นกัน ปัญหาความขัดแย้งทางศาสนาเกิดมาจากรากหญ้า ควรเน้นการอยู่ร่วมกันโดยยกกุฏีจีน ๓ ศาสนา ๔ ความเชื่อ เป็นต้นแบบการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข


มีคำกล่าวว่า "ฝูงสุนัขที่มีสิงโตนำ ย่อมดีกว่า ฝูงสิงโตที่มีสุนัขนำ"ผู้นำต้องใส่ต่อคนต่องาน ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ตรัสว่า " สังคมเราต้องการคนดีมากกว่าคนเก่ง " โดยเน้นคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา ผู้นำต้องทำหน้าที่แบบชาวสวน หมายถึง ทำงานกับสิ่งมีชีวิต กับดักของผู้นำ คือ หลงตัวเอง ท่านปรีดี พนมยงค์ "เมื่อข้าพเจ้ามีอำนาจ ข้าพเจ้าขาดประสบการณ์ เมื่อถึงเวลาที่ข้าพเจ้ามีประสบการณ์ ข้าพเจ้าไร้ซึ่งอำนาจ " มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กล่าวว่า " อำนาจนั้นเหมือนยาเสพติด ถ้าได้มาย่อมวางไม่ลงและต้องการอยู่เสมอ ไม่มีวันที่จะวางลงได้ " ทางคริสต์จึงสอนว่า "รักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง จงปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนดังที่ท่าน ต้องการให้เขาปฏิบัติต่อท่าน "พระเยซูคริสต์ขอให้คริสชนเป็นผู้นำในการรับใช้ผู้อื่นด้วยความรัก to be servant " เรามาในโลกนี้เพื่อรับใช้ "ผู้นำต้องจับแมลงวันด้วยน้ำผึ้ง คือ ฟังอย่างนุ่มนวลมิใช่ไปฆ่าหรือใช้ความรุนแรง


ฉะนั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรเอื้อเฟื้อเกื้อกูลทุกศาสนา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีจะบอกเสมอว่า เวลาไปต่างจังหวัดต้องไปหาพระก่อนแสดงความเคารพ ทำอย่างไรเราจะมีเวทีให้เยาวชนพุทธ คริสต์ อิสลาม มีกิจกรรมร่วมกันเพื่อเรียนรู้ เราไม่อยากให้มีหลักสูตรเฉพาะศาสนาเดียว แต่เราควรมีหลักสูตรพัฒนาผู้นำระหว่างศาสนา สมเด็จสังฆราชตรัสกับท่านจุฬาราชมนตรี ว่า เราคือครอบครัวเดียวกัน ต้องหาโอกาสปรึกษาหากัน ถึงเวลาองค์กรศาสนาจะต้องร่วมมือกัน สร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เราต้องจับมือกันร่วมมือกันทุกศาสนา จงมีเมตตาต่อบุคคลที่อยู่ใต้ฟ้า บุคคลที่อยู่บนฟ้าจะเมตตาแก่เรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์

  วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์ บทนำ “จาล...