วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2567

รัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวทางบก เชื่อมโยง ไทย กัมพูชา สปป.ลาว เวียดนาม และมาเลเซีย Drive Tourism



โฆษกรัฐบาล เผยรัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวทางบก เชื่อมโยง ไทย กัมพูชา สปป.ลาว เวียดนาม และมาเลเซีย Drive Tourism พร้อมศึกษามาตรการอำนวยความสะดวกข้ามพรมแดนทางบก ส่งเสริมความร่วมมือระดับประเทศและประชาชน ทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ

วันที่ 30 มกราคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มุ่งสนับสนุนสร้างความร่วมมือ และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนด้วยการบูรณาการแนวทางการท่องเที่ยวจุดหมายปลายทางเดียวกันในภูมิภาคอาเซียน (One Destination) และการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบสองทาง (Two-way Tourism) ผ่านโครงการท่องเที่ยวเชื่อมโยงทางบก 5 ประเทศ (Drive Tourism) ได้แก่ ไทย กัมพูชา มาเลเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยลาว และเวียดนาม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและครอบคลุม ในฐานะที่ภาคการท่องเที่ยวเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งจะเป็นเครื่องมือเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น 

รัฐบาลต้องการผลักดัน Drive Tourism โดยได้ศึกษาเส้นทางเชื่อมโยงหลายเส้นเพื่อตรวจสอบเส้นทางที่สะดวกและปลอดภัย ค้นคว้าข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นที่มีศักยภาพ ตลอดจนศึกษามาตรการอำนวยความสะดวกสำหรับการท่องเที่ยวแบบขับรถด้วยตนเองตลอดเส้นทาง  

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการหารือกับทั้ง 4 ประเทศตามโครงการ Drive Tourism รัฐบาลยังได้หารือกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สภาธุรกิจอเมริกา-อาเซียนประจำภูมิภาคเอเชีย (U.S.-Asean Business Council: USABC) และสภาการท่องเที่ยวและการเดินทางโลก (World Travel and Tourism Council: WTTC) ถึงแนวทางการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ WTTC ยังได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของ 2 ประเด็นหลักในมิติการท่องเที่ยว ได้แก่ การให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากกว่าการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  

“นายกรัฐมนตรีส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวภูมิภาค เพื่ออำนวยความสะดวกและดึงดูดนักท่องเที่ยว และสนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในระดับรัฐบาล และประชาชน เพื่อประโยชน์ร่วมกันทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มการท่องเที่ยวจากทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค” นายชัย กล่าว

"สุดาวรรณ" เจรจาเชื่อมท่องเที่ยว 5 ประเทศอาเซียนสำเร็จ


 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในระหว่างการไปร่วมประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาซียน ครั้งที่ 27(ASEAN Tourism Forum : ATF 2024) ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ใช้โอกาสนี้หารือกับรัฐมนตรีและหน่วยงานด่านการท่องเที่ยวของ 4 ประเทศ ได้แก่ ลาว มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา โดยทุกประเทศเห็นชอบในหลักการให้เกิดความร่วมมือเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค (Intraregional Connectivity) ให้มีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ภายใต้โครงการ ASEAN Drive Tourism ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย โดยยึดโยงกับแผนการดำเนินการที่ผ่านมาของไทยและของกรอบความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอาเซียน


“โครงการ ASEAN Drive Tourism เป็นข้อริเริ่มของฝ่ายไทย ซึ่ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญอย่างมาก ในการส่งเสริมการเชื่อมโยงทางบก หรือ Land Connectivity เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ ในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ กระจายรายได้ และส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่นของทั้ง 5 ประเทศ”


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวต่อไปว่า จากนี้ไปจะมีการหารือเพิ่มเติมในระดับคณะทำงาน เพื่อพิจารณาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการจัดทำโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นความแตกต่างของกฎระเบียบจราจร และโครงสร้างพื้นฐาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเสนอให้มีการนำเรียนนายกรัฐมนตรีของแต่ละประเทศ เพื่อยกระดับประเด็นดังกล่าว สู่วาระการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) เพื่อให้เกิดการบูรณาการการดำเนินงานต่อไป


นอกจากนี้ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จะนำเส้นทางท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ จุดท่องเที่ยว ที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกของแต่ละประเทศ นำไปประชาสัมพันธ์และทำการตลาดร่วมกัน โดยไทยมีเป้าหมายที่จะประกาศเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง “ASEAN Drive Tourism” ให้แก่สื่อมวลชนทั่วโลกและผู้ประกอบการท่องเที่ยวในงาน ITB Berlin ในวันที่ 5-7 มีนาคม 2567 ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีด้วย


สำหรับตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้มีการหารือกัน เช่น กัมพูชาเสนอให้มีการเชื่อมโยงผ่านพื้นที่เมืองหลักและเมืองรอง อาทิ ศรีโสภณ พระตะบอง รวมถึงเส้นทางพรมแดนกัมพูชา -เวียดนาม เพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางใหม่ๆ ให้เป็นที่รู้จัก ได้ให้ความเห็นในประเด็นการอำนวยความสะดวกผ่านช่องทางตรวจลงตรา โดยเสนอกลไก ACMECS Visa รวมถึงประเด็นการเพิ่มการลงทุนภาคบริการไปยังเมืองรองต่างๆ ของกัมพูชา นอกจากนี้ มีเส้นทางที่ทางไทยเสนอกับเวียดนาม อาทิ เส้นทางที่ 1: ไทย (มุกดาหาร) – สปป. ลาว (สันหวันนะเขต) – เวียดนาม (เว้-ดานัง) เส้นทางที่ 2: ไทย (ตราด) – กัมพูชา (สีหนุห์วีล) – เวียดนาม (ฟูก๊วก) ที่จะต้องนำไปหารือในรายละเอียดต่อไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ประเสริฐ" แนะนำหลักฐานอื่นพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของวัดในเขตที่ดินของรัฐด้วย

คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ "เห็นชอบ" ร่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของวัดในเขตที่ดินของรัฐ  "ประเสริฐ" แนะควรนำหนังส...