วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2566

"ผอ.สันติศึกษาป.โท มจร" สร้างบริษัทเอกชนเป็นองค์กรสันติสุขตามแนวพุทธสันติวิธี



เมื่อวันที่  ๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ พระปราโมทย์ วาทโกวิโท, ดร. Buddhist  Peace  Facilitator และผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา ระดับปริญญาโท  มจร เป็นวิทยากรสันติภาพสร้างกระบวนการเรียนรู้ ให้กับผู้บริหาร บุคลากร พนักงานของ บริษัท ช. รุ่งเลิศ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่สร้างสมมา และรวมถึงทีมงานที่มีคุณภาพ บริษัทฯ จึงเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้ามานานกว่า ๒๕ ปีโดยผู้บริหารของบริษัทให้ความสำคัญในการบริหาร และควบคุมคุณภาพของระบบการทำงาน โดยบริษัท ช. รุ่งเลิศ กรุ๊ป จำกัด ได้ผ่านการรับรอง และขึ้นทะเบียนเป็นบริษัทฯ ที่มีความสามารถ และพัฒนาระบบอย่างมีคุณภาพ

เป้าหมายของบริษัท โดยผู้บริหารและพนักงานทุกคนตระหนักดีว่า การดำเนิน ธุรกิจของ ช.รุ่งเลิศ กรุ๊ป จะประสบความ สำเร็จได้ ด้วยความตั้งใจอย่างสูงในการร่วมกันก่อสร้าง รากฐานที่ดี ของบริษัท เพื่อสร้างชื่อเสียงที่ดีเลิศ อันจะ นำมาซึ่งความ ไว้วางใจและความพอใจอย่างสูงสุด จากลูกค้า  โดย ช.รุ่งเลิศ กรุ๊ป มุ่งยึดมั่นปรัชญา ในการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย ดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ และความโปร่งใส สร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ทั้งทางด้าน ชื่อเสียง การตอบสนองความต้องการ และการ สร้างความ พึงพอใจในบริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้า เน้นความสำคัญของการสรรหา สร้างและรักษา บุคลากร ที่มีคุณภาพ การบริหารจัดการบุคคลให้ เกิดความปรองดอง ในการทำงานเป็นทีม และสร้าง ความพึงพอใจ ในหน้าที่การ ทำงาน ความก้าวหน้า และผลตอบแทน เพื่อการพัฒนาอย่าง ต่อเนื่อง ขององค์กร ทั้งนี้จะก่อให้เกิดความยึดมั่นในปรัชญา ในการดำเนินธุรกิจของ ช.รุ่งเลิศ กรุ๊ป อย่างสมบูรณ์ โดยวิสัยทัศน์ของบริษัทมุ่งสู่การเป็นบริษัทวิศวกรรมและ ก่อสร้าง ชั้นนำ ของประเทศไทย และ ภูมิภาค ด้วยการส่งมอบผลงานคุณภาพ ระดับมาตรฐานสากล ให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเกิดความ พอใจสูงสุด

พันธกิจของบริษัท ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนกำหนดทิศทางของ บริษัท ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงขับดัน เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ 

บริษัท ช.รุ่งเลิศ กรุ๊ป มีภารกิจที่ต้องเติมเต็ม ประกอบด้วย ๑)ดำเนินงานในรูปแบบของบริษัทวิศวกรรม และ ก่อสร้าง โดยมีเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นผู้นำทาง ประสิทธิภาพในการดำเนิน งาน และความ เชี่ยวชาญ ในทุกๆด้าน เพื่อตอบสนองความ ต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในด้านคุณภาพ ระยะเวลา ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อม  ๒)พัฒนาการบริหารจัดการโดยมุ่งเน้นการดำเนินการ อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาองค์การอย่างต่อ เนื่อง และปลูกฝัง จริยธรรมของงานสู่พนักงานใน ทุกระดับชั้น  ๓)สร้างคุณค่าแก่องค์กร เพื่อให้บริษัทมีความเป็น เอกลักษณ์ และแตกต่างอย่างชัดเจน  ๔)ให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตขององค์กร และบุคคลที่อุทิศตัวให้กับองค์กร : บริษัท ช. รุ่งเลิศ กรุ๊ป จำกัด www.cho-runglert.co.th

