[Verse 1]
กลางคลื่นลมที่โถมกระแทกใจ
พายุกระหน่ำไม่เว้นวาง
เศษขยะความคิดปลิวว่อนพลาง
บดบังแสงสว่างที่เคยมี
[Verse 2]
นาวาชีวิตถูกซัดซวน
ฝ่าโคลนตมที่ลวงใจให้หลงทาง
แต่ยังมีสายน้ำหนึ่งที่ไหลอย่างอ้างว้าง
คือ “สายธาราธรรม” ในใจนี้
[Chorus]
ธรรมนาวา… อย่าให้อับปาง
แม้จะถูกลวงหลอกด้วยเงาร้ายในทาง
อย่าให้ตมต่ำมาเหนี่ยวรั้งฝันกลางกลาง
เพราะธรรมยังสว่าง… ในใจเราเสมอมา
[Verse 3]
บนท้องฟ้ามืดมนไม่มีดาว
แต่แสงในใจยังเฝ้าส่องนำทาง
ศรัทธาไม่หวั่นแม้โลกจะจืดจาง
เพราะความดีคือพลังที่ไม่แปรเปลี่ยน
[Chorus]
ธรรมนาวา… อย่าหยุดเคลื่อนไหว
แม้พายุซัดซ้ำทุกก้าวในเส้นชัย
จงภาวนาเงียบๆ และปล่อยใจให้ใส
อย่าให้โคลนตม… ปิดแสงในใจไป
[Bridge]
ในความวุ่นวาย โลกอาจไม่ฟัง
แต่ใจเรายังเลือกจะฝัน
ขอเพียงธรรมยังนำพาชีวัน
จะไม่มีวัน… ล่มกลางทาง
[Chorus – Final]
ธรรมนาวา… ฝ่าไปให้ถึงฝั่ง
แม้จะล้มลุกคลุกตมพังๆ
แต่อย่าให้ความดีถูกกลืนจาง
เพราะในใจเรานั้น… มีแสงธรรม
..............
ธรรมนาวาฝ่าคลื่นโหมกระหน่ำ
พายุซ้ำมรสุมซัดขยะปลิวไสว
สายธาราธรรมยังหมุนสว่างในใจ
อย่าให้โคลนตมต่ำเตียมาเป็นมาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น