วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

วิเคราะห์การพัฒนาแอปพลิเคชัน “ธนาคารพระพุทธศาสนา” ภายใต้รัฐดูแลทรัพย์สินสงฆ์ทั้งระบบ



บทความนี้วิเคราะห์ความเป็นไปได้ – ความจำเป็น – และผลกระทบของการพัฒนาแอปพลิเคชัน “ธนาคารพระพุทธศาสนา” (Buddhist Banking App) ซึ่งเสนอให้เป็นช่องทางรวมศูนย์ข้อมูลและบริหารทรัพย์สินของวัดและพระสงฆ์ภายใต้ธนาคารของรัฐ โดยมุ่งสร้างธรรมาภิบาล ลดการทุจริต และต่อยอดเงินศรัทธาเพื่อประโยชน์สาธารณะ การศึกษาประยุกต์กรอบ Public Financial Management (PFM), แนวคิด e-Governance และหลัก FinTech for Social Good เพื่อตรวจสอบความเสี่ยง–โอกาส พร้อมนำกรณีปัญหาปัจจุบัน (บัญชีวัด “นอกระบบ”, การใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์, การซื้อขายสมณศักดิ์ ฯลฯ) มาเป็นตัวตั้งในการออกแบบระบบ


1. บทนำ

ข้อมูลจาก TDRI ชี้ว่าเงินฝากรวมของวัด-พระสงฆ์ทั่วประเทศอาจเกิน 1 ล้านล้านบาท แต่มีเพียง 39,000 จาก 44,000 วัดที่มีบัญชีวัดในระบบ ส่วน “บัญชีพระ” ไม่ปรากฏในฐานข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ปรากฏการณ์นี้สร้างข้อกังขาเรื่องความโปร่งใส และเปิดช่องให้เงินศรัทธาถูกใช้ผิดวัตถุประสงค์ บทความจึงตั้งคำถามหลักว่า “รัฐควรออกแบบระบบดิจิทัลอย่างไรให้ทรัพย์สินทางศาสนาโปร่งใส ตรวจสอบได้ และยังคงหลักสมณธรรม?”


2. กรอบแนวคิด

กรอบประเด็นวิเคราะห์
PFMหลักแยกเงินส่วนบุคคล–เงินส่วนราชการ → แยก บัญชีพระ / บัญชีวัด ชัดเจน, การกำกับโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
e-Governanceใช้ดิจิทัลยืนยันตัวตน (ThaiID) + โมบายแอป “ธนาคารพระพุทธศาสนา” เชื่อม API กับ G-Wallet, PromptPay, DOPA
FinTech for Social Goodเงินศรัทธาถูกนำไปหมุนเวียนปล่อยกู้ SMEs ดอกเบี้ยต่ำ → เกิด Social Return ในชุมชน
ธรรมาภิบาลสงฆ์ลดปัญหา “2 ส.—สตรี & สตางค์”, ตัดท่อน้ำเลี้ยงการซื้อสมณศักดิ์, ปิดช่องโกงเงินวัด

3. โมเดลแอปพลิเคชัน

  1. One Temple – One Account
    เลขบัญชีวัด ผูกกับ รหัสวัด + เลขทะเบียนผู้ดูแล (ไวยาวัจกร)

  2. One Monk – One e-Wallet
    บัญชีส่วนตัวพระสงฆ์ถูกแยกชัดเจน – วงเงินใช้จ่าย/ถอนต่อวันจำกัดตามมติ มส.

  3. Dashboard โปร่งใส
    รายงานรายรับ-รายจ่ายเรียลไทม์ เปิดให้ พศ.-ไวยาวัจกร-ผู้ศรัทธาเข้าดูได้ (ตามระดับสิทธิ์)

  4. Smart Contract การเบิกจ่าย
    ใช้ลายเซ็นดิจิทัล 2 จาก 3 (พระ-ไวยาวัจกร-เจ้าคณะ) อนุมัติอัตโนมัติ

  5. กองทุนหมุนเวียนเมตตา
    30 % ของยอดเงินนิ่งเข้ากองทุนปล่อยกู้ SMEs / สหกรณ์วัด ดอกเบี้ยต่ำ → รายได้ดอกผลกลับสู่วัดร่วมสังคม


4. ผลประโยชน์ที่คาดหวัง

มิติผลลัพธ์
ธรรมาภิบาลลดช่องทุจริตบัญชีเถื่อน > 5,000 วัด, ติดตามเส้นทางเงินได้
เศรษฐกิจชุมชนแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ ~ 200,000 ล.บ. ต่อปี หนุน SMEs รากหญ้า
ศรัทธาสาธารณะผู้บริจาคเห็นรายงานออนไลน์ → เพิ่มความเชื่อมั่น
สถาบันสงฆ์พระปลอดภาระถือเงินสด ลดข่าวบั่นทอนศักดิ์ศรี

5. ความเสี่ยงและข้อท้าทาย

  1. ต้านทานจากบางวัด/พระ – กังวลการถูกควบคุมเงิน

  2. Cybersecurity – ฐานข้อมูลศาสนา + การเงิน ต้องมาตรฐาน ISO 27001

  3. ภาษี-กฎหมาย – ต้องนิยาม “รายได้ที่ไม่ใช่กิจกุศล” ให้ชัด, เชื่อมกรมสรรพากร

  4. Data Privacy – แยกข้อมูลส่วนบุคคลพระสงฆ์กับบัญชีวัดภายใต้ PDPA

  5. สมดุลศาสนา-รัฐ – รัฐกำกับแต่ไม่แทรกแซงกิจการธรรมวินัย


6. ข้อเสนอเชิงนโยบาย

  1. แก้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ เพิ่มหมวด “การคลังสงฆ์ดิจิทัล”

  2. Memorandum of Understanding (MoU) ระหว่าง พศ. × ธนาคารออมสิน × ธปท.

  3. ตั้ง “ศูนย์ธรรมาภิบาลทรัพย์สินสงฆ์” ทำหน้าที่กำกับ-ตรวจสอบ-สื่อสารสาธารณะ

  4. Pilot 500 วัด / 5 จังหวัด ก่อนขยายทั่วประเทศภายใน 3 ปี

  5. โครงการอบรมพระ-ไวยาวัจกรด้านการเงินดิจิทัล (Digital Financial Literacy for Monastics)


7. บทสรุป

แอป “ธนาคารพระพุทธศาสนา” คือกลไกดิจิทัลที่ตอบโจทย์สองแกนหลัก—ธรรมาภิบาลของศาสนา และ การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพื่อสังคม ภายใต้การกำกับของรัฐโดยไม่ละเมิดหลักสงฆ์ หากออกแบบกฎหมาย-โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล-การมีส่วนร่วมอย่างสมดุล ไทยจะได้ต้นแบบ Religious FinTech แห่งแรกของอาเซียนที่ยกระดับศรัทธาให้โปร่งใส ยั่งยืน และเกื้อกูลชุมชนอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทบาทขับเคลื่อนจัดตั้ง ธนาคารพระพุทธศาสนา ของ ดร.นิยม เวชกามา

การวิเคราะห์เชิงโครงสร้างและพลวัตทางการเมืองในการขับเคลื่อนจัดตั้ง "ธนาคารพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย": กรณีศึกษาแนวคิดและบทบาทของ ด...