วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ทรัมป์เก็บภาษีไทย 19% เท่ากัมพูชา หลังบรรลุหยุดยิงชายแดน


โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ โพสต์ทรูทโซเชียลเมื่อวันที่ 31 ก.ค. เวลาท้องถิ่น ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเรียกเก็บภาษีแบบต่างตอบโต้ (Reciprocal Tariff) อัตรา 19 % จากเดิม 36 %

ไทยถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐกดดันโดยตรง ซึ่งเตือนว่าสหรัฐอาจไม่ทำข้อตกลงการค้ากับทั้งไทยและกัมพูชา หากทั้งสองประเทศยังคงสู้รบกันอยู่ จึงนำมาสู่การพยายามเจรจากันมากขึ้นจนสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซียในวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา

ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐปีที่แล้วมูลค่าราว 40,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

อัตราภาษีแบบต่างตอบโต้ของประเทศอื่นๆในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งบรรลุข้อตกลงการค้ากับรัฐบาลทรัมป์แล้ว ได้แก่ :

เวียดนาม 20 %

อินโดนีเซีย 19 %

ฟิลิปปินส์ 19 %

ไทย 19 %

กัมพูชา 19 %

มาเลเซีย 19 %

สิงคโปร์ 10 %

อัตราภาษีสวมสิทธิ์หรือทางผ่าน :

เวียดนาม 40 %

อินโดนีเซีย 19% บวกเพิ่มภาษีต่างตอบโต้ของประเทศนั้นๆ

ฟิลิปปินส์ ไม่ระบุ

ทั้งนี้ ภาษีสวมสิทธิ์ หรือ ภาษีทางผ่าน (Transshipment) คือภาษีที่สหรัฐเรียกเก็บจากสินค้าที่สหรัฐสงสัยว่ามีการ 'สวมสิทธิ์' หรือเปลี่ยนแปลงแหล่งกำเนิดสินค้า จากประเทศหนึ่งมายังประเทศผู้ส่งออก ก่อนส่งออกไปยังสหรัฐ อีกที เพื่อประโยชน์ด้านภาษี

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19%  ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง win-win  เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พุทธการทูต และ Soft Power ของ ดร.นิยม เวชกามา

วิเคราะห์บทบาทด้านต่างประเทศของดร.นิยม เวชกามา: พุทธนาวาแห่งการทูตและยุทธศาสตร์ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 บทคัดย่อ รายงานการวิจัยฉบับนี้มุ่ง...