ซึ่งการพัฒนาองค์กรถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง จะต้องอาศัยเครื่องมือของธรรมะโอดี : ธรรมะพัฒนาองค์กรในยุคที่มีความเปราะบาง เป็นการป้องกันขัดแย้งของคนในองค์กร โดยมุ่งความสัมพันธ์ดีทุกอย่างดี ซึ่งความสุขตัวชี้วัดองค์กรสันติสุข องค์กรจะรอดไม่รอดผู้บริหารสำคัญที่สุด ต้องสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้และพื้นที่แห่งความปลอดภัยมองและวิเคราะห์ผ่านอริยสัจโมเดล  

โดยมุ่งเน้นความสุขการทำงานในองค์กร โดยเบื้องต้นได้ให้ทุกคนได้สะท้อนว่าอยากเรียนรู้อะไร ? ซึ่งจะออกการเรียนรู้ตามที่ผู้เรียนต้องการ โดยสิ่งที่ผู้เรียนต้องการประกอบด้วย ๑)การสื่อสารอย่างสันติ ๒)การควบคุมอารมณ์ด้วยสติ ๓)ความสุขความสำเร็จในชีวิต ๔)ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน ๕)การเข้าถึงความสงบของจิตใจ จึงออกแบบการเรียนรู้แบบ "รู้จัก รู้สึก รู้ใจ" จึงมีกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทรงพลังรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อไป  

คนในองค์กรจึงต้องฟังกันมากๆ เราคือ ส่วนหนึ่งของทีม ฝึกการไวต่อความรู้สึกให้มากๆ หรือใครมาบ่นในลิฟท์เกี่ยวกับองค์กรเรา ลองเช็คเรตติ้งหัวใจเราที่มีต่อองค์กร การทำงานร่วมกันต้องรู้จักและรู้ใจกันจึงเดินต่อไปได้ เราจึงต้องแสดงศักยภาพออกมาให้หมด เพราะมีคนเห็นศักยภาพเราเสมอ จึงต้องสร้าง Team Buildingก่อนสร้างองค์กร การเปลี่ยนโฉมขององค์กรสู่ความเป็นเลิศในด้านวิถีพุทธ จึงต้องปรับ Mindset ของบุคลากรในการขับเคลื่อนองค์กร  เราควรมีเครื่องมืออะไรในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นเลิศ  จึงต้องหาความเป็นเราหาจุดเด่นออกมาเพื่อการขับเคลื่อน สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากคือ การสร้างทีมงานเป็นการสร้าง Team Buildingเชิงพุทธสันติวิธี 

จึงตั้งคำถามว่า #อะไรเป็นปัจจัยที่มีความผูกพันที่มีต่อองค์กร  องค์กรจะบรรลุตามเป้าหมายทุกคนต้องทุ่มเทใจมีความเป็นทีมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งทีมไม่สามารถเกิดขึ้นจากคำสั่งแต่ทีมเกิดขึ้นจากใจของทุกคน วิถีพุทธจึงเป็นการเปลี่ยนโฉมขององค์กรสู่ความเป็นเลิศ สิ่งสำคัญต้องเริ่มจาก #Mindset และ #Attitude ของบุคลากรทุกคนในการขับเคลื่อนเพื่อหล่อหลอมใจคนในองค์กร  

