วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560

"แพนเค้ก"ร่วมพิธีส่งน้องบวชเณรแดนพุทธภูมิ




"แพนเค้ก"ร่วมพิธีบรรพชาสามเณรปลูกต้นกล้ายาตราดินแดนพุทธภูมิ ถวายเป็นพระราชกุศล "ในหลวงร.9และร.10"

ระหว่างวันที่ 6 - 27 ตุลาคม 2560 สำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร สำนักงานพระธรรมทูตสายอินเดีย - เนปาล วัดไทยพุทธคยา วัดนาคปรก และกรมการศาสนา กระทรวงวัฒรธรรม ได้จัดโครงการปลูกต้นกล้ายาตราพุทธภูมิ รุ่นที่ 2 บรรพชาสามเณรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และน้อมเกล้าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร


วันที่ 6  ตุลาคม 2560 ได้มีพิธีปลงผมโดยมีพระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถระสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าคณะภาค 10  วัดสระเกศราชวรมหาวิหารเป็นประธานในพิธีขลิบผม  ที่บริเวณลานโพธิ์  ทั้งนี้มี "แพนเค้ก"เขมนิจ จามิกรณ์ ดารานักแสดงได้ร่วมในพิธีด้วย หลังจากนั้นเป็นกิจกรรมเตรียมความพร้อมเพื่อเดินทางไปบรรพชาที่วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย


วันที่ 8 ตุลาคม 2560 ได้มนต์พระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท วิทยากรกระบวนการธรรมะโอดี เป็นพระวิทยากรบรรยายในหัวข้อบรรยายเรื่อง "Download สันติสุขสู่หัวใจ:โลกต้องการความรัก มากกว่าความเจ็บปวด" ความว่า เป็นการบรรพชาแบบยั่งยืน ด้วยการคัดเลือกเด็กเยาวชนจากทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาตามภาวนา 4 ด้านคือ "กาย พฤติกรรม จิตใจ และปัญญา " ด้วยการบรรพชาที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา ประเทศอินเดีย และศึกษาธรรมเชิงลึก ณ สังเวชนียสถาน ดินแดนกำเนิดพระพุทธศาสนา


จึงเป็นการสร้างพลังศรัทธาต่อพระพุทธเจ้าว่า พระองค์เป็นบุคคลธรรมดาที่พัฒนาตนสร้างบารมีจนเป็นที่พึ่งของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย สิ่งที่ทำให้พระองค์ไม่ธรรมดาสำหรับพวกเราเพราะ "พระองค์ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มีความรักต่อเพื่อนให้มนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง" ช่วยแนะนำเครื่องมือในการพ้นทุกข์ พระพุทธเจ้าจึงมีความรักอันยิ่งใหญ่ที่สุดต่อเพื่อนมนุษย์ แม้แต่พระเทวทัตที่พยายามจะทำร้ายพระองค์ทุกวิถีทาง พระองค์ยังตรัสและมีท่าทีอันนุ่มนวลว่า " เรารักราหุลฉันใด เราก็รักพระเทวทัตฉันนั้น " แสดงให้เห็นว่าพระพุทธเจ้ามีความเมตตาต่อสรรพสัตว์แม้ว่าบุคคลนั้นจะประกาศว่าเป็นศัตรูก็ตาม นี่คือ สุดยอดบุคคลแห่งผู้มีความรักอันยิ่งใหญ่


"ตลอดถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงปกครองโดยธรรมและมีความรักต่อประชาชนของพระองค์ ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคน จนยูเนสโกได้ประกาศยกย่องว่าเป็นกษัตริย์นักพัฒนา กษัตริย์นักสันติภาพ ภายใต้คำว่า " ยึดคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา " ตามแนวทางศาสตร์พระราชา เพราะความรักของกษัตริย์ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงนำพาประเทศเจริญรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้"  พระอาจารย์ปราโมทย์ กล่าวและว่า


พระพุทธเจ้าและในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงเป็นต้นแบบของบุคคลที่ใช้ความรักในการทำงาน จึงทำให้เรารักพระองค์ ฉะนั้น จึงขออนุโมทนาบุญกับวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหารในการเสริมสร้างโครงการดีๆ แบบนี้สู่สังคมเพื่อสันติสุขสืบไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์

  วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์ บทนำ “จาล...