(Verse 1) https://suno.com/s/D0X9Vv00FDIRzsr3
โลกเผชิญพายุแห่งความเปลี่ยนแปลง
สงคราม ความหวั่นไหวไม่สิ้นสุด
เสียงแห่งไทยก้องไกลไปทั่วโลกมนุษย์
ย้ำพหุภาคีคือพลังแห่งสันติภาพ
(Verse 2) https://suno.com/s/tft649n31xnp2uad
สิทธิมนุษยชนคือรากฐานแห่งชีวิต
สตรี เยาวชนคืออนาคตที่สดใส
สุขภาพถ้วนหน้าคือสิทธิ์ของผู้คนมากมาย
ความเท่าเทียมคือหนทางสู่วันใหม่
(Chorus)
เศรษฐกิจพอเพียง พลังแห่งภูมิปัญญาไทย
พอประมาณ มีเหตุผล ยืนหยัดในคุณธรรม
สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เชื่อมใจทั้งโลกเข้าด้วยกัน
เพื่อวันพรุ่งนี้ โลกยั่งยืนตลอดไป
(Verse 3)
จากแผ่นดินไทยสู่เวทีสหประชาชาติ
ส่งต่อปรัชญาที่เรียบง่ายแต่งดงาม
ไม่ใช่แค่ทางรอด แต่คือหนทางสร้างความมั่นคงยั่งยืน
ให้โลกทั้งผองอยู่ร่วมกันด้วยศรัทธา
(Chorus)
เศรษฐกิจพอเพียง พลังแห่งภูมิปัญญาไทย
พอประมาณ มีเหตุผล ยืนหยัดในคุณธรรม
สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เชื่อมใจทั้งโลกเข้าด้วยกัน
เพื่อวันพรุ่งนี้ โลกยั่งยืนตลอดไป
(Outro)
จากคำไทยสู่ใจโลก ก้าวเดินไปด้วยกัน
สันติภาพ ความหวัง และการพัฒนา
พอเพียงคือคำตอบ ที่ส่องทางสว่างไสว
ให้โลกทั้งใบอยู่รอดด้วยความรัก
วิเคราะห์ถ้อยแถลงของสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ชูหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก
บทคัดย่อ
ถ้อยแถลงของนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 เป็นเวทีสำคัญที่ประเทศไทยได้แสดงวิสัยทัศน์ด้านการทูตระหว่างประเทศ โดยเน้นการเชื่อมโยงหลักการพหุภาคีนิยม (Multilateralism) เข้ากับการสร้างสันติภาพ สิทธิมนุษยชน และการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้กรอบแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งเป็นปรัชญาพื้นฐานที่สะท้อนถึงความสมดุล ความพอประมาณ และความยืดหยุ่นในการรับมือกับความท้าทายระดับโลก บทความนี้มุ่งวิเคราะห์ประเด็นสำคัญจากถ้อยแถลงดังกล่าว โดยพิจารณาผ่าน 3 มิติหลัก ได้แก่ (1) มิติทางการทูตและการเมืองระหว่างประเทศ (2) มิติทางสังคมและสิทธิมนุษยชน และ (3) มิติด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม เพื่อตีความว่าการชูหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสามารถเป็นกลไกที่สนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศและสร้างสมดุลใหม่ให้แก่การพัฒนาของโลกในอนาคตได้อย่างไร
บทนำ
ในยุคที่โลกเผชิญวิกฤติหลากหลาย ทั้งความขัดแย้งทางการเมือง ภาวะสงคราม ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ โรคระบาด และภัยพิบัติทางสิ่งแวดล้อม การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) จึงกลายเป็นวาระเร่งด่วนของประชาคมโลก ถ้อยแถลงของนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ในเวทีสหประชาชาติได้สะท้อนบทบาทของประเทศไทยที่ไม่เพียงยืนหยัดบนหลักการพหุภาคีนิยม แต่ยังนำเสนอมุมมองเฉพาะของไทยคือ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy: SEP) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 ได้ทรงวางรากฐานไว้เป็นแนวทางการพัฒนา
1. มิติทางการทูตและการเมืองระหว่างประเทศ
ถ้อยแถลงได้ย้ำถึงความสำคัญของ การรวมตัวกันเป็นประชาคมหนึ่งเดียว โดยเฉพาะในวาระครบรอบ 80 ปีแห่งการก่อตั้งสหประชาชาติ นายสีหศักดิ์ชี้ให้เห็นว่าการพัฒนาและการสร้างสันติภาพไม่อาจเกิดขึ้นได้หากแต่ละประเทศแยกตนเองจากความร่วมมือโลก ความขัดแย้งในยูเครนและกาซาถูกยกเป็นตัวอย่างของผลลัพธ์อันเจ็บปวดจากการขาดเอกภาพ ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียต่อประชาชนโดยตรง
