วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เจ้าหนี้นอกระบบหนาว!พัฒนากรลุยแนะวิธีบริหารหนี้



ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ระบุถึงที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.สถาบันการเงินประชาชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปประเทศที่สำคัญ รัฐบาลต้องการส่งเสริมให้ประชาชน สามารถจัดตั้งสถาบันการเงินเล็กๆในชุมชนของตนเอง กฎหมายฉบับนี้จะส่งผลดีกับประชาชนมากกว่า 20-30 ล้านคนทั้งในชนบทและในเมือง โดยเฉพาะผู้ที่เข้าไม่ถึงธนาคารพาณิชย์



เมื่อคนเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในการทำมาหากิน ก็ต้องหันไปพึ่งแหล่งเงินนอกระบบ โดนขูดรีด เรียกดอกเบี้ยในอัตราที่สูง  20-30 % ต่อเดือน ทำให้หลายรายต้องสูญเสียที่ดินอันเป็นมรดกตกให้แก่นายทุนเงินกู้นอกระบบ พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะอำนวยความสะดวกให้สามารถตั้งสถาบันการเงินเล็กๆ ในชุมชนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีพี่เลี้ยง คือ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะผ่านการพิจารณาของ สนช.ภายในปีนี้ และทำให้เรามี “โครงข่ายสถาบันการเงินประชาชน” ตามกฎหมายอย่างน้อย 7,000 แห่งทั่วไทยที่เป็นของประชาชน จะนำมาซึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืน “ระเบิดจากภายใน” นำไปสู่ความพอเพียง พึ่งตนเอง ตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น



รายงานข่าวแจ้งว่า ความจริงแล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรจะมีพัฒนาสถานธนานุบาลเคลื่อนที่ไปตามตลาดนัดแต่หมู่บ้านและชุมชน หรืออาจจะเปลี่ยนชื่อเป็น "ธนาคารใต้ดิน" เหมือนกับ "ธนาคารน้ำใต้ดิน" เพื่อสร้างแรงจูงใจ เชื่อแน่ว่าจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ ในด้านกฎหมายนั้นควรจะนำกฎหมายฟอกเงินเข้ามาดำเนินการจัดการกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ทำผิดกฎหมายด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ปริมณฑลย่านชุมชนและตลาดนัดก็ยังมีอยู่เป็นจำนวนมากอยู่



หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวในรายการดังกล่าวปรากฏว่า วันที่ 10 ก.พ.2561 นายอุดม แก้วหวาน พัฒนากรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้รายงานการปฏิบัติหน้าที่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวคือ "Udom Kaewwan" ความว่า ททมาโน ปิโย โหติ "ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก" ...#งานดีสัปดาห์นี้ ออกพื้นที่ 100% ขึ้นสำนักงาน 200% ผลสัมฤทธิ์ "ได้งาน ได้ของฝาก" @ วันจันทร์ขับเคลื่อนโครงการศูนย์จัดการกองทุนชุมชน "สำนึกดี แผนดี บริหารหนี้ได้" และติดตามครัวเรือนสัมมาชีพชุมชน



@ วันอังคาร ขับเคลื่อนโครงการบูรณาการแผนชุมชนระดับตำบล และติดตามการบันทึกข้อมูล จปฐ.@วันพุธ ร่วมเป็นเกียรติการประชุมสามัญและปันผลศูนย์สาธิตการตลาด และประชุมคณะกรรมการติดตามเงิน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี @ วันพฤหัสบดี ร่วมประชุมสัญจร กำนันผู้ใหญ่บ้านฯ และติดตาม จปฐ./หมู่บ้านสัมมาชีพ @ วันศุกร์ ประสานครอบครัวคัดเลือกเด็กรับเงินทุนกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในสมเด็จพระเทพฯ และออกร้านจำหน่าย OTOP แก่คณะศึกดูงาน หมู่บ้านท่องเที่ยว จ.101#เพื่อโปรดทราบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่สังเกตข้อความที่ของนายอุดมความว่า  "ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก" เนื่องจากว่า นายอุดม นั้่นจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี คือพุทธศาสตรบัณฑิต รุ่นที่ 36  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยา(มจร) ย่อมเข้าใจในภาษาบาลีเป็นอย่างดี





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์

  การวิเคราะห์ “มหาวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ พร...