วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

นิสิต"มจร-มรส."ปฏิบัติวิปัสสนาเป็นฐานร่วมบริการสังคม

มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจับมือคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จัดโครงการปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน






นิสิต"มจร-มรส."ปฏิบัติวิปัสสนาเป็นฐานสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคณาจารย์ของทั้งสองมหาวิทยาลัย ร่วมจัดกิจกรรมที่ดีมีประโยชน์แก่ประชาชน พัฒนาประเทศ สร้างชุมเข้มแข็ง




วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 13.00 น. พระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค 16  ผู้อำนวยการโครงการขยายห้องเรียนสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้กล่าวเปิดโครงการปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน และให้โอวาทแก่นิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และนิสิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ให้ตั่งมั่นอยู่ในศีล รักษาสมาธิและเจริญปัญญาเพื่อความสำเร็จในการศึกษาอย่างมีความสุข



เมื่อเสร็จการให้โอวาทแล้ว ผศ.นนทชัย โมรา คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ผู้เป็นบุคคลสำคัญในการผลักดันให้เกิดโครงการนี้ขึ้นได้ถวายเครื่องไทยธรรมแก่พระธรรมวิมลโมลีเพื่อให้บังเกิดบุญกุศลแก่นิสิตนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการบุญในครั้งนี้





ต่อจากนั้น รศ.ดร.ชูศักดิ์ เอกเพชร รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวให้โอวาทแก่นิสิตนักศึกษาว่า ขอให้อดทนในการฝึกปฏิบัติธรรม เพื่อนำสมาธิไปปฏิบัติใช้ในขณะเรียนหนังสือ ถึงแม้ว่า ระยะเวลาในการปฏิบัติในครั้งนี้จะมีเวลาอันจำกัดเพียง 5 วัน แต่พวกเราอาจจะได้อะไรที่ดี ๆ มากกว่าการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย 5 ปี เพราะสิ่งที่นักศึกษาได้ไปนั้น ย่อมมีคุณค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด ในฐานะที่พวกเราเป็นนักศึกษากฎหมาย เมื่อพวกเราขัดเกลาจิตใจให้ขาวสะอาดแล้ว ต่อไปภายหน้าเมื่อเรานำกฎหมายไปใช้ ย่อมทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีความยินดีที่คณะนิติศาสตร์จัดโครงการนี้ขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดของนักศึกษา และเป็นกำลังที่ดีของประเทศชาติต่อไป




นอกจากนั้น ในการจัดโครงการปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐานครั้งนี้ ได้สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคณาจารย์ของทั้งสองมหาวิทยาลัย ด้วยหวังร่วมจัดกิจกรรมที่ดีมีประโยชน์แก่ประชาชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาประเทศ จากการเริ่มต้นที่ดี นับแต่ระดับชุมชนท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็งเพื่อเป็นรากฐานสำคัญของชาติต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น