การทำงานร่วมจึงมีความสำคัญมาก จะวางแบบมิตรภาพวางแบบศัตรูวางเพื่อให้คนอื่นทำงานต่อให้สำเร็จกิจกรรมของ Team Building มองว่าการทำงานร่วมกันจะมีคนมองเรา ๑)เพื่อให้เราล้ม  ๒)เพื่อให้เราชนะ เราจะวางอย่างไรให้คนอื่นล้ม เราจะวางอย่างไรให้คนอื่นทำงานต่อได้ เพราะเราไม่ล้ม คนอื่นล้มก็แพ้ไปด้วยกัน เราทำงานคนจะมองเรา ๒ ประการ คือ คนให้กำลังใจและคนคอยซ้ำเติม ถึงแม้กลุ่มของเราพวกของเราชนะแต่องค์กรภาพรวมแพ้ ก็ไม่มีประโยชน์อันใด แต่เมื่อเราทำงานต้องถอดบทเรียนความผิดพลาด แล้วพัฒนาต่อไป  สิ่งสำคัญ คือ #วางเพื่อให้คนอื่นทำงานต่อให้สำเร็จ  หรือ #วางเพื่อให้ตนเองทำงานต่อสำเร็จ  การวางแนนนอนเป็นการวางรากฐานให้เกิดความมั่นคง  เพราะการแข่งขันกันเอง บางครั้งเราก็พลาด ทุกคนมีสิทธิ์ผิดพลาด แต่เราพร้อมจะให้อภัยหรือเปล่า อย่าลืมว่า #คนรักคาดหวังคนชังคาดโทษ ถ้ามีคนทำล้มก็ล้มด้วยกัน ล้มแล้วจะลุกขึ้นสู้ไหม  ทำให้เรียนรู้มิตรแท้ มิตรเทียม  พระอาจารย์หรรษาสรุปว่า ๑)ทีม ๓ กลุ่มเป็นคู่แข่ง ทุกครั้งที่วางเป็นความรับผิดชอบ เราต้องนึกถึงทีม ๒)เป้าหมายต้องชนะ เราต้องสนใจวิธีการและความสัมพันธ์  ๓)บางครั้งก็ยอมแพ้บ้าง เพื่อให้คนอื่นชนะ เพื่อเดินไปด้วยกันได้   

เราเคยนึกถึงกลุ่มงานต่อไปหรือไม่ วางแบบมิตรภาพ หรือ วางแบบศัตรู  แต่เรารักษาผลประโยชน์กลุ่มตนเอง ความสำเร็จของทีม มีการเกื้อหนุนเกื้อกูลมีความสุขร่วมกัน ผลประโยชน์ส่วนรวมต้องมาก่อนส่วนตัว ถึงเราจะชนะแต่องค์กรภาพรวมเสียหาย #การทำงานเป็นทีมต้องเริ่มจากตัวเราเราดีพอที่จะพอดีให้กับทีมหรือยัง  ยากที่สุดของการทำงานเป็นทีมคือ การเริ่มต้น  เวลาทำงานอยากให้ล้อมวงคุยกัน ให้เราเข้าใจข้อกำจัดของเพื่อนร่วมงาน เช่น เวลา ความรู้ ครอบครัว เป็นต้น ถือว่าเป็นการสร้างทีมงานเชิงพุทธบูรณาการ  

เราจึงควรเช็คเรตติ้งหัวใจในความจงรักภักดีต่อองค์กร จึงเสนอ Modelการทำงานเป็นทีมเชิงพุทธ ซึ่งการทำงานเพียงรู้จักไม่พอแต่ต้องรู้ใจเพื่อนร่วมงาน จึงต้อง อาศัยวิทยากร Team Building มือหนึ่งของเมืองไทย จึงพยายามย้ำว่าการสร้างทีมไม่ยากแต่การรักษาทีมยากยิ่งกว่า

องค์กรใดมีกลิ่นไอแห่งความสัมพันธ์ไม่ดี มีความขัดแย้งที่ถึงทางตัน ต้องการคลี่คลายความขัดแย้งแบบสร้างสรรค์ หรือไม่มีความขัดแย้งแต่ต้องการป้องกันความขัดแย้ง ธรรมะโอดียินดีออกแบบการเรียนรู้ ผ่านหลักสูตร "ชีวิตเบิกบานการทำงานเป็นสุข" ไอดีไลน์ : 1952653  จึงขออนุโมทนาบุญกับคุณสิฌาลิฬ  รุ่งเลิศสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการเป็นผู้บริหารของบริษัทในการเห็นความสำคัญของบุคลากรทุกระดับ ซึ่งบุคลากรทุกคนมีความสำคัญยิ่งควรแก่การพัฒนาทั้งภายนอกและภายในเพื่อป้องกันความขัดแย้งที่หลบในและเสริมสร้างองค์กรสันติสุข  


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ 3. สุนทรวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต จตุตถปัณณาสก์

  วิเคราะห์ 3. สุนทรวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต จตุตถปัณณาสก์ ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ สุน...