วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2566

"เศรษฐา" มอบแนวสันติวิธีไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบ ช่วยปลดทุกข์คนไทยออกจากค้าทาสยุคใหม่



เมื่อวันที่ 8  ธันวาคม 2566 ที่ห้องรอยัลจูบิลี บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี   นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ให้กับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง นายอำเภอ และผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศว่า รัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกคนจะต้องมาร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันในการช่วยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินที่สูงอย่างไม่เป็นธรรม การทวงถามหนี้ที่มีลักษณะคุกคาม ขู่เข็ญ หรือใช้กำลังประทุษร้าย ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและความสงบเรียบร้อยของสังคม

ทั้งนี้ เชื่อว่าข้าราชการฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถช่วยประชาชนให้มีอิสรภาพต่อชีวิต สร้างขวัญ และกำลังใจได้ ในฐานะนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องขอพึ่งพาความรู้ความสามารถของทุกคนช่วยให้ประชาชนเป็นอิสระ หลุดพ้นพันธนาการจากหนี้นอกระบบนี้          

"วันนี้ผมไม่ได้เชิญทุกคนมากระชับอำนาจให้ตัวเอง แต่มาขอแรงจากทุกคนทำประโยชน์ให้ประชาชน มาช่วยกันทำให้การค้าทาสในยุคใหม่หมดไปจากประเทศไทยด้วยกัน ซึ่งวันนี้ยังมีประชาชนถูกพรากอิสรภาพในการใช้ชีวิต เพราะมีหนี้สินจองจำพวกเขาอยู่" นายกฯ ระบุ

นายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นี่ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาเพื่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล หรือของหน่วยงานท่าน แต่นี่คือการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ให้สามารถฟื้นกลับมาใช้ชีวิตโดยไม่ต้องหวาดระแวง และมีรอยยิ้มได้โดยทั่วกัน          

ในส่วนกระบวนการเกี่ยวกับการร้องเรียนได้บูรณาการช่องทางให้หลากหลาย เพื่อให้ประชาชนเลือกเข้าไปในช่องทางที่รู้สึกสะดวก ปลอดภัย และไม่ต้องกลัวผู้มีอิทธิพล รวมถึงสามารถเดินไปร้องเรียนข้ามเขต ข้ามอำเภอได้          

โดยช่องทางแรก กระทรวงมหาดไทยได้เปิดให้มีการลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบผ่านศูนย์ดำรงธรรม ทั้งในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ รวมถึงเบอร์ติดต่อ 1567 ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีลูกหนี้มาลงทะเบียนแล้วกว่า 71,000 คน รวมยอดมูลหนี้นอกระบบกว่า 3,500 ล้านบาท          

ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สายด่วน 1599 และประชาชนก็สามารถเข้าไปที่โรงพักใกล้บ้านเพื่อแจ้งเหตุได้ และสำนักนายกรัฐมนตรีก็มีศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สายด่วน 1111 ที่ประชาชนทั่วประเทศสามารถร้องเรียนความเดือดร้อนปัญหาหนี้นอกระบบได้          

เมื่อรับเรื่องร้องเรียนแล้ว ข้อมูลของประชาชนจะมีการประสานเชื่อมโยงฐานข้อมูลจากทุกช่องทางเข้ามาด้วยกัน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ได้รับการดูแลไม่ให้ตกหล่น และเป็นข้อมูลที่ถูกต้องไม่มีการบิดเบือน ประชาชนที่ลงทะเบียนก็จะได้รับเลข Reference Number ในทุกๆ กรณี เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง รวมถึงสามารถติดตามความคืบหน้า หรือสถานการณ์การดำเนินการที่ได้ร้องเรียนไว้บนเว็บไซต์ของภาครัฐได้ตลอดเวลา และขอให้ทุกคนช่วยเป็นกระบอกเสียง ช่วยกันสื่อสาร เชิญให้ประชาชนที่มีความเดือดร้อนเข้ามาลงทะเบียน ไม่ว่าจะเป็นการทวงหนี้จากแก๊งหมวกกันน็อค เว็บไซต์ให้กู้ยืมออนไลน์ หรือเจ้าหนี้นอกระบบในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งทุกการสื่อสารของพวกคนถือเป็นกำลังสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขหนี้นอกระบบประสบผลสำเร็จ          

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากเรื่องร้องเรียนเข้ามาในระบบแล้ว ส่วนกลางจะวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจัดประเภทเรื่องที่ร้องเรียน ก่อนส่งไปให้ในแต่ละพื้นที่ดำเนินการต่อ ซึ่งถ้าพบว่ามีกรณีที่องค์ประกอบความผิดครบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าพนักงานอัยการสามารถดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีได้ทันทีตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด          

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าในหลายๆ ครั้ง เจ้าหนี้และลูกหนี้ก็ยังพร้อมที่จะประนีประนอมกันได้ ก็ขอให้เชิญเข้ามาไกล่เกลี่ยกัน ให้เข้ามาร่วมกันหาทางออกอย่างสันติวิธี และถูกต้องตามกฎหมาย จัดทำเป็นสัญญาประนีประนอมต่อกัน ตามแบบฟอร์มที่ทางกระทรวงมหาดไทยได้จัดเตรียมไว้ และกำหนดอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา และงวดผ่อนชำระหนี้ที่เหมาะสมกับศักยภาพการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย ซึ่งตนเชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีทั้งกับเจ้าหนี้และลูกหนี้          

