วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2567

"โก้ เมืองเพชร" ควายเผือกพ่อพันธุ์ ใหญ่สุดในประเทศ "เศรษฐา" ดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์โชว์ระดับสากล



สมาคมพัฒนาพันธุ์ควายไทย เข้าพบนายกฯ นำ “โก้ เมืองเพชร” ควายเผือกพ่อพันธุ์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โชว์สื่อทำเนียบฯ หวังดันควายไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไปสู่ระดับสากล

เมื่อวันที่ 20  มีนาคม 2567 เวลา 09.00 ณ หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ อุปนายกสมาคมพัฒนาพันธุ์ควายไทย และกรรมการสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาพันธุ์ควายไทย พร้อมสมาชิกสมาคมพัฒนาพันธุ์ควายไทย เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้รัฐบาลช่วยส่งเสริมควายไทยเป็น Soft Power พร้อมทั้งนำเสนอ “โก้ เมืองเพชร” ควายเผือกพ่อพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยนายเจ วนาสุวรรณ เจ้าของวนาสุวรรณฟาร์ม และนายดำรงศักดิ์ มรกฏ เจ้าของเก้ามรกฏฟาร์ม ร่วมเข้าพบด้วย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญสรุป ดังนี้



นายกรัฐมนตรีเดินมาชม “โก้ เมืองเพชร” ซึ่งเป็นควายเผือกพ่อพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีค่าตัวการซื้อขายสูงสุดในปัจจุบัน 18 ล้านบาท อายุ 4 ปี 11 เดือน น้ำหนัก 1,500 กิโลกรัม ส่วนสูง 175 เซนติเมตร โดยนายกฯ ได้ลูบบริเวณเขาควายและลำตัวของ “โก้ เมืองเพชร” ด้วยความชื่นชมและเอ็นดู พร้อมกล่าวไม่เคยทราบว่าในประเทศไทยมีควายที่สวยที่สุดอยู่ในประเทศ รัฐบาลพร้อมยินดีสนับสนุนควายทุกสายพันธุ์ อาทิ พญาควาย ควายแพะ   พญาควายเผือก อีกทั้งอยากให้มีการนำควายไทยสายพันธุ์ใหญ่ไปจัดแสดงที่ต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ และส่งเสริมให้เป็นซอฟพาวเวอร์ควายไทยอีกด้วย ส่วนกรณีที่จะมีการนำควายพ่อพันธุ์เข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์นั้น นายกฯ เน้นย้ำในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยด้วย ทั้งนี้ เชื่อว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกมาก 

พร้อมกันนี้ นายกฯ ขอให้สมาคมพัฒนาพันธุ์ควายไทยและเจ้าของวนาสุวรรณฟาร์ม ไปหารือร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวกับการที่จะนำควายไทยสายพันธุ์ใหญ่ไปจัดแสดงที่ต่างประเทศ เช่น สปป.ลาว เวียดนาม และจีน เพราะต่างชาติเห็นพ่อพันธุ์ควายยักษ์ของไทยแล้วอยากจะเข้ามาซื้อพ่อพันธุ์จากเรา เพราะฉะนั้น ควายตัวผู้จากที่ไม่มีราคาก็จะมีราคาขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่น ๆ เช่น ทำอย่างไรที่จะทำให้ควายพื้นบ้านราคาไม่ตกต่ำลง ซึ่งยังมีผลกระทบอยู่ ตลอดจนการหาแนวทางในการพัฒนาควายไทยให้ยั่งยืน

สำหรับการเข้าพบนายกฯ ของสมาคมพัฒนาพันธุ์ควายไทยครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญที่ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุน คือ (1) ขอให้รัฐบาลช่วยส่งเสริมให้ควายไทยเป็น Soft Power ที่จะสามารถยกระดับอุตสาหกรรมควายยักษ์ควายสวยงามได้อย่างอุตสาหกรรมปลาคาร์ฟของประเทศญี่ปุ่นสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวซึ่ง ททท. จะสามารถต่อยอดได้ (2) ผลักดันพ่อพันธุ์ควายไทยไป Roadshow ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งควายตัวผู้จะเป็นสัตว์มีมูลค่าสูงขึ้นทันที สามารถต่อยอดการเกษตรสร้างรายได้ให้เกษตรกรจากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับควาย เช่น นมควาย รกควาย เสื้อฟาร์มควาย กางเกงควาย รวมถึงการปลูกหญ้า สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกร ขณะที่มูลควายทำปุ๋ยอินทรีย์ขายได้ราคาและเป็นการลดมลพิษจากปุ๋ยเคมีอีกด้วย เป็นต้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรมพัฒน์ ร่วม NECTEC ดันแผนพัฒนาแรงงานด้าน AI เป้า 3 ปี 10,000 คน

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ดันแผนพัฒนากำลังคนด้านปัญญาประดิษฐ์ เป้าหมาย 10,000 คน ในระยะ...