วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2560

พุทธะอิสระโต้!พวกทุจริตจะต้องไม่มีทีเหยียบยืน



วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๐ หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ได้โพสต์ข้อความว่า พวกทุจริตจะต้องไม่มีทีเหยียบยืน



มีข่าวว่า ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นเลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยคือ นาย กรณ์ มีดี ไปยื่นหนังสือต่อนาย ออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจําสํานักนายก ที่กำกับดูแลงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเพื่อเรียกร้องให้ปลด พ.ต.ท. พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ด้วยข้อหา

-ไม่เคารพไม่ให้เกียรติ พระสงฆ์

-ทำการตรวจสอบ ทุจริต เงินอุดหมุน กองการศึกษาของคณะสงฆ์ โดยไม่บอกกล่าวคณะสงฆ์ก่อน

-ส่งหนังสือคัดค้าน เรื่องการแต่งตั่ง เจ้าคณะจังหวัด ฉะเชิงเทรา ทั้งที่เป็นอำนาจของมหาเถร

-เรื่องการ ทุจริตเงินทอนวัด ก็ออกมาโวยวายเกรงว่าจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของคณะสงฆ์ ควรจะทำเรื่องฟ้องเฉพาะเจ้าที่สำนักพุทธและกันเจ้าอาวาสที่เกี่ยวข้องเอาไว้เป็นพยาน

เหล่านี้คือข้อกล่าวหาที่เป็นเหตุให้ลิ่วล้อหมาเถรออกมายื่นหนังสือปลด ผอ.สำนักพุทธ
....................................
"ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี" ยืนยันไม่ย้าย "ผอ.สำนักพุทธฯ" ชี้ไม่มีพฤติกรรมเสื่อมเสีย - ทำงานร่วมกับมหาเถรสมาคมได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงข้อเสนอของเลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้เปลี่ยนตัวผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่า ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่มีพฤติกรรมเสื่อมเสีย และสามารถทำงานร่วมกับมหาเถรสมาคมได้ แต่พร้อมที่จะรับฟังความเห็นของกลุ่มต่าง ๆ จึงขออย่ากดดันการทำงานและไม่ควรมีการเคลื่อนไหว เพราะขัดกับหลักศาสนา ที่สอนให้คนปรองดองและรักกัน

ทีนี้เราลองมาดูประวัติ ที่มาที่ไปของสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยนี้ดูกันหน่อยว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

สมาพันธ์นี้ก่อตั้งขึ้นในช่วงเกิดม๊อบพระที่พุทธมณฑล โดยมีเครือข่ายลัทธิธรรมกายและบรรดาพวกมหาเปรียญรุ่นเก่าบางคน ผู้แสวงหาอำนาจ ตำแหน่ง รวมหัวกับสารพัดองค์กรก่อตั้งกันขึ้นมา โดยพยายามจะขยายอิทธิพลเข้าไปครอบงำสังฆมณฑล ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค โดยอ้างวัตถุประสงค์ที่ฟังดูดี เช่น
1. ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา
2. อุปภัมภ์และส่งเสริมพระพุทธศาสนา
3. ยึดหลักวิถีพุทธ

สมาพันธ์นี้พยายามยกข้ออ้างว่าจะปกป้องพระพุทธศาสนา แต่โดยพฤติกรรมที่ผ่านมา กลับพยายามที่จะปกป้องพวกพ้องและอลัชชีกบฏผีบุญ หัวหน้าลัทธิธรรมกายเสียส่วนใหญ่

ตัวอย่างผลงานที่สังคมรับรู้กันทั่ว คือ ตัวประธานที่ชื่อบรรจบ พยายามออกมาพูดปกป้องลัทธิผีบุญอยู่เนื่อง ๆ ในช่วงที่มีวิกฤตของลัทธิธรรมกาย

อีกทั้งสมาพันธ์นี้กำลังฟอร์มตัวที่จะจัดตั้งพรรคการเมือง โดยมีกลุ่มทุน ๒ กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มทุนจากลัทธิผีบุญกับกลุ่มทุนจากพรรคการเมืองที่อยู่ข้างเดียวกันให้การสนับสนุน

รวมความว่า ที่อ้างตนว่าเป็นสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยแล้ว ออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ นอกจากต้องการจะปลด ผ.อ.สำนักพุทธฯที่กำลังทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเข้มข้นแล้ว ยังหวังผลทางการเมืองอีกตะหาก

ดีที่ท่านนายกฯอ่านเกมส์ออก จึงออกมาปราม ทั้งยังยืนยันว่า

ผ.อ.สำนักพุทธฯ ไม่มีพฤติกรรมเสื่อมเสียอะไร สามารถทำงานร่วมกับมหาเถรสมาคมได้

พุทธะอิสระจึงอยากจะย้ำของความของท่านนายกฯที่ว่า
ผ.อ.สำนักพุทธฯไม่มีพฤติกรรมเสื่อมเสียอะไร

ขอต่อท้ายท่านนายกฯหน่อยว่า แล้วไอ้พวกที่มีพฤติกรรมเสื่อมเสียที่อาศัยพระพุทธศาสนาหากินอยู่หละ ไม่รูสึกละอายกันบ้างหรือ

ทีนี้ก็คงต้องหันกลับมาถามคนไทยหละว่า

เราจะยอมให้คนดีถูกรังแกกระนั้นหรือ

เราจะยอมให้ข้าราชการตรงฉิน ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อตรงต้องถูกรุกรานกระนั้นหรือ

เราจักปล่อยให้พวกขี้โกง ฉ้อราษฎร์ เบียดบังเงินวัด มีอำนาจข่มเหงคนดีกระนั้นหรือ

เราต้องการให้พระธรรมวินัยอยู่ในมือของพวกเผ่าพันธุ์อลัชชีโดยไม่คิดจะปกป้องกันเลยเชียวหรือ

เราต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันมา ก็เพื่อต้องการให้พวกขี้โกง ทุจริต ถูกกันเอาไว้เป็นพยานกระนั้นหรือ

ระหว่างผู้ที่ทำหน้าที่อย่างซื่อตรงกับพวกขี้ฉ้อ บิดเบือน คนไทยจะเลือกใคร ?

อยากเตือนพวกลิ้วล้อมหาเถรว่าอย่าให้ได้อายไปมากกว่านี้เลย
ถ้าถึงขนาดประชาชนต้องลุกขึ้นมาขับไล่มหาเถรแล้วหละก็ คงได้อับอายกันไปถึงสามโลกแน่

อ้อ....ลืมไป ถ้าคนพวกนี้มีความละอาย สังฆมณฑลคงไม่ฉาวโฉ่ เช่นนี้แน่

พุทธะอิสระ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ดร.นิยม เวชกามา" จับมือกรรมาธิการศาสนา สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ไปช่วยแก้ปัญหาตั้งวัดในศรีสะเกษกว่า 300 แห่ง

วันที่ 24 เมษายน 2567 ดร.นิยม เวชกามา ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่งและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม  เวชยชัย ในฐานะอนุกรรมมา...