ประเทศไทยแสดงบทบาทเชิงรุก ไม่ว่าจะเป็นการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการให้ที่พักพิงแก่ผู้พลัดถิ่นจากเมียนมา นี่สะท้อนการดำเนินนโยบายต่างประเทศบนฐานของ มนุษยธรรมและการพัฒนาเพื่อสันติภาพ
2. มิติทางสังคมและสิทธิมนุษยชน
อีกประเด็นสำคัญคือ สิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วมของสตรีและเยาวชน นายสีหศักดิ์ได้เชื่อมโยงการสร้างสันติภาพเข้ากับการเสริมพลังทางสังคม โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของสตรีในกระบวนการสันติภาพและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง รวมถึงการย้ำสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสุขภาพและการเข้าถึงบริการสาธารณสุขถ้วนหน้า
บทบาทของไทยในการเป็นผู้นำด้านนโยบายสุขภาพ เช่น ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ถูกหยิบยกขึ้นเป็นตัวอย่างของ การพัฒนาที่ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งเชื่อมโยงกับหลักการพอเพียงที่มุ่งเน้นคุณภาพชีวิตมากกว่าความเจริญทางวัตถุเพียงด้านเดียว
3. มิติด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม
หัวใจสำคัญของถ้อยแถลงอยู่ที่การเชื่อมโยง หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เข้ากับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) นายสีหศักดิ์ได้ชี้ให้เห็นว่า ความเจริญรุ่งเรืองแท้จริงไม่ได้อยู่บนกำแพงภาษีหรือการกีดกันทางการค้า แต่เกิดจากการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความร่วมมือข้ามพรมแดน
หลักเศรษฐกิจพอเพียงถูกนำเสนอในฐานะ กรอบคิดเชิงค่านิยม ที่เน้น
-
ความพอประมาณ (Moderation)
-
ความมีเหตุผล (Reasonableness)
-
การมีภูมิคุ้มกันที่ดี (Resilience)
พร้อมด้วยเงื่อนไขความรู้และคุณธรรม
สิ่งเหล่านี้ถูกตีความให้สอดคล้องกับความท้าทายระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และการรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การวิเคราะห์เชิงสังเคราะห์
เมื่อพิจารณาเชิงลึก ถ้อยแถลงของนายสีหศักดิ์สะท้อนการใช้ พลังอำนาจเชิงบรรทัดฐาน (Normative Power) ของไทยในเวทีโลก กล่าวคือ ประเทศไทยมิได้อ้างอิงเพียงผลประโยชน์แห่งรัฐ แต่ยก ปรัชญาการพัฒนาที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมและพระราชดำริ มาสู่การตีความในระดับสากล การชูเศรษฐกิจพอเพียงในสหประชาชาติไม่เพียงเป็นการสื่อสารนโยบาย แต่ยังเป็น การสร้างภาพลักษณ์ (National Branding) ของไทยว่าเป็นประเทศที่พร้อมเสนอแนวทาง “พัฒนาที่สมดุล” ให้แก่โลก
บทสรุป
ถ้อยแถลงของนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นหลักฐานสำคัญของการเชื่อมโยง “การทูตเชิงพหุภาคี” เข้ากับ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” อันเป็นภูมิปัญญาไทยที่มีศักยภาพต่อการแก้ไขปัญหาสากล แนวคิดนี้มิใช่เพียงคำสอนทางเศรษฐกิจ แต่เป็นกรอบการพัฒนาที่ให้ความสำคัญกับ คน-สังคม-สิ่งแวดล้อม อย่างบูรณาการ
ในห้วงเวลาที่สหประชาชาติก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ การนำเสนอหลักเศรษฐกิจพอเพียงในเวทีระหว่างประเทศจึงเป็นทั้งการยืนยันบทบาทของไทย และเป็นการเสนอแนวทางที่อาจช่วยสร้าง “อนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน” ให้แก่ประชาคมโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น