วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

แชร์!หลวงปู่เอียนสายพระป่าบริจาค4ล้านสร้างรพ.สุรินทร์





วันที่ 24 ก.พ.2561 สื่อออนไลน์ได้มีการแชร์เนื้อหาที่โพสต์ในเฟซบุ๊ก"ที่นี่อำเภอปราสาท" ความว่า  #ข่าวดีชาวสุรินทร์ หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย  #บริจาคให้โรงพยาบาลสุรินทร์   จำนวนเงิน4,777,090 บาท เพื่อสมทบทุนสร้างตึกมะเร็งเเละชื้อเครื่องมือเเพทย์ เอาไว้รักษาให้ทุกคนชาวสุรินทร์ ขอให้เจริญๆครับ



#ชื่อดัง  หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโยอายุ 94 ปี วัดป่าโคกหม่อน (ห้วยเสนง)ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์  ท่านเป็นลูกศิษย์ใน...#พระราชวุฒาจารย์(หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ #พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรงฺสี) วัดหินหมากเป้ง จังหวัดหนองคาย #พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร) วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร  #พระครูเขมคุณโสภณ (หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ) วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน อำเภอบ้านด่าน   #พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) จังหวัดนครราชสีมา
 วัดป่าสาลวัน


ทริปกราบครูบาอาจารย์ครั้งนี้เริ่มจากความประสงค์ของเมียผมที่มาหารือว่าเราเป็นหลานศิษย์ของหลวงปู่ดูลย์มาก็ตั้ง 3 – 4 ปีแล้ว ได้ไปกราบท่านเกือบทุกสัปดาห์ที่สวนสันติธรรม ศรีราชา ก็ควรที่จะหาโอกาสไปกราบท่านที่วัดบูรพาราม สุรินทร์บ้าง เราก็เลยหาวันลาที่สะดวกพร้อมกันเพื่อไปกราบครูบาอาจารย์




เมื่อมีญาติธรรมและกัลยาณมิตรทราบว่าผมจะไปกราบอัฐิธาตุของหลวงปู่ดูลย์ที่วัดบูรพาราม ก็แนะนำให้ผมไปกราบหลวงปู่เอียนที่วัดโคกหม่อนด้วย และจากคำแนะนำจากผู้หวังดีอีกหลายท่าน เราก็เพิ่มรายการที่จะกราบหลวงปู่แบนที่สกลนครและครูบาอาจารย์ที่อุดรฯ ด้วย (กะว่าขับรถกันให้เพลินไปเลย) แต่ในที่สุดด้วยความจำกัดในวันลาประกอบกับความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปต่างประเทศในสัปดาห์เดียวกัน เราเลยต้องหั่นทริปให้สั้นลงโดยตกลงกันว่าจะหาโอกาสไปกราบหลวงปู่แบนในโอกาสหน้าก็แล้วกัน



วันแรกนั้นเราแวะไปกราบหลวงปู่เอียนก่อนเข้าสุรินทร์ก่อนเลยครับ เพราะทางเข้าวัดโคกหม่อนหรือปัจจุบันเรียกวัดบ้านเฉนียงนั้น อยู่ปากทางเดียวกับทางเข้า อบต. บ้านเฉนียง บนเส้นทางปราสาท – สุรินทร์นั้น ซึ่งอยู่ถึงก่อนตัวเมืองสุรินทร์ประมาณ 6 – 7 กม.  ทางเข้าวัดจะมีสีเขียวๆ ให้ดูร่มรื่นใจตลอดทางนะครับ  อย่างน้อยก็ช่วงหน้าฝนนี่หล่ะ



เมื่อตอนที่เราไปถึง – ประมาณบ่ายสามกว่าๆ - หลวงปู่เอียนท่านกำลังสนทนากับโยมอีกท่านหนึ่งอยู่ที่หน้ากุฏิครับ (เข้าใจว่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงตาผนึก  มาจากอุดรฯครับ)  เราคลานเข้าไปรายงานตัวโดยแจ้งกับท่านว่าเราเป็นนักปฏิบัติมาจากกรุงเทพเพื่อมากราบท่านและกราบหลวงปู่ดูลย์ ท่านก็เลยสอนพวกเราเป็นสิ่งแรกว่าการทำบุญนั้น เราทำที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องขับรถจากกรุงเทพเพื่อมากราบพระถึงสุรินทร์หรอก (ท่านพูดด้วยความเมตตานะครับ)



แล้วท่านก็เอ่ยว่าหลวงปู่แบนก็เป็นพระที่่น่าไปกราบไหว้ (อย่างกับท่านจะรู้ว่าเราเดิมตั้งใจจะไปกราบหลวงปู่แบนด้วย) ถึงแม้ว่าท่านจะไม่เคยได้เจอกัน (จากที่ท่านเล่าให้ฟัง ท่านได้เคยเจอแต่กับหลวงปู่เทสก์ - ท่านเรียกอาจารย์เทสก์ - และหลวงพ่อพุธครับ)



จากนั้นท่านก็สอนถึงความสำคัญของความสม่ำเสมอในการปฏิบัติ โดยให้ปฏิบัติด้วยปฏิปทาที่แน่วแน่และต่อเนื่อง ให้ทำด้วยความสันโดษและตั้งใจลดละอย่างแท้จริง ท่านย้ำว่าถึงแม้ว่าเราจะยังไม่เข้าใจถ่องแท้ถึงความจริงที่ว่าตัวเราไม่มี ก็ให้ถือว่าในการปฏิบัตินั้นเราทำเพื่อเป็นการปฏิบัติบูชา มิใช่ปฏิบัติเพื่อตนเอง และท่านยังเน้นว่าให้มีความซื่อสัตย์ทั้งกาย วาจา ใจด้วย เราสนทนากับท่านอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ลาท่าน



ภาพที่ถ่ายมานี้เป็นการถ่ายในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อเรากลับมาที่วัดเพื่อนำอาหารแห้งและยาอมจำนวนหนึ่งมาถวายที่วัดครับ เป็นช่วงก่อนที่ท่านกำลังจะฉันเช้า  (ภาพมัวไปนิดเพราะช่วงเช้าแอร์ในห้องโรงแรมเย็นจัด  เลนส์ขึ้นฝ้าครับ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์

  การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ พร...