ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นว่า โซเชียลทุกวันนี้เป็นเครื่องมือในการสร้างความขัดแย้งด้านศาสนา และไม่มีการหาความเห็นฝั่งตรงกันข้ามว่าเขามีความเห็นว่าอย่างไร ดังนั้นต้องมาดูว่าการควบคุมจะเป็นอย่างไร อย่างเช่นถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชังจะเป็นอย่างไร เมื่อมีการเลือกตั้งแล้วมีการเตรียมการป้องกันหรือยังต้องมาช่วยกันคิดว่า พลังนี้จะสร้างสรรค์อย่างไร สร้างระบบการป้องกันและภูมคุ้มกันอย่างไร และสื่อหลักจะต้องคิดว่าจะสร้างคุณค่าให้กับสังคมอย่างไร มากกว่าการนำข้อมูลมาเรียงๆ
นายอภิสิทธิ์ ยังเห็นด้วยว่า พลังโซเชียลสามารถเปลี่ยนแปลงการเมืองได้ เพราะการเมืองเป็นการต่อสู้ทางความคิด อิงข้อมูลข่าวสาร เมื่อรูปแบบการรับข่าวสารเปลี่ยนไป ก็ทำให้การเมืองเปลี่ยนไป แต่สิ่งสำคัญคือเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดมากกว่า ซึ่งพลังโชเชียลสร้างกระแสทางการเมืองได้ ทั้งนี้เชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป โซเชียลมีเดียจะกลายเป็นสมรภูมิหลักในการหาเสียงและเป็นเครื่องมือในการระดมพลังทางการเมืองด้วย
"ปัจจุบันโซเชียลกลายเป็นกระแสหลัก ผู้บริโภคสื่อกลายเป็นผู้ผลิตสื่อ แต่เป็นโอกาสที่ดีในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง เพราะสามารถจุดประเด็น สะท้อนปัญหาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่าในอดีตที่สื่อหลักมีบทบาทมากกว่า" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยังเห็นด้วยว่า พลังโซเชียลสามารถเปลี่ยนแปลงการเมืองได้ เพราะการเมืองเป็นการต่อสู้ทางความคิด อิงข้อมูลข่าวสาร เมื่อรูปแบบการรับข่าวสารเปลี่ยนไป ก็ทำให้การเมืองเปลี่ยนไป แต่สิ่งสำคัญคือเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดมากกว่า ซึ่งพลังโชเชียลสร้างกระแสทางการเมืองได้ ทั้งนี้เชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป โซเชียลมีเดียจะกลายเป็นสมรภูมิหลักในการหาเสียงและเป็นเครื่องมือในการระดมพลังทางการเมืองด้วย
"ปัจจุบันโซเชียลกลายเป็นกระแสหลัก ผู้บริโภคสื่อกลายเป็นผู้ผลิตสื่อ แต่เป็นโอกาสที่ดีในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง เพราะสามารถจุดประเด็น สะท้อนปัญหาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่าในอดีตที่สื่อหลักมีบทบาทมากกว่า" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น