พระพุทธศาสนาในฐานะระบบความคิดและวิถีปฏิบัติที่ดำรงอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ไม่เพียงเป็นศาสนาที่ให้หลักการทางจริยธรรมและการดำเนินชีวิต แต่ยังเป็นฐานทางวัฒนธรรม สังคม และการเมืองด้วย นักวิชาการและนักคิดจำนวนมากได้พยายามอธิบายและตีความพระพุทธศาสนาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม หนึ่งในนั้นคือ สมบูรณ์ สุขสำราญ นักคิดร่วมสมัยที่มีบทบาทในการตีความพระพุทธศาสนาในเชิงสังคมและการพัฒนามนุษย์
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์มุมมองของสมบูรณ์ สุขสำราญต่อพระพุทธศาสนา โดยเชื่อมโยงทั้งในเชิงแนวคิดหลัก ความสัมพันธ์กับบริบทสังคมไทย และข้อวิพากษ์ต่อความเข้าใจพุทธศาสนาในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เนื้อหา
1. พื้นฐานแนวคิดของสมบูรณ์ สุขสำราญ
สมบูรณ์ สุขสำราญเป็นนักวิชาการที่ให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาในฐานะ ศาสตร์แห่งชีวิต ไม่ใช่เพียงศาสนาในเชิงพิธีกรรมหรือความเชื่อ แต่เป็น “ระบบการพัฒนามนุษย์” ที่มุ่งเน้นให้บุคคลเข้าใจตนเอง เข้าใจสังคม และเข้าถึงความจริงตามหลักอริยสัจสี่และปฏิจจสมุปบาท
เขามองว่า แก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคือการ “ลดอัตตา” และ “สร้างปัญญา” เพื่อให้มนุษย์สามารถพ้นทุกข์ได้จริง การยึดติดกับพิธีกรรมหรือการตีความที่เน้นเพียงความเชื่อเชิงศรัทธาเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ
2. มุมมองต่อพระพุทธศาสนากับสังคม
สมบูรณ์ให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้พระพุทธศาสนาในสังคม โดยชี้ว่า พุทธศาสนามิได้เป็นเพียงเรื่องส่วนบุคคล หากแต่ยังเชื่อมโยงกับปัญหาสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองด้วย
-
เขามองว่า พระพุทธศาสนาในไทย มักถูกตีความและใช้เพื่อรองรับโครงสร้างอำนาจ ทำให้พุทธศาสนาสูญเสียพลวัตที่แท้จริงในการเป็นแนวทางแห่งการปลดปล่อยมนุษย์
-
เขาเสนอให้พุทธศาสนากลับมาสู่บทบาทในการสร้าง มนุษย์ที่ตื่นรู้ (awakened being) โดยเน้นการศึกษาเชิงวิพากษ์มากกว่าการท่องจำเชิงศรัทธา
3. การตีความพระพุทธศาสนาเชิงวิพากษ์
สมบูรณ์ สุขสำราญมักวิพากษ์ว่า การปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาในสังคมไทยมักจำกัดอยู่ในรูปแบบ เช่น การทำบุญ ใส่บาตร หรือการสร้างวัตถุศักดิ์สิทธิ์ แต่ละเลยแก่นสารของธรรมะ เขาเห็นว่าแนวทางนี้ไม่ช่วยให้สังคมพัฒนาอย่างแท้จริง
เขาย้ำว่า พระพุทธศาสนาควรเป็น “พุทธศาสนาแห่งการปลดปล่อย” (emancipatory Buddhism) ไม่ใช่เพียง “พุทธศาสนาเชิงพิธีกรรม” (ritualistic Buddhism) ดังนั้น การศึกษาและการเผยแผ่ธรรมะควรเชื่อมโยงกับประเด็นร่วมสมัย เช่น ความยุติธรรมทางสังคม สิ่งแวดล้อม และสิทธิมนุษยชน
4. จุดเด่นของมุมมอง
-
การเชื่อมโยงพุทธศาสนากับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
-
การเน้นแก่นแท้ของธรรมะมากกว่าพิธีกรรม
-
การวิพากษ์เชิงสร้างสรรค์ต่อโครงสร้างศาสนาในไทย
บทสรุป
มุมมองของสมบูรณ์ สุขสำราญต่อพระพุทธศาสนามีลักษณะเฉพาะที่ชี้ให้เห็นว่า พุทธศาสนาไม่ควรถูกจำกัดอยู่เพียงในกรอบความเชื่อหรือพิธีกรรม หากแต่เป็นระบบการพัฒนามนุษย์ที่สามารถตอบโจทย์สังคมร่วมสมัยได้ เขาพยายามทำให้พระพุทธศาสนามีพลวัตมากขึ้น ผ่านการเน้นการตื่นรู้ การวิพากษ์โครงสร้างอำนาจ และการคืนคุณค่าของพระธรรมสู่การดำเนินชีวิตจริง
ดังนั้น การศึกษามุมมองของสมบูรณ์ สุขสำราญ จึงมีคุณูปการต่อการทำความเข้าใจพุทธศาสนาในมิติใหม่ ที่ไม่เพียงสะท้อนความศรัทธาแบบดั้งเดิม แต่ยังเป็นการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างพระธรรมกับปัญหาสังคมร่วมสมัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น