วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2568

ผู้นำสันติภาพโลกกับบทบาทการป้องกันภัยสงครามด้วยเอไอ


โลกปัจจุบัน ความขัดแย้งระหว่างประเทศยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่นำไปสู่สงคราม ความรุนแรง และการสูญเสียชีวิตผู้คนจำนวนมาก แม้ว่ามนุษยชาติจะพัฒนาอารยธรรมไปไกล แต่คำถามเชิงคุณธรรมยังคงสะท้อนให้คิดว่า “ทำไมเราต้องทำให้คนอื่นต้องตายเพราะความขัดแย้ง?” ในบริบทนี้ บทบาทของ ผู้นำสันติภาพโลก (Global Peace Leaders) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความเข้าใจระหว่างมนุษย์ ชาติพันธุ์ ศาสนา และการเมือง เพื่อยุติความรุนแรงและป้องกันภัยสงคราม

เวที HWPL World Peace Summit เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ได้เป็นพื้นที่สะท้อนพลังของผู้นำสันติภาพจากทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ พระปราโมทย์ วาทโกวิโท, ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ซึ่งชี้ให้เห็นว่า สันติภาพไม่ใช่เรื่องของอนาคต แต่ต้องสร้างขึ้นในยุคนี้ ผ่านการเคารพความแตกต่าง การเรียนรู้จากศาสนา และการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของมนุษยชาติ

ในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ก็กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเชิงโครงสร้าง ทำให้บทบาทของ “ผู้นำสันติภาพ” และ “AI” อาจบรรจบกันในฐานะกลไกสำคัญในการป้องกันสงครามโลกยุคใหม่


1. ศาสนา: ฐานรากแห่งสันติภาพโลก

ประเด็นจากการประชุมชี้ให้เห็นว่า ศาสนามีบทบาทเป็น ฐานของสันติภาพ ด้วยเหตุผลหลายประการ ได้แก่

  1. แก่นคำสอนเน้นความเมตตาและอหิงสา – ทุกศาสนาล้วนมีสาระหลักเพื่อความรัก ความกรุณา และความสงบ

  2. การเยียวยาจิตใจมนุษย์ – ศาสนาช่วยให้เข้าใจความทุกข์ ลดความโกรธและความเกลียดชัง

  3. ศีลธรรมเป็นกติกากลางของสังคม – เป็นรากฐานของกฎหมายและสิทธิมนุษยชน

  4. ค่านิยมร่วมของมนุษยชาติ – เช่น ความยุติธรรม ความซื่อสัตย์ ความเป็นพี่น้องสากล

  5. พลังของชุมชนและการรวมตัว – เมื่อศาสนาสนับสนุนสันติภาพ สามารถสร้างขบวนการใหญ่เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม

  6. พื้นที่กลางของการปรองดอง – ผู้นำศาสนามักได้รับการยอมรับในการเป็น “ผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง”

แม้ศาสนามีศักยภาพดังกล่าว แต่หากถูกตีความผิดหรือใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ก็อาจกลายเป็นสาเหตุของสงคราม ดังนั้นหัวใจสำคัญคือการเน้น “สาระร่วม” ของศาสนา มากกว่าความแตกต่างในพิธีกรรม


2. บทบาทผู้นำสันติภาพโลก

ผู้นำสันติภาพในเวทีระดับโลกมีหน้าที่สำคัญดังนี้

  • เป็นพยานและกระบอกเสียงของสันติภาพ เพื่อต่อต้านสงครามและอาวุธทำลายล้าง

  • ส่งเสริมการเจรจาแทนการต่อสู้ ยืนยันว่าความขัดแย้งต้องถูกแก้ไขด้วยสันติวิธี

  • เชื่อมโยงความแตกต่างให้เป็นความหลากหลาย ไม่ใช่ความแตกแยก โดยเฉพาะด้านศาสนาและวัฒนธรรม

  • ออกแบบการเมืองเพื่อสันติภาพ เพราะการเมืองที่ดีไม่ใช่การแสวงหาผลประโยชน์ แต่เป็นการสร้างระบบที่ลดความรุนแรง

ดังนั้น ผู้นำสันติภาพโลกจึงมิใช่เพียงผู้แทนศาสนาหรือองค์กร แต่คือผู้ที่ออกแบบ “ระบบคิดและวัฒนธรรมสังคม” ที่ยึดสันติภาพเป็นแกนกลาง


3. AI กับการป้องกันภัยสงคราม

AI สามารถเป็นกลไกสำคัญในการ เสริมบทบาทผู้นำสันติภาพโลก โดยมีศักยภาพดังนี้

  1. การเฝ้าระวังความขัดแย้งเชิงโครงสร้าง

    • วิเคราะห์ข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ ข่าวสาร และการเคลื่อนไหวทางการเมือง

    • ตรวจจับสัญญาณความรุนแรงก่อนบานปลาย เช่น Hate Speech, Fake News, Propaganda

  2. การคาดการณ์และจำลองสถานการณ์ (Conflict Forecasting)

    • ใช้ Machine Learning วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของความขัดแย้งทางทหารหรือการก่อการร้าย

    • ให้ข้อมูลเชิงนโยบายแก่ผู้นำในการตัดสินใจเชิงป้องกัน

  3. การสร้างพื้นที่เจรจาเสมือน (Virtual Peace Dialogue)

    • AI สามารถแปลภาษาและวิเคราะห์อารมณ์ในการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้ง

    • ลดอุปสรรคด้านภาษาและวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ

  4. การศึกษาเพื่อสันติภาพ

    • AI สร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบ Personalized Learning เกี่ยวกับสันติภาพและการอยู่ร่วมกัน

    • สร้างสื่อการเรียนรู้ที่เข้าถึงผู้คนทุกกลุ่มวัย


4. กรณีศึกษาและแนวโน้มในอนาคต

  • สหประชาชาติ ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากพื้นที่ขัดแย้ง เพื่อระบุจุดเสี่ยงและวางมาตรการป้องกัน

  • โครงการ PeaceTech Lab พัฒนา AI เพื่อติดตามวาทกรรมเกลียดชังในภูมิภาคแอฟริกา → ป้องกันการปลุกระดมความรุนแรง

  • แพลตฟอร์ม AI ด้านการศึกษา สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างหลักสูตรสันติภาพออนไลน์ที่เข้าถึงได้ทั่วโลก

แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทางเทคโนโลยี แต่คือ “หุ้นส่วนทางสังคม” ที่สามารถทำงานร่วมกับผู้นำสันติภาพเพื่อป้องกันสงคราม


บทสรุป

ผู้นำสันติภาพโลกมีบทบาทสำคัญในการสร้างสังคมที่ปราศจากสงคราม โดยใช้ศาสนา การเมืองที่ถูกต้อง และวัฒนธรรมแห่งสันติเป็นฐาน ในขณะเดียวกัน AI สามารถเป็น พลังเสริม ที่ช่วยเฝ้าระวังความขัดแย้ง คาดการณ์สถานการณ์ และสร้างพื้นที่การเรียนรู้เชิงสันติภาพ

ดังนั้น “สันติภาพต้องสำเร็จ” จึงมิใช่เพียงคำขวัญ แต่คือความเป็นไปได้ที่จับต้องได้ หากผู้นำสันติภาพโลกและ AI สามารถทำงานเคียงข้างกัน เพื่อสร้างโลกที่สงครามไม่ใช่คำตอบ และสันติภาพคืออนาคตของมนุษยชาติ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นายกฯลาวดวงตาเห็นธรรมพุทธ หวังเสริมแกร่งเป็นฐานพัฒนาประเทศ

บทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์: นายกรัฐมนตรีลาวกับข้อเรียกร้องให้พระพุทธศาสนามีบทบาทที่แข็งแกร่งในกระบวนการพัฒนาประเทศ: พลวัตใหม่แห่งรัฐสังคมนิยม...