วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

รัฐบาลจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญชวนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ



รัฐบาลจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญชวนชาวไทย ชาวต่างชาติ และศาสนิกชนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ระหว่าง 22 ก.พ. - 19 มี.ค. นี้

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567  2567 เวลา 17.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกรุงเทพมหานคร   นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะจากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต 49 ประเทศ  นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา  นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร  นายนาเคส สิงห์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย  และนายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980  คณะผู้แทนจากสาธารณรัฐอินเดีย  เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประชาชนเข้าร่วมงาน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า 

กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ออกจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครมายังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีนายราเชนทร์ วิศวนาถ อัรเลกัร  ผู้ว่าการรัฐพิหาร เป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมอบให้แก่นายกรัฐมนตรี ดร. วิเรนทร์ กุมาร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและเพิ่มพลังทางสังคม เป็นผู้อัญเชิญพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร มอบให้แก่รองนายกรัฐมนตรี และนายนาเคส สิงห์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย  เป็นผู้อัญเชิญพระอรหันตธาตุของพระโมคคัลลานะมอบให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม  เป็นผู้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนมณฑป โดยมีสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกถวายพวงมาลัยและจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ  และมีพิธีเจริญชัยมงคลคาถาตลอดพิธี ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางการเคลื่อนริ้วขบวน พุทธศาสนิกชนได้นั่งแถวรอรับการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ พร้อมก้มลงกราบสักการะตลอดเส้นทางเพื่อความเป็นสิริมงคล

 “รัฐบาลไทยร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย ดำเนินงานโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ตามโครงการธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุจากมหานทีคงคาสู่ลุ่มน้ำโขง จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนืองในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึง 19 มีนาคม 2567 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ อุบลราชธานี และกระบี่  ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่ศาสนิกชนชาวไทย และประเทศเพื่อนบ้านจะได้ร่วมสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ที่เป็นองค์ดั้งเดิม ที่ค้นพบในสถูปโบราณ เมืองกบิลพัสดุ์ และเมืองสาญจี จากสาธารณรัฐอินเดีย   มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทั้งนี้  จะเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะบูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม เวลา 09.00-20.00 น. ในส่วนภูมิภาค อัญเชิญไปประดิษฐานในส่วนภูมิภาคใน 3 จังหวัด ให้ประชาชนได้เข้าสักการะบูชา เวลา 09.00-20.00 น.ภาคเหนือ วันที่ 5-8 มีนาคม ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 10-13 มีนาคม ณ วัดมหาวนาราม จ.อุบลราชธานี และภาคใต้ วันที่ 15-18 มีนาคม ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่ โดยทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ ๕. ปารายนวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย สุตตนิบาต

วิเคราะห์ ๕. ปารายนวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย สุตตนิบาต ในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ "ปารายนวรรค...