วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2568

มุมมองของสมบูรณ์ สุขสำราญกับพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนาในฐานะระบบความคิดและวิถีปฏิบัติที่ดำรงอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ไม่เพียงเป็นศาสนาที่ให้หลักการทางจริยธรรมและการดำเนินชีวิต แต่ยังเป็นฐานทางวัฒนธรรม สังคม และการเมืองด้วย นักวิชาการและนักคิดจำนวนมากได้พยายามอธิบายและตีความพระพุทธศาสนาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม หนึ่งในนั้นคือ สมบูรณ์ สุขสำราญ นักคิดร่วมสมัยที่มีบทบาทในการตีความพระพุทธศาสนาในเชิงสังคมและการพัฒนามนุษย์

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์มุมมองของสมบูรณ์ สุขสำราญต่อพระพุทธศาสนา โดยเชื่อมโยงทั้งในเชิงแนวคิดหลัก ความสัมพันธ์กับบริบทสังคมไทย และข้อวิพากษ์ต่อความเข้าใจพุทธศาสนาในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น


เนื้อหา

1. พื้นฐานแนวคิดของสมบูรณ์ สุขสำราญ

สมบูรณ์ สุขสำราญเป็นนักวิชาการที่ให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาในฐานะ ศาสตร์แห่งชีวิต ไม่ใช่เพียงศาสนาในเชิงพิธีกรรมหรือความเชื่อ แต่เป็น “ระบบการพัฒนามนุษย์” ที่มุ่งเน้นให้บุคคลเข้าใจตนเอง เข้าใจสังคม และเข้าถึงความจริงตามหลักอริยสัจสี่และปฏิจจสมุปบาท

เขามองว่า แก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคือการ “ลดอัตตา” และ “สร้างปัญญา” เพื่อให้มนุษย์สามารถพ้นทุกข์ได้จริง การยึดติดกับพิธีกรรมหรือการตีความที่เน้นเพียงความเชื่อเชิงศรัทธาเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ


2. มุมมองต่อพระพุทธศาสนากับสังคม

สมบูรณ์ให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้พระพุทธศาสนาในสังคม โดยชี้ว่า พุทธศาสนามิได้เป็นเพียงเรื่องส่วนบุคคล หากแต่ยังเชื่อมโยงกับปัญหาสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองด้วย

  • เขามองว่า พระพุทธศาสนาในไทย มักถูกตีความและใช้เพื่อรองรับโครงสร้างอำนาจ ทำให้พุทธศาสนาสูญเสียพลวัตที่แท้จริงในการเป็นแนวทางแห่งการปลดปล่อยมนุษย์

  • เขาเสนอให้พุทธศาสนากลับมาสู่บทบาทในการสร้าง มนุษย์ที่ตื่นรู้ (awakened being) โดยเน้นการศึกษาเชิงวิพากษ์มากกว่าการท่องจำเชิงศรัทธา


3. การตีความพระพุทธศาสนาเชิงวิพากษ์

สมบูรณ์ สุขสำราญมักวิพากษ์ว่า การปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาในสังคมไทยมักจำกัดอยู่ในรูปแบบ เช่น การทำบุญ ใส่บาตร หรือการสร้างวัตถุศักดิ์สิทธิ์ แต่ละเลยแก่นสารของธรรมะ เขาเห็นว่าแนวทางนี้ไม่ช่วยให้สังคมพัฒนาอย่างแท้จริง

เขาย้ำว่า พระพุทธศาสนาควรเป็น “พุทธศาสนาแห่งการปลดปล่อย” (emancipatory Buddhism) ไม่ใช่เพียง “พุทธศาสนาเชิงพิธีกรรม” (ritualistic Buddhism) ดังนั้น การศึกษาและการเผยแผ่ธรรมะควรเชื่อมโยงกับประเด็นร่วมสมัย เช่น ความยุติธรรมทางสังคม สิ่งแวดล้อม และสิทธิมนุษยชน


4. จุดเด่นของมุมมอง

  • การเชื่อมโยงพุทธศาสนากับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

  • การเน้นแก่นแท้ของธรรมะมากกว่าพิธีกรรม

  • การวิพากษ์เชิงสร้างสรรค์ต่อโครงสร้างศาสนาในไทย


บทสรุป

มุมมองของสมบูรณ์ สุขสำราญต่อพระพุทธศาสนามีลักษณะเฉพาะที่ชี้ให้เห็นว่า พุทธศาสนาไม่ควรถูกจำกัดอยู่เพียงในกรอบความเชื่อหรือพิธีกรรม หากแต่เป็นระบบการพัฒนามนุษย์ที่สามารถตอบโจทย์สังคมร่วมสมัยได้ เขาพยายามทำให้พระพุทธศาสนามีพลวัตมากขึ้น ผ่านการเน้นการตื่นรู้ การวิพากษ์โครงสร้างอำนาจ และการคืนคุณค่าของพระธรรมสู่การดำเนินชีวิตจริง

ดังนั้น การศึกษามุมมองของสมบูรณ์ สุขสำราญ จึงมีคุณูปการต่อการทำความเข้าใจพุทธศาสนาในมิติใหม่ ที่ไม่เพียงสะท้อนความศรัทธาแบบดั้งเดิม แต่ยังเป็นการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างพระธรรมกับปัญหาสังคมร่วมสมัย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นายกฯลาวดวงตาเห็นธรรมพุทธ หวังเสริมแกร่งเป็นฐานพัฒนาประเทศ

บทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์: นายกรัฐมนตรีลาวกับข้อเรียกร้องให้พระพุทธศาสนามีบทบาทที่แข็งแกร่งในกระบวนการพัฒนาประเทศ: พลวัตใหม่แห่งรัฐสังคมนิยม...