วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ชาวสุรินทร์โวย!!นายทุนข้ามชาติฮุบที่ป่าสาธารณะกว่าพันไร่




 วันที่ 15 พ.ค.2561 ชาวบ้านกระเบื้องใหญ่  หมู่ที่ 1 และชาวบ้านม่วงราชเจริญ หมู่ที่ 10 และชาวบ้านชาวบ้าน ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ โดยการลงลายมือชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากการเข้ามา บุกรุกที่ ป่าทำเลสาธารณะประโยชน์คูหนองแต้ เนื้อที่ 1,293 ไร่ครอบคลุมพื้นที่ ระหว่าง หมู่บ้านกระเบื้องใหญ่, บ้านม่วงราชเจริญ, ลำดวน ซึ่งปัจจุบันพบว่า ได้มีชาวบ้านและนายทุนข้ามชาติ กว้านซื้อที่ดิน บุกรุกทำนาในพื้นที่เกือบทั้งหมด ทั้งๆที่มีป้ายติดข้อความว่า “ห้ามทำนาในพื้นที่เลี้ยงสัตว์ ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ” ในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ดังกล่าวมีการทำนาทั้งหมด ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 3 หมู่บ้าน หลายร้อยหลังคาเรือน ได้รับความเดือนร้อนหนัก เนื่องจากไม่มีพื้นที่ในการเลี้ยงสัตว์ ในฤดูกาลทำนา และหน้าแล้ง เนื่องจากชาวบ้านเคยใช้ประโยชน์ร่วมกัน ก่อนจะมีนายทุนข้ามชาติ และชาวบ้านบางส่วนเข้ามาบุกรุก ทำให้ไม่มีพื้นที่ในการเลี้ยงสัตว์  เช่น วัว ควาย ช้าง เป็นต้น จึงร้องเรียนมายังสื่อ ลงพื้นที่นำเสนอข่าวช่วย



พื้นที่ป่าทำเลสาธารณะประโยชน์คูหนองแต้เนื้อที่ 1,293 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ ระหว่าง หมู่บ้านกระเบื้องใหญ่, บ้านม่วงราชเจริญ, ลำดวน  พบชาวบ้าน ที่ร้องเรียน กว่า 50 คน มีนายสมุทร  ทองทิพย์ อายุ 55 ปี ชาวบ้านกระเบื้องใหญ่ เป็นแกนนำ พาลงสำรวจพื้นที่ พบมีการไถ่นา หว่านข้าว เกือบเต็มพื้นที่ จากป่าทำเลสำหรับเลี้ยงสัตว์ กลับกลายมาเป็นทุ่งนา ทั้งนี้ชาวบ้าน ได้เดินทางไปยืนหนังสือ ร้องเรียนของความเป็นธรรม ที่ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ โดยมี นางสาวธนัชชพร สุขเสริม เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอชุมพลบุรี งานอำนวยความเป็นธรรม รับเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว  ต่อมาชาวบ้านได้ทำเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายสนอง ตระกูลรัมย์  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกระเบื้อง




เพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้น สอบถามชาวบ้านบ้านม่วงราษฎร์เจริญ หมู่10 ที่ถูกร้องเรียนว่า บุกรุกเข้าทำกินใน ป่าทำเลสาธารณะประโยชน์ “ คูหนองแต้”ได้พบกับ พ่อเมิน  บุญหลัง อายุ 91ปี และ แม่ซิม บุญหลัง อายุ 82 ปี และแม่เหรียญ ศรีสง่า อายุ 82 ปี เปิดเผยว่า ตนและครอบครัว รวมทั้งชาวบ้าน ที่ทำนา ได้ทำมาตั้งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตาทวด แล้วจึงอยากขอความเห็นใจจากท่านผู้มีอำนาจช่วยลงมาดูแลให้หน่อย

นายไว บุญกอง อายุ 62 ปี ชาวบ้านกระเบื้องใหญ่  ตัวแทนชาวบ้านที่ร้องเรียน กล่าวว่า ตนและชาวบ้าน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยว เอาจริงและลงพื้นที่ ทวงคืนที่ดินสาธารณะประโยชน์ ป่าทำเลเลี้ยงสัตว์  เพื่อให้ชาวบ้านได้มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ชาวบ้านเดือนร้อนมานานแล้ว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่แก้ปัญหา เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย ตนและชาวบ้านก็พร้อมจะรับฟัง ทั้งสองฝ่าย เพราะไม่ต้องการเห็นคนเอาที่สาธารณะไปเป็นของตนเอง สร้างปัญหาความแตกแยก เรื้อรังให้กับชาวบ้าน ไม่มีที่ทำเลเลี้ยงสัตว์

นายวัน พุทธานุ อายุ 67 ปี ชาวบ้านม่วงราชเจริญ ชาวบ้านที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุก กล่าวว่า หลัก นสล.ก็มาที่หลัง ป้ายก็มาที่หลัง  ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นที่หลวง ตนเข้าทำนามาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย บรรพบุรษให้มา ไม่เคยบุกรุกที่ดินของใคร วอนหน่วยงานรัฐผู้มีอำนาจลงพื้นที่มาดูแลด้วย

ด้าน นายวิชาติ  หิรัญประจักษ์ นายช่างอาวุโส รักษาการแทน ที่ดินจังหวัดสุรินทร์ สาขาอำเภอชุมพลบุรี กล่าวว่า จากการทำประชาคมชาวบ้านส่วนหนึ่งได้ขอเข้าทำประโยชน์ ในป่าทำเลสาธารณะประโยชน์คูหนองแต้ แต่ปรากฏว่า ชาวบ้านกว่า 100 คนที่เข้าร่วมประชาคมไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่าที่ดินสาธารณะประโยชน์ตรงนี้ เป็นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ อยากให้มีการหวงแหนไว้เป็นทรัพย์สมบัติของชาติ และให้ประชาชนได้มีโอกาสใช้ประโยชน์ร่วมกัน  ทั้งนี้ ที่ดินแปลงสาธารณะประโยชน์คูหนองแต้ ได้มีการออกรรังวัด นสล.แล้ว ก็ถือว่าชอบด้วยกฏหมาย

...............

(หมายเหตุ ที่มา http://www.surinnews.com/archives/1209)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ดร.เฉลิมชัย" ดันโครงการธรรมจักรสีเขียว สร้างวัดต้นแบบเพิ่มพื้นที่ป่าทั่วประเทศ "ชูศักดิ์" ดันตั้งคกก.ระดับชาติแก้ปัญหาที่ดินวัดที่ซับซ้อน

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567  ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ...