เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ดร.นิยม เวชกามา ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่งและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) อดีต สส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พร้อมด้วยนายณพเดชน์ มณีลังกา หรือดร.ปิง คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง และที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการด้านการบริหาร ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567 สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางไปกราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ คณะใหญ่ตะวันออก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อขอความเมตตาช่วยเหลือวัดในประเทศประเทศไทยประมาณ 15,000 แห่ง ที่ยังมีปัญหาที่ดินซับซ้อน ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ จึงยังไม่สามารถขอวิสุงคามสีมาได้
"ขณะนี้จังหวัดสกลนครเองก็วัดที่อยู่ในข่ายมีปัญหาเหมือนกันจำนวน 3,000 แห่ง ซึ่งเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลงตรวจราชการและพบปะเยี่ยมประชาชนที่จังหวัดสกลนครได้รับรับทราบปัญหาและได้ให้สัมภาษณ์สื่อว่าจะแก้ปัญหาเรื่องที่ดินวัด โดยโดยใช้จังหวัดสกลนครโมเดลเป็นหลัก" ดร.นิยม กล่าวและว่า
สมเด็จพระพุฒาจารย์ได้ระบุว่า คณะสงฆ์และมหาเถรสมาคมยิ้นดีอย่างยิ่งพร้อมที่จะให้ความร่วมมือหากมีแนวทางใดทาง "มส." พร้อมที่จะดำเนินการ ให้เกี่ยวกับวัดดังกล่าว
ดร.นิยม กล่าวด้วยว่า ส่วนพระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศและอยู่ประจำ แต่มีปัญหาเรื่องพาสปอร์ตวีซ่าเล่มสีน้ำตาลซึ่งจะมีอายุครั้งละ 5 ปี ทำให้มีความเดือดเดือดร้อนมาก จึงได้ขอให้สมเด็จพุทฒาจารย์ช่วยแก้ไขระเบียบด้วยขอเป็น 10 ปี เพราะไปจำพรรษาที่ต่างประเทศประจำยากในการเข้ามาต่อวีซ่า สมเด็จพุทฒาจารย์ช่วยในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์ควบคุมการไปต่างประเทศสำหรับพระภิกษุสามเณร (ศ.ต.ภ.) ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทำเรื่องขอเข้ามาเพราะมีมติของ มส. ให้มีวีซ่าได้เพียงห้าปีก็จะต้องไปแก้มติ มส .ด้วย ให้เป็น 10 ปี พร้อมกันนี้ข้าพเจ้าและ ดร. ณพลเดชน์ได้ร่วมกันถวายภัตตาหารเพลล้นด้วยญาติโยมที่มารอถวายด้วยที่กุฎิของเจ้าประคุณสมเด็จรวมทั้งพระภิกษุจำนวน 5 รูปด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น