วันที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๗ ณ ศูนย์วิปัสสนาเคลื่อนที่แห่งประเทศไทย วัดสุวรรณประสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร พระปราโมทย์ วาทโกวิโท,ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษาระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เป็นวิทยากรสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนและการเผยแผ่โดยเทรนพระวิปัสสนาจารย์รุ่น ๕๒ ซึ่งเป็นพระสงฆ์มาจากทั่วประเทศ ในหลักสูตร "พระวิปัสสนาจารย์" ซึ่งเป็นภาคของการเรียนรู้ในเทคนิคการสื่อสารธรรมให้ร่วมสมัยสอดรับกับปัจจุบัน ให้สามารถสื่อสารธรรมเกิดความแจ่มแจ้ง จูงใจ แกล้วกล้า ร่าเริงเบิกบานใจ จึงมีคำว่า "วิธีการเรียนรู้สำคัญไม่น้อยกว่าเรื่องที่จะเรียนรู้" โดยมีสามเณรเข้ามาเรียนรู้การเป็นวิปัสสนากรรมฐาน เป็นสามเณรต้นแบบในการพัฒนาจิตใจอันเป็นฐานการศึกษาในทางพระพุทธศาสนาโดยฝึกอบรม ๓ เดือน ทั้งภาคปฎิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ภาคปริยัติเรียนพระไตรปิฏก และภาคการสื่อสารธรรมให้ตอบโจทย์ในยุคปัจจุบัน
ภายใต้วิธีการ "ธรรมะสะอาด ฉลาดประยุกต์ สนุกมีสาระ" เพราะการเป็นวิทยากรต้นแบบนั้น จะต้องมีความหลงใหลในการเป็นวิทยากร เพราะแท้จริงแล้วเราไม่ได้พิเศษไปกว่าคนอื่นเลย แค่เราต้องฝึกหนัก เราเรียนรู้อย่างเต็มที่ เรามีโอกาสที่ดี เรามีความหมกมุ่นกับสิ่งที่เราทำ จึงมีวาทะธรรมว่า "ความสามารถพิเศษไม่มีอยู่จริง" เราจึงต้องมีความพยายามหาพรสวรรค์ แต่พรที่สุดยอดที่อยู่ข้างในอยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็งของเรา คือ พรแสวง แสวงหาเพื่อสามารถตอบโจทย์ในความฝันของเราเราจึงต้อง....
#แสวงหาที่จะฝึกฝนตนเอง
#แสวงหาสำนักที่ตอบโจทย์
#แสวงหาเวทีให้กับตนเอง
#แสวงหาความเติมเต็มไม่จบสิ้น
#แสวงหากัลยาณมิตรเกื้อกูลกัน
#แสวงหาครูบาอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
ซึ่งมนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เราสามารถเป็นแบบใดก็ได้ หากเราให้เวลากับสิ่งนั้นมากพอ เราจะไปถึงจุดสูงสุดได้ จงย้ำว่า #เราไม่ได้เก่งเพียงแค่หลงใหลในสิ่งที่เราทำ เท่านั้นเอง จงหลงใหลให้สุดความสามารถ การออกแบบหลักสูตรให้สอดรับกลุ่มเป้าหมายจะต้องนึกถึง เพราะ "จอมยุทธที่ดีต้องไม่มีกระบี่ในมือ" มีความพร้อมทุกสถานการณ์ ปรับเปลี่ยนได้ตลอด การออกแบบหลักสูตรจะต้องมีความหมกมุ่นมีความคิดสร้างสรรค์ เป็นสิ่งใหม่ มีความเหมาะสม ใช้งานได้ จะออกแบบหลักสูตรได้จะต้องทบทวนทฤษฏีที่เกี่ยวข้องทั้งศาสตร์สมัยใหม่และพระพุทธศาสนา
จงหลงใหลในสิ่งที่ลงมือทำ ซึ่งพรที่ล้ำค่าคือพรแสวง ผ่านการฝึก ฝึก ฝึก ฝึก ทุกมิติ ทั้งภายนอกและภายใน จงให้เวลากับสิ่งนั้น เพราะความสามารถพิเศษไม่มีอยู่จริง จอมยุทธที่ดีต้องไม่มีกระบี่ในมือ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอด เพราะวิทยากรต้นแบบขั้นเทพนั้นต้องสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งที่เตรียมมาตามสถานการณ์ จึงนำพาพระวิปัสสนาจารย์ซึ่งจะต้องออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จะต้องมีเครื่องมือที่มีความหลากหลาย สามารถปรับใช้ได้ในทุกสถานการณ์ สามารถวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้สามารถสื่อสารธรรมะกำมือเดียวให้ตรงกับความต้องการที่แท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น