วันที่ 20 มี.ค.2561 มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ได้จัดแถลงข่าวการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ซึ่งกำหนดพิธีบำเพ็ญกุศลฯ ระหว่างวันอังคารที่ 22 – วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น และจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันอังคารที่ 29 มกราคม 2562 ณ พุทธมณฑลอีสาน จังหวัดขอนแก่น
และเมื่อหลังจากพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สถานที่ตรงนี้จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และได้วางแผนการก่อสร้างอนุสรณ์สถานครอบไว้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงคุณงามความดีให้ศิษยานุศิษย์สามารถเข้าสักการะได้ โดยรูปแบบทางสถาปัตยกรรม จะใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์ มีรูปแบบประยุกต์ เรียบง่าย สมถะ สันโดษ บรรยากาศภายในใช้แสงเป็นสัญลักษณ์แห่งนิพพาน
สำหรับอนุสรณ์สถานพระเทพวิทยาคมได้ถูกออกแบบโดย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นอนุสรณ์สถานที่ถูกแบบออกให้มีลักษณะพิเศษหนึ่งเดียวในโลก ซึ่งข้อสรุปรูปแบบทางสถาปัตยกรรม เป็นดังนี้ เป็นอาคารที่ต้องคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน เป็นอาคารที่ออกแบบด้วยความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้หลักการออกแบบเพื่อคนทุกคน (Universal Design) รูปแบบกึ่งประเพณีประยุกต์ เรียบง่าย สมถะ สันโดษ แบบสถาปัตยกรรมอีสาน สอดคล้องกันทั้งกลุ่มอาคารโดยการใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์ บรรยากาศภายในใช้แสงธรรมชาติเป็นสัญลักษณ์แห่งนิพพาน
ทั้งนี้สามารถติดตามดูภาพในมุมต่างๆได้ที่ http://www.khonkaenlink.info/home/news/5925.html
ทั้งนี้ที่ห้องประชุมสารสิน ชั้น 2 อาคารสิริคุณากร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย พระธรรมวิสุทธาจารย์ (หลวงพ่อคูณ ขันติโก) เจ้าอาวาสวัดหนองแวงพระอารามหลวง และคณาจารย์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยบูรพา รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.ชูพงษ์ ทองคำสมุทร คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ได้ร่วมกันแถลงรายละเอียดความคืบหน้าในการเตรียมงานร่วมกัน
รศ.ดร.กิตติชัย กล่าวว่า เมื่อถึงเดือนมิถุนายน 2561 จะสิ้นสุดระบวนการจัดการเรียนการสอน และเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่เป็นกรณีพิเศษ สำหรับการเตรียมความพร้อมพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่หลวงพ่อคูณนั้น จะมีความร่วมมือของ 2 จังหวัด คือ นครราชสีมาและขอนแก่น โดยผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนานครราชสีมา รวมถึงศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อคูณ ได้ประสานอาสามาช่วยเป็นแม่งานในการจัดเตรียมพิธีการต่างๆ ในช่วงการบำเพ็ญกุศลและวันฌาปนกิจด้วย
“สำหรับกรณีการรวบรวมเก็บอัฐิของหลวงพ่อคูณนั้น พินัยกรรมระบุไว้ว่าอัฐิเถ้าถ่านทั้งหมด ให้เอาไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขงทั้งหมด ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ออกแบบหีบสแตนเลส มีระบบการปิดเปิด โดยจะวางหีบไว้ใต้เมรุลอยนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก เพื่อให้เถ้าถ่านทุกชิ้นอยู่ภายใน สามารถยกไปลอยอังคารได้ทันที สำหรับสถานที่ลอยอังคาร คาดว่าจะเป็นแม่น้ำโขงที่ จ.หนองคาย ส่วนจะบริเวณใดนั้น จะประสานไปยังจังหวัดอีกครั้ง ส่วนรายละเอียดการจัดงาน มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งทางผู้เกี่ยวข้องจะได้แถลงข่าวให้ทราบเป็นระยะ” รศ.ดร.กิตติชัย กล่าว
ส่วน รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การออกแบบเป็นรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหลังซึ่งจินตนาการถึงสวรรค์ บนฐานแปดเหลี่ยม พร้อมประดับประดาด้วยสรรพสัตว์จากเขาพระสุเมรุ เพื่อจำลองเขาพระสุเมรุตามคติในพระพุทธศาสนา โดยออกแบบใหม่ทั้งหมดให้มีรูปทรงและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยแสดงถึงอัตลักษณ์ความโดดเด่นของชาวอีสาน เพื่อให้ผลงานออกมาวิจิตรงดงาม งานในครั้งนี้ ถือเป็นการรวบรวมช่างอีสานครั้งใหญ่ โดยในช่วงเกือนเมษายนนี้ ช่างอีสานทุกหมู่จะร่วมพิธีทำบุญเอาฤกษ์ เอาชัย พร้อมกัน
ขณะที่ พระธรรมวิสุทธาจารย์ กล่าวว่า สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) นั้น ตามพินัยกรรมได้ระบุให้ใช้สถานที่ที่วัดหนองแวงพระอารามหลวง หรือวัดอื่นที่เห็นว่าสมควรและเหมาะสม โดยทำพิธีการฌาปนกิจให้เสร็จสิ้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้เหมาะสม และสมเกียรติของหลวงพ่อคูณ ซึ่งเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่
"ในส่วนของการถวายเพลิงสรีระสังขารหลวงพ่อคูณนั้น ทุกฝ่ายเห็นพ้องได้พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้สถานที่แล้วเห็นว่าวัดหนองแวง ไม่สามารถรองรับศิษยานุศิษย์จำนวนมากได้ ประกอบกับเมรุที่วัดหนองแวง มีการใช้งานมานาน และประชาชน ยังใช้เป็นประจำ จึงให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำเมรุลอยชั่วคราว ที่ด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน บ้านเต่านอ ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น เพราะพื้นที่ดังกล่าวนี้มีอาณาบริเวณกว้างขวางสามารถรับรองรับประชาชนจำนวนมากได้”พระธรรมวิสุทธาจารย์ กล่าว
ส่วนนายทวัฒชัย แสนประสิทธ์ กำนันตำบลกุดพิมาน ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ด่านขุนทด กล่าวว่า สำหรับการเตรียมงานฌาปนกิจนั้น ทางเราก็ได้ปรึกษากับหลายฝ่าย โดยเฉพาะท่านเจ้าอาวาส ซึ่งวันงานนั้นชาวบ้านจะเดินทางมายังไง ทางจังหวัดนครราชสีมาจะต้องเตรียมการอีกหลายอย่างมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่อยากมาร่วมงาน ที่วัดบ้านไร่ ก็คงจะมีพิธีในวันเดียวกันกับทางขอนแก่น แต่เราจะต้องมีการพูดคุยกับผู้ใหญ่กันอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าทางจังหวัดขอนแก่น จะจัดงานแล้ว แต่ทางวัด ชาวบ้านก็อยากจะจัดงานเช่นกัน อาจจะมีการเผาหลอก หรืออาจจะมีการวางดอกไม้จันทน์
ผู้สูงอายุอาจจะเดินทางลำบาก และไม่มีโอกาสได้มาร่วมงานที่จังหวัดขอนแก่น อย่างน้อยส่วนหนึ่งที่ไม่ได้มาที่ขอนแก่น ได้ไปวางดอกไม้จันทน์ตามประเพณี สำหรับผู้ที่อยากมาร่วมงานที่จังหวัดขอนแก่น ที่จัดที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น คราวที่แล้วทางวัดได้จัดรถบัสโดยสารประมาณ 30 คัน ในการจัดงานครั้งนี้ ทางวัดก็จะจัดรถสำหรับให้บริการกับประชาชนอีกเหมือนเดิม แต่ต้องดูอีกครั้ง ซึ่งต้องเตรียมการ มีการพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการจัดงานที่วัดบ้านไร่ จะเป็นรูปแบบไหน ต้องรอฟังอีกครั้งหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น