"4 กระทรวงหลักจับมือจัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างโอกาสพัฒนาอาชีพสู่เศรษฐกิจชุมชน เปิดสอนหลักสูตร “การผลิตบ๊ะจ่าง สร้างโอกาส” และ “ผลิตน้ำยำ ต่อยอดการสร้างอาชีพ” ให้คนในชุมชนเขตบางกะปิ เล็งขยายผลจัดตามชุมชนทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ที่วัดจันทวงศาราม (กลาง) เขตบางกะปิ มีการจัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างโอกาสพัฒนาอาชีพสู่เศรษฐกิจชุมชน ภายใต้โครงการยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรมและวิสาหกิจชุมชน โดยกองทุนพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมี ดร.ไพลิน เทียนสุวรรณ เลขานุการรมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรม น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนนท์ เลขานุการ รมช.คลัง และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้ฝึก อาชีพจำนวนมาก ซึ่งในครั้งนี้มีการเปิดสอนหลักสูตร การผลิตบ๊ะจ่าง สร้างโอกาส และการผลิตน้ำยำเพื่อต่อยอดการสร้างอาชีพ
ดร.ไพลิน กล่าวว่า โครงการฝึกอบรมดังกล่าวได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้บริการประชาชน เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารอิสลาม เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ รัฐบาลให้ความสำคัญเกี่ยวกับการสร้างอาชีพของชุมชน ตนได้รับการประสานจาก น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนนท์ เลขานุการ รมช.คลัง ให้มาร่วมให้ความรู้ และสอนการสร้างอาชีพให้กับประชาชน เขตบางกะปิ ถือเป็นกิจกรรมที่ดีเป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ จึงได้กำหนดนโยบายในมิติการกระจายรายได้ให้กับประชาชน เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เน้นการสร้างโอกาส สร้างงาน และสร้างอาชีพ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล และทั้ง 4 กระทรวง เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ก่อให้เกิดการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ และความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนให้ดีขึ้น นำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนลดความเหลื่อม สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ในสาขาอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ด้วยตนเองให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและเกิดมูลค่าเพิ่มได้
นอกจากนั้น จะทำให้ผู้ประกอบการหรือประชาชนในพื้นที่สามารถนำองค์ความรู้ และสั่งสมความเชี่ยวชาญที่ได้รับไปถ่ายทอดให้คนในชุมชนรุ่นต่อไป และขยายผลไปยังพื้นที่อื่นทั่วประเทศจะสามารถช่วยยกระดับเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจฐานราก ทำให้เกิดการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดการกระจายรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน เกิดการสร้างงานและสร้างอาชีพในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนได้หมุนเวียนได้ ส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากเติบโตและมีความเข้มแข็ง
เลขานุการรมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า หวังว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ส่งเสริมในการร่วมแรงร่วมใจจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นโครงการที่เป็นโอกาสของสังคม สร้างรายได้ ให้แต่ละคนได้พึ่งพาตนเอง ยกระดับอาชีพนำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ โดยได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านผู้มีความรู้มีประสบการณ์ เพื่อให้ทุกคนได้ฝึกอาชีพ ในการต่อยอดทำธุรกิจและสร้างอาชีพต่อไป
ด้าน น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนนท์ เลขานุการ รมช.คลัง กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการสร้างโอกาสสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนถือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์กับประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบางในชุมชน สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนสังคมผู้สูงอายุ สามารถทำให้ประชาชนในชุมชนพัฒนาต่อยอดไปสู่อาชีพได้ วันนี้ธนาคารต่างๆ มาถึงในพื้นที่พร้อมให้คำปรึกษา ทั้งการออม การลดการเป็นหนี้นอกระบบ และยังสามารถขอกู้เงินเพื่อเป็นต้นทุนในการประกอบอาชีพได้ด้วย
“การจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้บูรณาการร่วมกันระหว่าง 4 กระทรวงคือกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกิจกรรมรวมมิตรเพื่อช่วยเหลือประชาชน ให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ ลดปัญหาหนี้ครัวเรือน สร้างความเข้าใจด้านวินัยการเงินการคลัง โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเปราะบาง กิจกรรมครั้งนี้เป็นกิจกรรมนำร่อง ในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากนี้จะมีการกระจายจัดกิจกรรมลักษณะนี้ไปทั่วประเทศ เพราะเราเห็นความจำเป็นในการให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนของรัฐ เพื่อให้มีทุนไปประกอบอาชีพ”เลขานุการรมช.คลัง กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น