วันอังคารที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2560

"ซูจี"ลั่น!ไม่กลัวถูกตรวจสอบปม"โรฮิงญา"



"ซูจี"แถลงปม"โรฮิงญา"ไม่กลัวถูกตรวจสอบ พร้อมเดินหน้าสร้างเสถียรภาพในรัฐยะไข่ ยันยังมีมุสลิมโรฮิงญาอีกจำนวนมากที่อยู่ร่วมกับคนในชุมชนได้อย่างสันติ


วันที่ 19 ก.ย.2560 นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและผู้นำรัฐบาลเมียนมา ได้แถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับประเด็นชาวโรฮิงญาว่า เมียนมาไม่กลัวการตรวจสอบจากนานาประเทศ และเดินหน้าจะสร้างเสถียรภาพให้เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ให้ได้ และขอประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบ พร้อมต้องการสืบหาสาเหตุว่า เพราะเหตุใดชาวโรฮิงญาจึงอพยพออกจากเมียนมา เพราะที่ผ่านมาเมียนมาไม่เคยเลือกปฏิบัติต่อชาวมุสลิมโรฮิงญา และปัจจุบันชาวมุสลิมโรฮิงญาในเมียนมา สามารถเข้าถึงโครงการต่างๆของรัฐบาลทุกโครงการ รวมทั้ง โครงการด้านการศึกษาได้อยู่แล้ว


นางซูจี กล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.เป็นต้นมา ไม่ได้มีเหตุปะทะเพิ่มเติมระหว่างกองทัพกับกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐยะไข่อีกเลย และถึงแม้จะมีชาวโรฮิงญาจำนวนมากอพยพเข้าไปยังบังกลาเทศ แต่ก็มีชาวมุสลิมโรฮิงญาอีกจำนวนมากที่อยู่ร่วมกับคนในชุมชนได้อย่างสันติ


"เมียนมากำลังอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่านสู่ระบบการปกครองรูปแบบประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยของเมียนมาอาจจะยังไม่สมบูรณ์ จึงอยากให้ประชาคมโลกมีความเชื่อมั่นและศรัทธาเมียนมาในเรื่องนี้  เมียนมา เป็นประเทศที่มีความสลับซับซ้อน และประชาคมโลกคาดหวังว่าเราจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ขณะที่รัฐบาลของเราบริหารประเทศมาได้ 18 เดือนเท่านั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่สั้นมากสำหรับการแก้ปัญหาต่างให้ได้ตามที่ประชาคมโลกคาดหวัง แต่ไม่ได้หมายความว่าเรา ไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้" นางซูจี กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการแถลงของนางซูจีในครั้งนี้ได้มีประชาชนชาวเมียนมาและชนเผ่าร่วมให้กำลังในเป็นจำนวนมากพร้อมถือป้ายให้กำลังใจ อย่างก็ตามก่อนหน้านี้นางซูจีได้ประกาศจะไม่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่นครนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริการะหว่างวันที่ 18-25 ก.ย. โดยมีการกล่าวสุนทรพจน์ของบุคคลสำคัญของโลกเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเกาหลีเหนือความรุนแรงตะวันออกกลาง ร่วมถึงปัญหาโรฮิงญา


ทั้งนี้เว็บไซต์ http://www.mtoday.co.th ได้รายงานการกล่าวของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ  โดยระบุว่า ปัญหาโรฮิงญาเป็นปัญหาร้ายแรงระดับสองรองจากปัญหาเกาหลีเหนือ ได้รายงานคำกล่าวของทนายความของชาวโรฮิงญา ที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาของอินดีย คัดค้านคำสั่งของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ที่เนรเทศชาวโรฮิงญาที่ลี้ภัยอยู่ในอินเดียประมาณ 40,000 คน ออกนอกประเทศ อ้างหวั่นภัยก่อการร้ายจะเกิดขึ้นกับอินเดีย


เว็บไซต์ http://www.mtoday.co.th ได้ระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีอินเดีย จากพรรคฮินดูชาตินิยมขวาจัด ได้เดินทางไปเยือนเมียนมา และได้แสดงความเห็นใจออง ซาน ซูจี ที่ต้องเผชิยกับภัยก่อการร้าย และระบุว่า จะร่วมมือกับเมียนมาในการแก้ปัญหา และได้รายงานการที่ "แองเจลีน่า โจลี" ดาราฮอลลีวู๊ดคนดัง ได้ออกมาประณามความรุนแรงที่กระทำต่อชาวมุสลิมโรฮิงญาในเมียนมา โดยอ้างอิงแหล่งที่มาจาก "Welt Am Sonntag" ที่ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ โจลี่ กรณีความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญาว่า การกระทำรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่ทหารต้องยุติลงและทางการต้องอนุญาตให้ชาวโรฮิงญากลับมายังบ้านเรือนในรัฐยะไข่ รวมทั้งจะต้องให้สิทธิด้านพลเมืองแก่พวกเขาด้วย


“ทุกคนตั้งความหวังถึงสิ่งที่นางอองซานจะกระทำในสถานการณ์เช่นนี้คือการให้สิทธิมนุษยชนแก่คนเหล่านี้ที่ผ่านมานางซูจี ถูกประณามอย่างรุนแรงเนื่องจากนางมิได้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยและปกป้องความรุนแรงที่เกิดขึ้นชาวโรฮิงญาต้องเผชิญกับการประหัตประหารจากประชาชนชาวเมียนมาส่วนใหญ่ที่นับถือศาสนาพุทธมานานหลายสิบปี” เธอกล่าว และว่า ชาวโรฮิงญาถูกปฏิเสธการให้สัญชาติแม้จะอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษวิกฤติ ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นใน 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ชาวโรงฮิงญากว่า400,000คนต้องละทิ้งบ้านเรือนหนีเข้าไปในบังคลาเทศ

...........

(หมายเหตุ : ขอบคุณภาพจาก Peacelocalprang Srisaketprang)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์

  วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์ บทนำ “จาล...