วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ พระปราโมทย์ วาทโกวิโท, ดร. โค้ชสันติ ผู้อำนวยการหลักสูตรสาขาวิชาสันติศึกษา ระดับปริญญาโท บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ร่วมกิจกรรมวันมาฆบูชา ร่วมเวียนเทียนและปรารภธรรมในโอกาสวันมาฆบูชา โดยมีชาวพุทธทั้งไทย อเมริกัน และบังคลาเทศ ร่วมกิจกรรมวันมาฆบูชา ณ วัด ปากน้ำมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงมีโอกาสได้ปรารภธรรมในวันมาฆบูชา มองว่าวันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความรักในทางพระพุทธศาสนา เริ่มต้นจากการรักตนเองโดยการใช้ชีวิตที่ไม่สุดโต่งเดินทางสายกลาง เพราะโลกปัจจุบันมีความเปราะบาง จึงต้องยกระดับมาฆบูชาเป็นวิถีชีวิต จึงต้องปฏิบัติตามแนวทาง ๓ ประการประกอบด้วย
๑)หลักการของชีวิต โดยมุ่งการไม่ทำชั่ว ทำความดี และทำจิตใจให้บริสุทธิ์พัฒนาจนนำไปสู่การรู้เท่าทันสิ่งที่มากระทบ หลักการสำคัญของชีวิตคือ การพัฒนาจิตใจของตนให้มีสันติภายในผ่านการดูแลลมหายใจด้วยการส่งต่อ แปรเปลี่ยน และก้าวข้าม โดยสิ่งที่ใกล้แล้วมีพลัง ประกอบด้วยธรรมชาติ กัลยาณมิตร สติสมาธิภาวนา
๒)อุดมการณ์ของชีวิต จะต้องมุ่งสร้างขันติบารมี เคารพในความหลากหลาก มองความเป็นมนุษย์ มีความใจกว้างในการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างเป้าหมายคือ นิโรธ ดับทุกข์ อุดมการณ์ของชีวิตจึงสำคัญมากชีวิตต้องมีอุดมการณ์ที่ไม่หวั่นไหว
๓)วิธีการของชีวิต วิธีการในการใช้ชีวิต จะต้องไม่พูดร้ายใคร ไม่ทำร้ายใคร มีการสื่อสารที่เป็นสันติ มีวิธีการในการพัฒนาจิตใจของตนเองอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับอริยสัจโมเดล ประกอบด้วย ขั้นทุกข์เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง ขั้นสาเหตุเข้าใจสาเหตุที่อยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็ง ขั้นเป้าหมายเป็นการวางเป้าหมายของชีวิต และขั้นวิธีการ จะต้องเป็นวิธีการที่เป็นสัมมาทิฐิ ถูกต้อง
จึงสะท้อนว่า วันมาฆบูชานับว่าเป็นวันเมตตาสากลโลกของมวลมนุษยชาติ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้วางรากฐานการทำงานด้านสันติภาพด้วยการยึกตามแนวทางของ "หลักการ อุดมการณ์ และวิธีการ" ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา วันมาฆบูชาจึงเป็นวันเมตตาสากลโลก มาฆบูชาถือว่ามีความสัมพันธ์กับสันติภาพ พระพุทธเจ้าจึงสอนโอวาทปาติโมกข์ ประโยคแรกที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสคือ ขันตี ปรมัง ตโป ติติกขา ความอดทนเป็นการบำเพ็ญตบะอย่างยิ่ง ด้วยการอย่าว่าร้ายกันอย่าเบียดกันในการเผยแผ่และการอยู่ร่วมกัน ด้วยการไม่เบียดเบียนกัน สรุปได้เป็น ๓ คำ คือ ขันติ เมตตา กรุณา ถือว่าเป็นคุณสมบัติของโพธิสัตว์ บุคคลผู้จะทำงานเพื่อผู้อื่นเพื่อเพื่อนมนุษย์
ความอดทนจึงเป็นสากลระดับโลก เพราะสงครามเริ่มที่ใจของมนุษย์ปราการที่จะรักษาสันติภาพต้องเริ่มที่ใจมนุษย์เท่านั้น ทำให้ในปี ๒๕๓๘ มีการประกาศขันติธรรมของยูเนสโก ว่า #ขันติธรรมเป็นฐานของสันติภาพ คำว่า ขันติธรรม คือ เคารพยอมรับ อดทนต่อวัฒนธรรมที่แตกต่าง ปัญหาของโลกคือ ขาดความอดทนในการอยู่ร่วมกัน ขาดความอดทนต่อความแตกต่างวัฒนธรรม ศาสนาเป็นรากฐานของอารยธรรม วัฒนธรรมปะทะกัน "เราต้องสร้างวัฒนธรรมแห่งสันติภาพ"อย่าสร้างสร้างวัฒนธรรมแห่งสงคราม พระพุทธศาสนาส่งเสริมให้อยู่ร่วมกันคนไทยที่รักษาเอกราชไว้ เพราะคนไทย มีคุณธรรม ๓ ประการ คือ "มีความรักอิสรภาพ มีขันติธรรม มุ่งประสานประโยชน์" นี่คือเอกลักษณ์ของคนไทย ไทยรับคนต่างศาสนาจึงทำให้มาพัฒนาชาติ คนเก่งทั่วโลกมาที่ไทย ไทยจึงมีทรัพยากรบุคคลมากมาย และทรัพยากรธรรมชาติ มหาจุฬาจึงยึดหลักทำให้นานาชาติมาเรียนเป็นจำนวนมาก เพราะฐานคุณธรรม มีขันติธรรม มีการประสานประโยชน์ ซึ่งหลักสูตรสันติศึกษายึดหลักการนี้ ขันติธรรมเป็นรากฐานของสันติภาพโลก วันมาฆบูชาวันเมตตาสากลโลกวันแห่งการวางฐานการทำงานด้านสันติภาพ โดยมีการยึดอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพราะสงครามเกิดขึ้นที่ใจมนุษย์ สันติภาพต้องสร้างที่ใจของมนุษย์ ความขัดแย้งของโลกคือขาดความอดทนต่อวัฒนธรรมที่มีความแตกต่าง
มาฆบูชาจึงเป็นวันแห่งการภาวนาเพื่อสันติภาพโลก เป็นวันแห่งการไม่ว่าร้ายใคร ไม่กระทบ กระทั่งใคร ไม่สร้างถอยคำเพื่อให้เกลียดชังกัน วันมาฆบูชาถือว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นหัวใจสำคัญที่พระสาวกต้องปฏิบัติตาม พระพุทธเจ้าได้ตรัสใน"โอวาทปาฏิโมกข์" แก่ภิกษุสงฆ์ในวันมาฆบูชา ถือว่าเป็นคุณสมบัติ เป้าหมาย หลักการและวิธีการเผยแผ่ นับว่าเป็นการวางรากฐานเพื่องานพระพุทธศาสนา นักเผยแผ่พระพุทธศาสนาต้องมี "ขันติธรรม" มีความอดทนต่อความลำบากความตรากตรำ ไม่บ่นจู้จี้จุกจิก มีความอดกลั้นต่อกิเลส เป็นคนใจเย็นสุขุมรอบคอบ เก็บอารมณ์ เรียกว่า "น้ำใจขุ่นเก็บไว้ข้างใน น้ำใจใสนำออกมาใช้ข้างนอก" มีความอดทนต่อความแตกต่างหลากหลาย
วิธีการในการเผยแผ่ที่พระพุทธเจ้าทรงใช้เป็นผลสำเร็จมาก คือ " อนูปวาโท อนูปฆาโต การไม่ว่าร้ายใคร ไม่กระทบกระทั่งใคร " นักเผยแผ่ธรรมหรือวิทยากรต้นแบบสันติภาพจะต้องเป็นมิตรกับทุกฝ่าย สร้างความสามัคคีในสังคม อยู่เหนือความขัดแย้ง ให้สติแก่สังคม จงเป็นคนปากช้า แต่หูตาไว พูดน้อย ทำให้มาก ดูให้มาก นิ่งให้มาก เป้าหมายในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา คือ "สจิตฺตปริโยทปนํ แปลว่า การทำจิตของตนให้บริสุทธิ์ให้ผ่องแผ้วผ่องใส" ด้วยการเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เพราะ เมื่อเราปฏิบัติเราจะเข้าถึงพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง เป็นการสร้างสันติภายใน ดูแลลมหายใจของตนเอง เพื่อต่อลมหายใจให้คนอื่นและสังคม
เริ่มต้นวันมาฆบูชา ด้วยการพูดดีต่อกัน ด้วยพุทธสันติวิธี คือ สัมมาวาจา ปิยวาจา วจีสุจริต วาจาสุภาษิต สุนทรียสนทนา ฝึกเป็นคนใจกว้าง คือยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายได้อย่างสันติวิธี วันมาฆบูชา ตระหนักถึงความรักในทางพระพุทธศาสนา รักอันประกอบด้วยเมตตากรุณาภายใต้ความรักของพระพุทธเจ้า พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า รักพระพุทธศาสนาต้องนำพาตนฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน สร้างสันติภายในให้เกิดสันติสุขระดับชีวิต ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
ดังนั้น มาฆบูชาจึงเป็นวันเมตตาสากลโลก เริ่มจากรักตนเองด้วยเมตตาและรักผู้อื่นด้วยเมตตา เป็นความรักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ด้วยการสร้างวัฒนธรรมแห่งสันติภาพ ซึ่งความรักในทางพระพุทธศาสนาเป็นการรักเพื่อนมนุษย์ด้วยเมตตา พร้อมมีขันติธรรมในการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย สถานที่สำคัญที่พระพุทธเจ้าประกาศความรักต่อเพื่อนมนุษย์คือ เวฬุวัน สถานที่แสดงโอวาทปาติโมกข์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น