วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560

เสวนาทำแผนอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาที่เมืองคอน




จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุมเสวนาขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 49 / 2559 เพื่อความสงบสุข ร่มเย็นของศาสนิกชนทุกศาสนา
   


วันที่ 13 กันยายน 2560 ที่ห้องประชุมประทุมลาภ โรงแรมทวินโลตัสนครศรีธรรมราชนายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมเสวนาขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 49 / 2559 โดยมีผู้นำศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีภารกิจสอดคล้องกับแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ เข้าร่วมประชุมเสวนา ซึ่งการประชุมเสวนาขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ



เป็นโครงการที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาลไทย โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในเรื่องมาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อเป็นมาตรการและกลไกในการส่งเสริมความเข้าใจอันดี และความสมานฉันท์ของศาสนิกชนของทุกศาสนา นำไปสู่การปฏิรูปประเทศ โดยในการเสวนาในวันนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.นครินทร์ แก้วโชติรุ่ง นักวิชาการศาสนา กรมศาสนา มาบรรยายให้ความรู้การขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ และการอภิปรายเรื่องแนวทางการขดลดหย่อนภาษีในการบริจาคให้ศาสนสถาน ของสมาคม มูลนิธิที่ดำเนินงานด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมด้วย
   


นายดนัย กล่าวว่า หลักการพื้นฐานเพื่อการบริหารจัดการแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 เป็นการขับเคลื่อนการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาขั้นต้น สร้างการยอมรับและการมีส่วนร่วมในการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาอย่างกว้างขวาง มุ่งให้เกิดกระบวนการบูรณาการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ทั้งฉบับกับทุกภาคส่วนของสังคม พร้อมทั้งผลักดันให้คนไทยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมศาสนา โดยยึดตามแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ เป็นกรอบทิศทางในการปฏิบัติ


อีกทั้งนำองค์ความรู้และกลไกภาคีเครือข่าย เป็นเครื่องมือในการกระจายการส่งเสริมศาสนาลงสู่ระดับพื้นที่ชุมชนด้วยยุทธศาสตร์ 6 ข้อสำคัญ ได้แก่ ส่งเสริมและสนับสนุนศาสนา ส่งเสริมและสนับสนุนการเผยแพร่หลักธรรมที่ถูกต้อง อุปถัมภ์ศาสนา คุ้มครองป้องกันการบ่อนทำลายศาสนา สร้างความเข้าใจอันดีและความร่วมมือระหว่างศาสนา และสร้างการรับรู้และความเข้าใจในกิจการศาสนา ซึ่งทั้ง 6 ยุทธศาสตร์นี้จะนำไปสู่ผลสำเร็จทำให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุข ร่มเย็น ศาสนิกชนทุกศาสนาอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุข มีความปรองดองและสมานฉันท์ ประชาชนมีพฤติกรรที่ถูกต้องดีงาม ไม่มีอคติกับศาสนาอื่น โดยปฏิบัติตามหลักธรรมทางศาสนา น้องนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิต ดำรงรักษาไว้ซึ่งวิถีวัฒนธรรมไทย มีความสุขอย่างมั่นคงและยั่งยืน

........................

(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ธรรมะกับประชาธิปไตยไยห่วงใยสถาบันศาสนา

การวิเคราะห์ประชาธิปไตยในปริบทพุทธสันติวิธีชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในระบอบประชาธิปไตย เพื่อลดความขัดแย้ง สร้างควา...