วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2567

เพราะคำว่ า"สู้ครับ" อยู่มา 30 ปีแล้ว บนถนนเปื้อนน้ำหมึก


วันที่ 5 มีนาคม วันนักข่าว ขอย้อนอดีต... จบนักธรรมเอก ปริญญาตรีมหาวิทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) คณะพุทธศาสตร์เอกปรัชญา  สึกออกมาครองเพศฆราวาสได้เพราะปี 2535 กรมยุทธศึกษาทหารบก เปิดสอบอนุศาสนาจารย์ 18 อัตรา แต่ปรากฏว่าสอบไม่ได้ ไปสมัครสอบที่กรมการศาสนา กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ก็กินแห้วลงสมัคร ส.ส.ก็ไม่ได้ จึงไปสมัครร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งตำแหน่งใหญ่โตทำทุกอย่างถูพื้น จัดของ เข้าเครื่องคิดเงิน เงินช็อต 1 พันบาท อยู่ได้ 5 เดือน ลาออกไปสมัครตำแหน่งสจ๊วตโรงแรมแห่งหนึ่งย่านราชเทวี เราก็นึกว่าตำแหน่งใหญ่โตเหมือนอยู่บนเครื่องบน ที่ไหนได้เป็นพนักงานเก็บจานดีๆ นี่เอง แต่ทำงานที่โรงแรมดีอย่างหนึ่งคือการได้เรียนรู้การเข้าสังคม โดยจะมีการประชุมช่วงของเปลี่ยนผลัด จึงทำให้มีความรู้ของโต๊ะอาหารในโรงแรมจนถึงปัจจุบัน

อยู่ได้ 20 วันอาบุญจันทร์คนศรีสะเกษที่เคยอยู่วัดเทวราชกุญชรได้แนะนำให้ไปสมัครเป็นักข่าวที่หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ซึ่งไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่ก็เคยคิดว่าจะไปสมัครเป็นคนพิสูจน์อักษรเหมือนกันจึงตัดสินใจไปสมัคร โดยอาบุญจันทร์แนะนำให้ไปหาพี่เงาะ(ทวีศักดิ์ ศรีปาน) หัวหน้าข่าวการเมืองหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ก็ไปแบบงงงง ไม่มีพื้นฐานความรู้เลยว่าทำข่าวเขาทำกันอย่างไร แต่เป็นเพราะช่วงนั้นนักข่าวประจำกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขขาด

เข้าทดลองงานที่กองบก.การเมืองหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจได้สองสามวัน พี่ "อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ"  บรรณาธิการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เรียกไปสัมภาษณ์ ก็ถามประวัติจบอะไรมา แล้วจะสู้เขาได้หรือ ก็ตอบไปว่า "สู้ครับ" ก็ทำหน้าที่เป็นนักข่าวตั้งแต่ปั 2536 ตั้งแต่นั้นมาโดยประจำที่กระทรวงศึกษาธิการยุคที่นายสัมพันธ์ ทองสมัคร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขสมัยนายบุญพันธ์ แขวัฒนะ เป็นรัฐมนตรีว่าการ และนายแพทย์มรกรต กรเกษม เป็นเลขาธิการ อย.   ต่อมามีการปรับโครงสร้างภายในเครือเนชั่น ถูกย้ายไปสังกัดสำนักข่าวเนชั่น  แต่ยังคงเป็นนักข่าวภาคสนามประจำกระทรวงอยู่ โดยเริ่มแรกที่กระทรวงศึกษาธิการนั้นก็ไปประจำที่ห้องนักข่าวแบบงงและไปนั่งที่โต๊ะด้านนอกและได้แนะนำและได้รับคะแนนนำจากคุณตี่(กมลทิพย์ ใบเงิน) ที่สังกัดหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น ก็นั่งอยู่แบบนั้นหลายวัน และได้สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนนักข่าวประจำกระทรวงศึกษาธิการ โดยไม่รู้ว่าแต่ละวันนั้นเขาไปทำข่าวกันที่ไหนอย่างไรเมื่อใด นักข่าวที่สนิทคนแรกคือประเสริฐแนวหน้า ตามด้วยต่อศักดิ์มติชน  พอเขาไปทำข่าวเสร็จแล้วก็มาพิมพ์ข่าว เมื่อเขาส่งข่าวเข้าออฟฟิศเสร็จแล้วก็ยื่นมาให้เราส่งบ้าง "อ้าวพี่มหาส่งข่าวเข้าออฟฟิศ"  โดยเขาเรียกชื่อเล่นเราว่า "มหา" และเป็นชื่อเล่นนั้นวงการนักข่าวตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา 

