โฆษกรัฐบาล เผยรัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวทางบก เชื่อมโยง ไทย กัมพูชา สปป.ลาว เวียดนาม และมาเลเซีย Drive Tourism พร้อมศึกษามาตรการอำนวยความสะดวกข้ามพรมแดนทางบก ส่งเสริมความร่วมมือระดับประเทศและประชาชน ทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ
วันที่ 30 มกราคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มุ่งสนับสนุนสร้างความร่วมมือ และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนด้วยการบูรณาการแนวทางการท่องเที่ยวจุดหมายปลายทางเดียวกันในภูมิภาคอาเซียน (One Destination) และการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบสองทาง (Two-way Tourism) ผ่านโครงการท่องเที่ยวเชื่อมโยงทางบก 5 ประเทศ (Drive Tourism) ได้แก่ ไทย กัมพูชา มาเลเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยลาว และเวียดนาม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและครอบคลุม ในฐานะที่ภาคการท่องเที่ยวเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งจะเป็นเครื่องมือเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
รัฐบาลต้องการผลักดัน Drive Tourism โดยได้ศึกษาเส้นทางเชื่อมโยงหลายเส้นเพื่อตรวจสอบเส้นทางที่สะดวกและปลอดภัย ค้นคว้าข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นที่มีศักยภาพ ตลอดจนศึกษามาตรการอำนวยความสะดวกสำหรับการท่องเที่ยวแบบขับรถด้วยตนเองตลอดเส้นทาง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการหารือกับทั้ง 4 ประเทศตามโครงการ Drive Tourism รัฐบาลยังได้หารือกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สภาธุรกิจอเมริกา-อาเซียนประจำภูมิภาคเอเชีย (U.S.-Asean Business Council: USABC) และสภาการท่องเที่ยวและการเดินทางโลก (World Travel and Tourism Council: WTTC) ถึงแนวทางการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ WTTC ยังได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของ 2 ประเด็นหลักในมิติการท่องเที่ยว ได้แก่ การให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากกว่าการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
“นายกรัฐมนตรีส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวภูมิภาค เพื่ออำนวยความสะดวกและดึงดูดนักท่องเที่ยว และสนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในระดับรัฐบาล และประชาชน เพื่อประโยชน์ร่วมกันทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มการท่องเที่ยวจากทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค” นายชัย กล่าว
"สุดาวรรณ" เจรจาเชื่อมท่องเที่ยว 5 ประเทศอาเซียนสำเร็จ
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในระหว่างการไปร่วมประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาซียน ครั้งที่ 27(ASEAN Tourism Forum : ATF 2024) ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ใช้โอกาสนี้หารือกับรัฐมนตรีและหน่วยงานด่านการท่องเที่ยวของ 4 ประเทศ ได้แก่ ลาว มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา โดยทุกประเทศเห็นชอบในหลักการให้เกิดความร่วมมือเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค (Intraregional Connectivity) ให้มีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ภายใต้โครงการ ASEAN Drive Tourism ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย โดยยึดโยงกับแผนการดำเนินการที่ผ่านมาของไทยและของกรอบความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอาเซียน
“โครงการ ASEAN Drive Tourism เป็นข้อริเริ่มของฝ่ายไทย ซึ่ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญอย่างมาก ในการส่งเสริมการเชื่อมโยงทางบก หรือ Land Connectivity เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ ในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ กระจายรายได้ และส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่นของทั้ง 5 ประเทศ”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวต่อไปว่า จากนี้ไปจะมีการหารือเพิ่มเติมในระดับคณะทำงาน เพื่อพิจารณาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการจัดทำโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นความแตกต่างของกฎระเบียบจราจร และโครงสร้างพื้นฐาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเสนอให้มีการนำเรียนนายกรัฐมนตรีของแต่ละประเทศ เพื่อยกระดับประเด็นดังกล่าว สู่วาระการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) เพื่อให้เกิดการบูรณาการการดำเนินงานต่อไป
นอกจากนี้ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จะนำเส้นทางท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ จุดท่องเที่ยว ที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกของแต่ละประเทศ นำไปประชาสัมพันธ์และทำการตลาดร่วมกัน โดยไทยมีเป้าหมายที่จะประกาศเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง “ASEAN Drive Tourism” ให้แก่สื่อมวลชนทั่วโลกและผู้ประกอบการท่องเที่ยวในงาน ITB Berlin ในวันที่ 5-7 มีนาคม 2567 ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีด้วย
สำหรับตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้มีการหารือกัน เช่น กัมพูชาเสนอให้มีการเชื่อมโยงผ่านพื้นที่เมืองหลักและเมืองรอง อาทิ ศรีโสภณ พระตะบอง รวมถึงเส้นทางพรมแดนกัมพูชา -เวียดนาม เพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางใหม่ๆ ให้เป็นที่รู้จัก ได้ให้ความเห็นในประเด็นการอำนวยความสะดวกผ่านช่องทางตรวจลงตรา โดยเสนอกลไก ACMECS Visa รวมถึงประเด็นการเพิ่มการลงทุนภาคบริการไปยังเมืองรองต่างๆ ของกัมพูชา นอกจากนี้ มีเส้นทางที่ทางไทยเสนอกับเวียดนาม อาทิ เส้นทางที่ 1: ไทย (มุกดาหาร) – สปป. ลาว (สันหวันนะเขต) – เวียดนาม (เว้-ดานัง) เส้นทางที่ 2: ไทย (ตราด) – กัมพูชา (สีหนุห์วีล) – เวียดนาม (ฟูก๊วก) ที่จะต้องนำไปหารือในรายละเอียดต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น