"มจร" สมาคมศิษย์เก่าและมูลนิธิจำนงค์ ทองประเสริฐ จัดงานวันจำนงค์ ทองประเสริฐ "อธิการบดี มจร"เผยผลวิจัยแบบตัวยูยิ่งอายุมากยิ่งมีความสุข
วันที่ 2 พ.ค.2561 ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) อธิการบดี มจร กล่าวสัมโมทนียกถาในงานวันจำนงค์ ทองประเสริฐ ที่ มจร สมาคมศิษย์เก่าและมูลนิธิจำนงค์ ทองประเสริฐ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ความว่า ในนามของมหาจุฬาและมูลนิธิจำนงค์ทองประเสริฐขออนุโมทนาชื่นชมทุกท่านที่ได้รับการยกย่องได้รับรางวัลด้านภาษาไทย พระพุทธศาสนาและปรัชญา ซึ่งมูลนิธิต้องการยกย่องบุคคลที่ควรยกย่อง ซึ่งเป็นสาขาเกี่ยวกับอาจารย์จำนงค์ ทองประเสริฐ เราจึง "เดินตามรอยคนดีที่อยู่หน้า"
"ท่านอาจารย์จำนงค์ท่านสอนให้รู้ อยู่ให้เห็น เย็นให้สัมผัส ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับชาวมหาจุฬาฯ เราจึงยึดมั่นในความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ คือ อาจารย์จำนงค์ ทองประเสริฐ ซึ่งอาจารย์จำนงค์เป็นผู้มีรัตตัญญู ผลจากการวิจัยทั่วโลกถามว่า "วัยใดมีความสุขมากที่สุด" ตั้งแต่วัยเด็ก วัยหนุ่มสาว วัยทำงาน วัยสูงอายุนักวิจัยค้นพบว่า ความสุขแบบตัวยู เพราะในวัยหนุ่มสาววัยทำงานต้องไปเจอเรื่องท้าทายผจญภัยรอบโลกจึงจะมีความสุขเป็นผู้สุขยากทุกข์ง่าย แต่พอวัยสูงอายุเมื่ออายุมากขึ้นจะสุขง่ายแต่ทุกข์ยาก เพราะไม่คาดหวังอะไรมาก แค่เห็นลูกหลาน เห็นลูกศิษย์ก็มีความสุขไม่ต้องบินไกลไปต่างประเทศ" อธิการบดี มจร กล่าวและว่า
งานวิจัยจึงสรุปว่า "ยิ่งอายุมากยิ่งมีความสุข" ไทยเราเป็นสังคมผู้สูงวัยคืออายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ซึ่งในประชาคมอาเซียนมี 2 ประเทศที่มีผู้อายุมาก คือ ประเทศสิงคโปร์และประเทศไทย เราจึงต้องดูแลผู้สูงอายุ มหาจุฬาฯให้โอกาสครูอาจารย์ในการทำงานถึง 65 ปี ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญให้กับมหาจุฬาฯ เราจึงมาเดินตามรอยอาจารย์จำนงค์ ทองประเสริฐ อาจารย์จึงเป็นแสงสว่างให้เราเหล่ามหาจุฬาฯสืบไป
...............
(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจาก pramote od pantapat พระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น