ทำงานเป็นนักข่าวมานานเป็นปีก็พยายามเรียนรู้ว่าเขาทำงานข่าวกันอย่างไรแบบงงงงถึงสามารถพอที่จะทำข่าวเขียนข่าวเองได้ ถ้าถามว่าตอนนั้นรู้ประเด็นข่าวหรือยังก็ตอบว่ายัง

จุดเริ่มต้นที่ทำให้สามารถอยู่บนถนนของการเป็นนักข่าวได้ก็คือข่าว "ยันตระ" ที่สามารถทำข่าวได้ รายงานวิทยุได้    ถ้าถามว่าตอนนั้นรู้ประเด็นข่าวหรือยังก็ตอบว่ายังเช่นกัน

เพราะความเป็นนักข่าวประจำกระทรวงศึกษาธิการใกล้กับทำเนียบรัฐบาล จึงทำให้วันอังคารกองบก.ให้ไปช่วยงาน จึงทำให้รู้จักกับนักข่าวทำเนียบรัฐบาล และช่วงปี 2540 ก็ถูกย้ายไปประจำที่รัฐสภาที่ตั้งอยู่ตรงข้ามสวนสัตว์ดุสิต และเป็นนักข่าวประจำพรรคการเมืองเริ่มจากพรรคความหวังใหม่  ถ้าถามว่าตอนนั้นรู้ประเด็นข่าวหรือยังก็ตอบว่ายัง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นนักข่าวแกะเทปเสียมากกว่า และก็เรียนรู้อยู่เสมอจึงทำให้สามารถผ่านมาได้ และผ่านวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง

หลังจากนั้นได้ถูกดึงเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศสำนักข่าวเนชั่นปี 9 -11 ทำหน้าที่รีไรท์ข่าวนอกจากข่าวการเมืองแล้วยังได้เรียนรู้ข่าวอื่นๆ มากขึ้น  ถ้าถามว่าตอนนั้นรู้ประเด็นข่าวหรือยัง ก็ตอบว่ารู้แล้ว และในช่วงนี้เองได้ย้ายจากสายการเมืองไปรับผิดชอบข่าวท้องถิ่นด้วยและปิดหน้าข่าวท้องถิ่นเกี่ยวกับการเมืองหนังสือพิมพ์คมชัดลึก จึงทำให้รู้ความเครือข่ายโยงใยของนักการเมืองระดับท้องถิ่นกับระดับชาติ สามารถพอวิเคราะห์การเมืองออกว่าเป็นอย่างไร 

ต่อมาในปี 2546 เนชั่นเปิดเว็บไซต์ในเครือ จึงได้ตัดสินใจย้ายไปสังกัดเว็บไซต์คมชัดลึกเพราะต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ  และในช่วงปี 2556 ได้ตัดสินใจเรียนต่อในระดับปริญญาโท หลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ด้วยหลักคิดก็คือหากเรียกเอกปรัชญาเช่นเดิมคงไม่ไหว แต่เมื่อเรียนแล้วมีความสนุกที่ได้เรียนรู้แนวคิดทฤษฎีการสื่อสาร ที่เรียนปรัชญามาก็มีประโยชน์ช่วงนี้ จนถึงปี 2559 จึงตัดสินใจเออร์ลี่รีไทร์ 

ต่อมาอ๋อยบ้านเมืองที่เคยเป็นนักข่าวรัฐสภาด้วยกัน ดึงมาทำงานข่าวเว็บไซต์หนังสือพิมพ์บ้านเมืองออนไลน์ด้วย และช่วงนี้ก็ได้เรียนต่อในระดับปริญญาเอก  หลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และจบในปี 2563 ถือได้ว่าเป็นดอกเตอร์นักข่าวคนหนึ่ง จนถึงปัจจบันวันที่ 5 มีนาคม 2567 วันนักข่าว ดังนี้แล


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"มจร วัดไร่ขิง" เปิดหลักสูตรปั้น "มัคนายก" ต้นแบบ พร้อมใบรับรองเพิ่มความรู้สร้างอาชีพ

 เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567   พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ รองผอ.วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ &q...