นอกจากนี้ รัฐบาลจะมีการติดตามผล เพื่อดูว่าทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้สามารถดำเนินการตามข้อตกลงที่ทำไว้ได้หรือไม่ และหากยังพบปัญหา ไม่สามารถดำเนินการตามสัญญาฉบับใหม่ได้ ก็จะขอเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้เข้ามาร่วมกันแก้ไขข้อตกลงให้เหมาะสมกันอีกครั้ง หากภายหลังยังมีการข่มขู่หรือเจ้าหนี้ไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญาไกล่เกลี่ยฯ จนเป็นเหตุให้ลูกหนี้เดือดร้อน พนักงานฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องร่วมกันบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป          

โดยประชาชนสามารถติดตามผลการดำเนินการไกล่เกลี่ยได้จาก 5 ช่องทาง ตั้งแต่ศูนย์ดำรงธรรม หรือเบอร์ 1567 หรือเว็บไซต์ debt.dopa.go.th หรือเบอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 หรือเบอร์สำนักนายกฯ 1111          

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระบวนการทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิลูกหนี้ หรือเจ้าหนี้ในการใช้สิทธิอื่นๆ ตามกฎหมาย หรือกระบวนการยุติธรรมอื่นๆ แต่เป็นกระบวนการที่เจ้าหนี้และลูกหนี้ร่วมกันสมัครใจเข้ามาเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยรัฐยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือทั้งในชั้นการไกล่เกลี่ย การให้คำแนะนำ และการให้ความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินของรัฐ          

ตนเข้าใจดีว่าในหลายครั้งลูกหนี้ตั้งใจที่จะฟื้นฟูศักยภาพ และต้องการช่องทางแหล่งเงินอื่นๆ นอกเหนือจากเจ้าหนี้ที่กล่าวไป กระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินของรัฐก็จะเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ตามโครงการที่ได้จัดเตรียมไว้ โดยขอให้ทั้งเจ้าหน้าที่มหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง ร่วมกันศึกษาในรายละเอียดของกันและกัน ให้เข้าใจถึงความรับผิดชอบของทุกภาคส่วน เพื่อให้การทำงานไม่ซ้ำซ้อน บูรณาการได้จากทุกฝ่าย ซึ่งหนี้นอกระบบเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน ที่อำนาจตามกฏหมายของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ไม่เพียงพอที่จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างครบวงจร จึงขอให้ทุกท่านทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง หรือกระทรวงการคลัง ให้ใช้อำนาจอย่างถูกต้องตามที่พวกท่านถืออยู่ตามกฏหมาย ทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขณะที่ส่วนราชการก็สามารถปฏิบัติราชการได้อย่างสบายใจ          

สำหรับการไกล่เกลี่ยประนีประนอมข้อพิพาท ขั้นตอนนี้เป็นทั้งศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณ การคิดดอกเบี้ยหนี้สิน และเป็นทั้งศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ปัญหาที่อาจจะพบ คือ การที่เจ้าหนี้หรือลูกหนี้ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย จึงจำเป็นต้องออกไปพบ ไปพูดคุย เชิญชวน ซึ่งเป็นมาตรการที่ผมเรียกว่าไม้อ่อน เพื่อให้สมัครใจเข้ามาสู่กระบวนการ และในหลายๆ ครั้งอาจจะต้องเป็นผู้ใช้อำนาจตามกฏหมายในการบังคับ ซึ่งเป็นไม้แข็งในการนำเจ้าหนี้หรือลูกหนี้เข้าสู่ระบบ          

นายกรัฐมนตี ขอให้ทุกคนไม่ยอมแพ้ ไม่ท้อถอย ไม่หยุดช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะกรณีที่เจ้าหนี้และลูกหนี้ไม่ยอมสมัครใจเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งตนขอมุ่งเป้าไปที่กลุ่มเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ที่มีพฤติการณ์กระทำผิดกฏหมาย สร้างความเดือดร้อนนานาชนิด ต้องแก้ปัญหาให้ได้ อย่าปล่อยผ่าน          

โดยนายกรัฐมนตรีได้ประกาศเป้าหมายว่า หนี้นอกระบบจะต้องได้รับการจัดการโดยเด็ดขาด ทั้งฝ่ายปกครองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องมีการกำหนดตัวชี้วัด (KPI) ที่เหมาะสม และกรอบเวลาที่ชัดเจน ซึ่งได้กำหนดหลักการกว้างๆ ว่า ต้องไม่ตั้งเป้าหมายที่ง่ายเกินไปจนไม่สามารถวัดผลอะไรได้ และไม่ยากเกินไปจนเป็นเหตุให้ผู้ปฏิบัติงานรู้สึกไม่อยากเริ่มทำ          

สำนักงานตำรวจจะต้องกำหนดระยะเวลาดำเนินการในการจับกุมเพื่อดำเนินการให้เร็วที่สุด และระยะเวลาการทำสำนวนการสอบสวน ส่วนกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายปกครอง ก็ควรกำหนดสัดส่วนเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และเรื่องที่เจ้าหนี้ลูกหนี้ร่วมกันทำสัญญาประนีประนอมได้สำเร็จ กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการแต่ละขั้นตอน ทั้งในชั้นรับเรื่องร้องเรียนถึงการเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และชั้นการทำสัญญาประนีประนอม ไว้ให้ชัด และไม่นานจนเกินไป ซึ่งกรอบข้างต้นเป็นกรอบกว้างๆ ที่ผู้บริหารจะต้องช่วยกันนำไปย่อยเป็นเป้าเล็กๆ ให้เป็นความสำเร็จที่จับต้องได้ และปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้หนี้นอกระบบลดน้อยลงไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ดร.มหานิยม" ร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดอาวุธ "สมเด็จธงชัย" ประธาน เข้ากราบ "หลวงปู่ศิลา" เพื่อความเป็นสิริมงคล

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567  ดร.นิยม  เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล) ออกปฏิบัติหน้าที่ด้านพระพุทธศาสน...