คล้อยหลังที่ พ.ต.ท. พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ เข้าไปนั่งในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) อีกครั้งเพียง 1 วัน ได้มีคำสั่งย้ายราชการระดับสูงที่สำคัญๆ จำนวน 14 ราย และมีกระแสออกมาจะมีอีก หลังจากถูกย้ายให้ไปเป็นผู้ตรวจราชการสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีตรวจราชการภาคใต้ ซึ่งเจ้าตัวได้ทำหนังสือคัดค้านพร้อมกับกองเสียงเชียร์หนุน ส่งผลให้กลับมานั่งในตำแหน่งเดิม ท่ามกลางกระแสปฏิรูปพระพุทธศาสนาจัดการเงินทอนวัด และการจัดระเบียบพระสงฆ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิจารณ์การเมือง และการใช้สื่อออนไลน์ รวมถึงการสร้างวัตถุมงคล
จากคำสั่งของ พ.ต.ท. พงศ์พร ดังกล่าวมีผู้ที่ถูกหวยอย่างเช่น นายประดับ โพธิกาญจนวัตร ผอ.สำนักพุทธมณฑล เป็น ผอ.พศจ.พระนครศรีอยุธยา นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เป็น ผอ.พศจ.ลพบุรี นายฉัตรชัย ชูชื้อ ผอ.กองพุทธศาสนาสถาน เป็น ผอ.พศจ.ปทุมธานี และนายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา เป็น ผู้ตรวจราชการ พศ. ตำแหน่งเหล่านี้ถูกว่ามีความสำคัญที่ทำงานรับใช้การประชุมมหาเถรสมาคมอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายประดับนั้น นอกจากจะมีตำแหน่ง ผอ.สำนักพุทธมณฑลแล้ว ยังมีตำแหน่งโฆษก พศ.ด้วย เมื่อถูกย้ายไปนั่งเป็น ผอ.พศจ.พระนครศรีอยุธยา ต้องรับหน้าที่ในการเข้าไปช่วยเจ้าอาวาสต่างในสังกัดจัดระเบียบวัดให้เป็นไปตามคำสั่งของเจ้าคณะหนใหญ่ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อมีคำสั่งเรื่องห้ามจำหน่ายวัตถุมงคลภายในพระอุโบสถ รวมถึงห้ามจำหน่ายวัตถุรูปปั้น รูปเหมือน หรือรูปเทพเจ้าต่างๆ ทำให้ทางวัดต้องปฏิบัติตาม
พระครูสุธีกิจจาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร กล่าวว่า เมื่อคำสั่งออกมาเช่นนี้ต้องปฏิบัติตาม การห่มผ้าหลวงพ่อโตจากเดิมมีการโยนผ้าไตรจีวรขึ้นไปที่องค์พระหลวงพ่อโต ได้สั่งห้าม และเปลี่ยนมาเป็นนำผ้าไตรจีวรมากล่าวคำถวาย และนำวาที่โต๊ะด้านหน้าหลวงพ่อโตเท่านั้น ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยอธิบาย พร้อมกับติดป้ายขนาดใหญ่และเล็ก เพื่อแจ้งให้ผู้มากราบไหว้ทราบโดยทั่วกัน ส่วนจะทำให้ยอดเงินบริจาคทำบุญน้อยลงหรือไม่นั้นหากมองที่จำนวนเงิน แน่นอนว่าอาจลดลงถึง 50% แต่ประเด็นเรื่องเงินทำบุญไม่ใช่ประเด็นหลักของการเข้าวัด เพราะประเด็นหลักอยู่ที่การเข้าวัดเพื่อตั้งมั่นในศีลธรรม
ขณะที่นายประดับซึ่งยังไม่รู้ว่าชะตากรรมของตัวเองจะเป็นอย่างไร เพราะคำสั่งยังไม่ออก ได้ทำหน้าที่โฆษก พศ.ชี้แจงกรณีคำสั่งเจ้าคณะหนใหญ่และวัดพนัญเชิงว่า คำสั่งเจ้าคณะหนใหญ่นั้น เพื่อให้ทุกวัดได้จัดระเบียบสถานที่จำหน่ายวัตถุมงคลให้เกิดความเหมาะสม อยู่ในที่เหมาะที่ควรภายในวัด โดยไม่ควรอยู่ในพื้นที่พระอุโบสถ แต่ไม่ได้เป็นคำสั่งห้ามเช่าบูชา ห้ามติดป้ายโฆษณาขายพระ ห้ามจำหน่ายวัตถุมงคลในวัด หรือห้ามสร้างพระ สร้างวัตถุมงคลในเขตวัดแต่อย่างใด เป็นการเข้าใจพลาดคลาดเคลื่อนเป็นอย่างมาก
เมื่อคล้อยหลังจากการทำหน้าที่โฆษกของนายประดับชี้แจ้งดังกล่าว เว็บไซต์ พศ.ได้เผยแพร่คำสั่งย้ายข้าราชการระดับสูงของ พศ.ที่ลงนาม พ.ต.ท. พงศ์พร ตามที่เว็บไซต์บ้านเมืองได้นำเสนอไปแล้วนั้น
จากคำสั่งของเจ้าคณะหนใหญ่ต่างๆ นั้น นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย (ป.ธ.9) อดีตผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ทหารเรือ ผู้ประพันธ์กาพย์เห่เรือในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเห็นด้วยและระบุว่า "อุปมาเหมือนอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย"
พร้อมกันนี้ได้เสนอให้คณะสงฆ์ตั้ง "กองวิชาการคณะสงฆ์" (หรือจะใช้ชื่ออื่นใดตามที่เห็นสมควร) ขึ้นมาโดยพลันเพื่อรวบรวมและวินิจฉัยข้อปัญหาทั้งปวงเกี่ยวกับพระธรรมวินัยที่เกิดขึ้นในเวลานี้เพื่อที่คณะสงฆ์จะได้มีแนวปฏิบัติและแนวคำสอนไปในทางเดียวกันทั่วสังฆมณฑลและแก้ปัญหาข้อสงสัยทั้งปวงของประชาชนอันเกี่ยวข้องกับหลักพระธรรมวินัยซึ่งยังหาข้อยุติที่ถูกต้องตรงกันไม่ได้นั้นให้กระจ่างแจ้งสืบไป หรืออาจจะให้แม่กองธรรม แม่กองบาลี รับผิดชอบก็ได้ เพราะแต่ปีหนึ่งทำงานเรื่องเดียว คือจัดการสอบปีละ 2 ครั้งตามฤดูกาลเท่านั้น พร้อมกับขอปวารณาต่อคณะสงฆ์ว่า เจ้าพระคุณทั้งปวงประสงค์จะให้รับใช้ในเรื่องใดอันสมควรแก่กิจของพระศาสนา ขอได้โปรดเรียกใช้กระผมตลอดจนบรรดาคนที่ไปจากวัดและได้ดีไปจากวัดทั้งปวง ตามที่เห็นสมควรนั้น เทอญ
..........
(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก https://www.thairnews.com/พศ-แจงคำสั่งเจ้าคณะใหญ่/)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น