บทความนี้วิเคราะห์ความเป็นไปได้ – ความจำเป็น – และผลกระทบของการพัฒนาแอปพลิเคชัน “ธนาคารพระพุทธศาสนา” (Buddhist Banking App) ซึ่งเสนอให้เป็นช่องทางรวมศูนย์ข้อมูลและบริหารทรัพย์สินของวัดและพระสงฆ์ภายใต้ธนาคารของรัฐ โดยมุ่งสร้างธรรมาภิบาล ลดการทุจริต และต่อยอดเงินศรัทธาเพื่อประโยชน์สาธารณะ การศึกษาประยุกต์กรอบ Public Financial Management (PFM), แนวคิด e-Governance และหลัก FinTech for Social Good เพื่อตรวจสอบความเสี่ยง–โอกาส พร้อมนำกรณีปัญหาปัจจุบัน (บัญชีวัด “นอกระบบ”, การใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์, การซื้อขายสมณศักดิ์ ฯลฯ) มาเป็นตัวตั้งในการออกแบบระบบ
1. บทนำ
ข้อมูลจาก TDRI ชี้ว่าเงินฝากรวมของวัด-พระสงฆ์ทั่วประเทศอาจเกิน 1 ล้านล้านบาท แต่มีเพียง 39,000 จาก 44,000 วัดที่มีบัญชีวัดในระบบ ส่วน “บัญชีพระ” ไม่ปรากฏในฐานข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ปรากฏการณ์นี้สร้างข้อกังขาเรื่องความโปร่งใส และเปิดช่องให้เงินศรัทธาถูกใช้ผิดวัตถุประสงค์ บทความจึงตั้งคำถามหลักว่า “รัฐควรออกแบบระบบดิจิทัลอย่างไรให้ทรัพย์สินทางศาสนาโปร่งใส ตรวจสอบได้ และยังคงหลักสมณธรรม?”
2. กรอบแนวคิด
| กรอบ | ประเด็นวิเคราะห์ |
|---|---|
| PFM | หลักแยกเงินส่วนบุคคล–เงินส่วนราชการ → แยก บัญชีพระ / บัญชีวัด ชัดเจน, การกำกับโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) |
| e-Governance | ใช้ดิจิทัลยืนยันตัวตน (ThaiID) + โมบายแอป “ธนาคารพระพุทธศาสนา” เชื่อม API กับ G-Wallet, PromptPay, DOPA |
| FinTech for Social Good | เงินศรัทธาถูกนำไปหมุนเวียนปล่อยกู้ SMEs ดอกเบี้ยต่ำ → เกิด Social Return ในชุมชน |
| ธรรมาภิบาลสงฆ์ | ลดปัญหา “2 ส.—สตรี & สตางค์”, ตัดท่อน้ำเลี้ยงการซื้อสมณศักดิ์, ปิดช่องโกงเงินวัด |
3. โมเดลแอปพลิเคชัน
-
One Temple – One Account
เลขบัญชีวัด ผูกกับ รหัสวัด + เลขทะเบียนผู้ดูแล (ไวยาวัจกร) -
One Monk – One e-Wallet
บัญชีส่วนตัวพระสงฆ์ถูกแยกชัดเจน – วงเงินใช้จ่าย/ถอนต่อวันจำกัดตามมติ มส. -
Dashboard โปร่งใส
รายงานรายรับ-รายจ่ายเรียลไทม์ เปิดให้ พศ.-ไวยาวัจกร-ผู้ศรัทธาเข้าดูได้ (ตามระดับสิทธิ์) -
Smart Contract การเบิกจ่าย
ใช้ลายเซ็นดิจิทัล 2 จาก 3 (พระ-ไวยาวัจกร-เจ้าคณะ) อนุมัติอัตโนมัติ -
กองทุนหมุนเวียนเมตตา
30 % ของยอดเงินนิ่งเข้ากองทุนปล่อยกู้ SMEs / สหกรณ์วัด ดอกเบี้ยต่ำ → รายได้ดอกผลกลับสู่วัดร่วมสังคม
4. ผลประโยชน์ที่คาดหวัง
| มิติ | ผลลัพธ์ |
|---|---|
| ธรรมาภิบาล | ลดช่องทุจริตบัญชีเถื่อน > 5,000 วัด, ติดตามเส้นทางเงินได้ |
| เศรษฐกิจชุมชน | แหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ ~ 200,000 ล.บ. ต่อปี หนุน SMEs รากหญ้า |
| ศรัทธาสาธารณะ | ผู้บริจาคเห็นรายงานออนไลน์ → เพิ่มความเชื่อมั่น |
| สถาบันสงฆ์ | พระปลอดภาระถือเงินสด ลดข่าวบั่นทอนศักดิ์ศรี |
5. ความเสี่ยงและข้อท้าทาย
-
ต้านทานจากบางวัด/พระ – กังวลการถูกควบคุมเงิน
-
Cybersecurity – ฐานข้อมูลศาสนา + การเงิน ต้องมาตรฐาน ISO 27001
-
ภาษี-กฎหมาย – ต้องนิยาม “รายได้ที่ไม่ใช่กิจกุศล” ให้ชัด, เชื่อมกรมสรรพากร
-
Data Privacy – แยกข้อมูลส่วนบุคคลพระสงฆ์กับบัญชีวัดภายใต้ PDPA
-
สมดุลศาสนา-รัฐ – รัฐกำกับแต่ไม่แทรกแซงกิจการธรรมวินัย
6. ข้อเสนอเชิงนโยบาย
-
แก้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ เพิ่มหมวด “การคลังสงฆ์ดิจิทัล”
-
Memorandum of Understanding (MoU) ระหว่าง พศ. × ธนาคารออมสิน × ธปท.
-
ตั้ง “ศูนย์ธรรมาภิบาลทรัพย์สินสงฆ์” ทำหน้าที่กำกับ-ตรวจสอบ-สื่อสารสาธารณะ
-
Pilot 500 วัด / 5 จังหวัด ก่อนขยายทั่วประเทศภายใน 3 ปี
-
โครงการอบรมพระ-ไวยาวัจกรด้านการเงินดิจิทัล (Digital Financial Literacy for Monastics)
7. บทสรุป
แอป “ธนาคารพระพุทธศาสนา” คือกลไกดิจิทัลที่ตอบโจทย์สองแกนหลัก—ธรรมาภิบาลของศาสนา และ การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพื่อสังคม ภายใต้การกำกับของรัฐโดยไม่ละเมิดหลักสงฆ์ หากออกแบบกฎหมาย-โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล-การมีส่วนร่วมอย่างสมดุล ไทยจะได้ต้นแบบ Religious FinTech แห่งแรกของอาเซียนที่ยกระดับศรัทธาให้โปร่งใส ยั่งยืน และเกื้อกูลชุมชนอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น