วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2567

"ทวี"ทอดผ้าป่าสมทบทุนจัดซื้อรถกู้ภัยฉุกเฉิน และบูรณะพระอุโบสถวัดศรีพัฒนารามยะลา ปลื้มงานไกล่เกลี่ยปรับทุกข์ให้ชาวบ้าน 4 จังหวัดชายแดนใต้



เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2567 วลา 12.50 น.  ที่วัดศรีพัฒนาราม (วัดบ้านคล้า) ตำบลตาเซะ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา  พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ เดินทางมาเป็นประธานพิธีทอดผ้าป่ามหากุศล ประจำปี 2567 สมทบทุนจัดซื้อรถกู้ภัยฉุกเฉิน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในการช่วยเหลือประชาชน และนำปัจจัยไปบูรณะพระอุโบสถ เนื่องจากทรุดโทรมเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา เพื่อทำนุบำรุงเสริมสร้างพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พระครูชัยธัชวิริยาภรณ์ (พระใบฎีกาธงชัย วิริโย) เจ้าอาวาสวัดศรีพัฒนาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ 

พร้อมด้วย นางสิริวิมล พงษ์อักษร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฟสินธุ์ ประธานอุปถัมภ์ผ้าป่ามหากุศล ,พลตรี เฉลิมพงศ์ คงบัว เลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, พลตรี นิติ ติณสูลานนท์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ,หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พุทธศาสนิกชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก 

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์  ,เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ , เลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้นำถวายผ้าป่ามหากุศล พร้อมเครื่องไทยธรรมแด่พระครูชัยธัชวิริยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดศรีพัฒนาราม โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

สำหรับพิธีพิธีทอดผ้าป่ามหากุศลในครั้งนี้ ประชาชนไทยพุทธในพื้นที่พร้อมใจร่วมกันจัดขึ้น เพื่อสมทบทุนจัดซื้อรถกู้ภัยฉุกเฉิน และส่งต่อให้กับหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ โดยเป็นการจัดหายานพาหนะ พร้อมอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานให้สามารถดูแลผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ ณ จุดเกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที มุ่งเน้นช่วยบรรเทา ลดการสูญเสียในชีวิตที่อาจเกิดขึ้น และใช้ประโยชน์ในราชการ ในการดูแลความปลอดภัย ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ประชาชน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนนำปัจจัยไปบูรณะโบสถ์ เพื่อทำนุบำรุงรักษาศาสนาสถานให้อยู่คู่กับพื้นที่เป็นศูนย์รวมจิตใจแก่พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ต่อไป

เป็นปลื้ม งานไกล่เกลี่ยปรับทุกข์ให้ชาวบ้าน 4 จังหวัดชายแดนใต้ หลังพบเจ้าหนี้ยกหนี้ให้ ชาวบ้านถึงกับปล่อยโฮ



ก่อนหน้านี้เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมอิมพีเรียล จังหวัดนราธิวาส พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานโครงการส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความยุติธรรมด้านการบังคับคดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมี นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส , นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนราธิวาส เขต 4 พรรคประชาชาติ และโฆษกพรรคประชาชาติ , นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส , นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ อดีตนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองนราธิวาส และคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาชาติ , นายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี , พลตำรวจโท พัฒนวุธ อังคะนาวิน ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฯลฯ และกลุ่มมวลชนจำนวนมากร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรม โดย กรมบังคับคดี ได้จัดงานขึ้นร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.และหน่วยงานเครือข่ายสถาบันการเงินต่างๆ รวม 8 แห่ง ซึ่งมีลูกหนี้จำนวน 3,834 ราย ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุนทรัพย์รวมทั้งสิ้น 692,221,242 บาท ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการจัดขึ้นมาแล้ว 1 ครั้ง สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จกว่า 6,838 เรื่อง ทุนทรัพย์กว่า 125 ล้านบาท 

ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้นอกจากที่ประชาชนได้รับหนังสือจากเครือข่ายสถาบันการเงินต่างๆ เดินทางมาร่วมงานแล้ว ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก ได้ถือโอกาสเดินทางมาปรึกษาหารือ เพื่อปรับลดปัญหาหนี้สิน ก่อนที่จะถูกการบังคับคดี ซึ่งหนี้สินส่วนใหญ่มาจากการกู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ร้อยละ 60 ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ การลงทุนด้านเกษตรกรรม และเมื่อสอบถามส่วนใหญ่พึ่งพอใจกับงานที่จัดขึ้น อันดับแรกคือมีความสบายใจจากการลดหย่อนการจ่ายเงินค่างวดที่ลดลง ทำให้ผู้ค้ำประกันไม่ต้องมาเดือดร้อนจากการจ่ายหนี้สินแทน ซึ่งประการสำคัญลูกหนี้ส่วนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นความโชคดีที่เครือข่ายสถาบันการเงินต่างๆเห็นอกเห็นใจที่ต้องปะสบปัญหาอุทกภัย จึงได้ลดหย่อนข้อตกลงต่างๆที่ลูกหนี้แต่ละรายสามารถจ่ายได้ โยที่ไม่ได้รับความเดือดร้อน

ด้าน นางสาวนูรดียา บาวาโซ๊ะ อายุ 33 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.1 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส 1 ในลูกหนี้ที่เดินทางมาร่วมงานไกล่เกลี่ยหนี้สินในครั้งนี้ ได้เปิดเผยด้วยน้ำตกคลอเบ้าต่อหน้า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่า ตนติดหนี้บริษัทโตโยต้า 380,000 บาท เกิดสภาวะน้ำท่วมที่บ้านเกือบมิดรถยนต์ ไหนก็ต้องซ่อมรถยนต์มีค่าใช้จ่ายเยอะ ซึ่งจากสภาพบ้านที่พังเสียหาย ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมเยอะแล้ว และมาโดนกับรถยนต์อีก เราก็ไม่มีจะจ่าย แล้วทนายก็โทรมาแจ้งว่า ต้องจ่ายเป็นก้อนแต่เราก็ไม่มีจ่าย พอดีกับมาเจอโครงการนี้เราคุยกันและตกลงว่าต้องการคืนรถ ซึ่งถ้าคืนรถแล้วไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งเป็นส่วนต่างความเสียหายหรือค่าสึกหร่อก็เลยตัดสินใจคืนรถดีกว่า จะได้เอาเงินไปซ่อมบ้านจากอุทกภัยน้ำท่วม ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณโครงการนี้มาก ๆ 

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรณีผู้ค้ำประกันหนี้ กยศ.ตอนนี้เราปลอดผู้ค้ำประกันแล้ว ซึ่งใครที่เคยค้ำประกันไว้ไม่ต้องมารับภาระค้ำประกัน เนื่องจากมีช่องกฎหมายที่จะต้องให้ผู้ค้ำมารับรู้ แต่ในกระบวนการของกฎหมายจะต้องให้ผู้ค้ำมาแสดงตัวด้วย ซึ่งเท่าที่พบตัวเลขมีอยู่ 2 ล้านกว่าคนทั่วประเทศ ซึ่งผู้ค้ำประกันก็เปรียบเสมือนลูกหนี้ถ้าลูกหนี้ไม่จ่ายผู้ค้ำประกันต้องจ่ายแทน โดยต้องถูกยึดทรัพย์สินบังคับคดี ซึ่งครั้งนี้เป็นนวัตกรรมในการแก้หนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของการศึกษา ที่จริงเป็นหนี้ที่รัฐเป็นผู้กำหนด แต่ว่ากองทุนนี้เราจะให้เป็นกองทุนใช้สำหรับให้กับคนรุ่นหลังเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ แต่ว่าจะยกเลิกผู้ค้ำประกัน ซึ่งสรุปแล้วผู้ค้ำประกันจะได้รับการยกเลิก ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันอีกต่อไป ไม่มีพันธะว่าจะต้องวิตกกังวลในกรณีที่ลูกไม่จ่ายเพราะแม่ต้องรับผิดชอบแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้กล่าวขอบคุณ กรมบังคับคดี กองทุนเงินให้ยืมเพื่อการศึกษา และหน่วยงานเครือข่ายสถาบันการเงินต่างๆ ที่ให้ความร่วมมือจัดงานโครงการส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความยุติธรรมด้านการบังคับคดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จัดงานขึ้นในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจในการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนของทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนที่มาร่วมงานจะได้รับความช่วยเหลือให้มีการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ ให้ลูกหนี้ เจ้าหนี้ เจรจายุติข้อพิพาทด้วยความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย โดยเสร็จสิ้นภารกิจในเวลา 13.00 น.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การวิเคราะห์ “ยมกวรรค” ในพระไตรปิฎก 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ทุติยปัณณาสก์

  การวิเคราะห์ “ยมกวรรค” ในพระไตรปิฎกและบทบาทในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ “ยมกวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิ...