วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2561
แนะบัณฑิต"มจร"ต่อยอดความรู้พัฒนาด้านการสื่อสาร
คณบดีคณะสังคมศาสตร์"มศว"แนะบัณฑิต"มจร"ต่อยอดความรู้พัฒนาด้านการสื่อสารบูรณาการตามแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาคณะสงฆ์อย่างยั่งยืน
ระหว่างวันที่ ๓-๔ มีนาคม ๒๕๖๑ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) วิทยาเขตขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น มีการสัมมนานิสิตปฏิบัติศาสนกิจ รุ่นที่ 63 ประจำภาคอีสาน เพื่อสรุปผลการปฏิบัติศาสนกิจออกปฏิบัติงาน 1 ปีในเพศบรรพชิตเพื่อสนองงานคณะสงฆ์และช่วยพัฒนาชุมชนสังคม ซึ่งจะเข้ารับปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิตในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งจัดโดยกองการนิสิต มจร ร่วมกับ มจร วิทยาลัยเขตขอนแก่น โดยมีพระโสภณพัฒนบัณฑิตรศ.ดร.รองอธิการบดี มจร วิทยาเขตขอนแก่นและรองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิด และมีผู้บริหารจากส่วนกลางประกอบด้วยพระมหาราชัน จิตฺตปาโล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต พระมหาถวิล กลฺยาณธมฺโม ผอ.สำนักทะเบียนและวัดผล พระมหาประยูร โชติวโร ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต ร่วมด้วย
พระมหาประยูร โชติวโร ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต มจร กล่าวรายงานว่า ในปีการศึกษา 2560 มจร มีนิสิตออกปฏิบัติศาสนกิจทั่วประเทศจำนวน 2,000 รูปกว่าทั่วประเทศ ตามนโยบายของมหาวิทยาลัย หลังนิสิตสอบได้ตามหลักสูตร 4 ปีแล้ว ในปีที่ 5 นิสิตต้องออกปฏิบัติศาสนกิจในเพศบรรพชิตเป็นเวลา 1 ปี (1 มิ.ย.60-30 มี.ค.61) เพื่อช่วยสนองงานในกิจการคณะสงฆ์ และช่วยพัฒนาชุมชนสังคม โดยในช่วงเดือนมีนาคมจะมีการจัดสัมมนาฯเพื่อสรุปผลการดำเนินงานทั่วประเทศเป็นรายภาค สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีนิสิตปฏิบัติศาสนกิจ 635 รูป
พระโสภณพัฒนบัณฑิต กล่าวว่า วันนี้ยืนยันได้ว่าแนวทางการจัดการศึกษาของ มจร โดยบูรพาจารย์นำพาทำมามาก่อน วันนี้เป็นจุดเด่นและเป็นอัตลักษณ์เฉพาะที่หลายแห่งได้นำไปเป็นแนวทางในการจัดการศึกษาเพื่อผลิตบัณฑิต หลายท่านไปทำงานสนองงานคณะได้อย่างน่าประทับใจ โครงการที่เป็นตัวอย่างในแผนปฏิรูปฯ 6+1 คณะสงฆ์มี 13 โครงการใหญ่ ในส่วนของทุกท่านอาจเชื่อมโยงทำกิจกรรมเป็นโครงการย่อยๆ เช่น 1 หนึ่งวัดหนึ่งมหาเปรียญ, 1 หมู่บ้าน 1 ศาสนทายาท, ให้ทุน ให้ธรรม, พระวิปัสสนาจารย์ต้นแบบ วัดพัฒนาต้นแบบ, เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง ..งานต่างๆนี้มีส่วนงานต่างๆมาช่วย เช่น สสส. สปสช. ให้ดำเนินเนินงานตามแบบแผน...
"วันนี้บัณฑิต มจร ต้องเก่งคิด เก่งงาน เก่งประสาน เก่งคน จาริกไปที่ไหนทำประโยชน์ เป็นผู้นำจิตวิญญาณ เป็นต้นแบบทางจิตใจและปัญญา ทุกท่านต้องบริหารเวลา ตรงเวลาและรับผิดชอบเป็นไม่สำคัญ แต่เป็นแล้วจะทำอะไร นำไปสู่การพัฒนาต่อยอดต่อไป" พระโสภณพัฒนบัณฑิต กล่าว
รศ.ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ คณบดีคณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว) บรรยายพิเศษ หัวข้อ เรื่อง "การปฏิบัติศาสนกิจ:พลังการทำงานและจิตวิญญาณของพระนิสิตเพื่อพระพุทธศาสนาและสังคม กล่าวว่า วันนี้ทุกท่านหากจะต่อยอดและพัฒนางานที่ทุกท่านทำให้สอดคล้องกับงานปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาอย่างมีพลังกายพลังใจ ขออนุญาตถวายความเห็น 7 ประการ คือ (1) การสื่อสาร 6 แบบ ข้อมูลดี อารมณ์ความรู้สึกดีไหม คิดบวก สร้างสรรค์โครงการ (2) มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน (3) มีสมรรถนะภาพที่ดีทุกมติ (4) คิดบวก อย่างน้อยคิดบวกวันละหนึ่งครั้งขอให้คิดว่า "ทุกปัญหามีทางออก" ไม่ใช่ "ทุกทางออกมีแต่ปัญหา" (5) บุคคลิกภาพที่ดีพร้อมให้การปฏิสันถารธรรมเจริญศรัทธา (6) คิดให้รอบด้าน (7) มีความน่าเชื่อถือ ตรงต่อเวลาและรับผิดชอบ
พระมหาถวิล กลฺยาณธมฺโม ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนและวัดผลกล่าวว่า ขอแสดงมุทิตาว่าทีบัณฑิต มจร รุ่นที่ 63 ทุกรูป ขออนุญาตให้ข้อมูลการสำเร็จการศึกษาและการออกหนังสือรับรองผลการศึกษาตามนโยบายของมหาวิทยาลัย ทั้งขั้นตอนการขอเอกสารสำเร็จการศึกษา
หลังจากนั้นได้มีการประชุมกลุ่มด้านต่างๆ 6 กลุ่ม มีผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ส่วนส่วนภูมิภาคประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือร่วมเป็นวิทยากรประจำกลุ่มเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเรียนรู้ร่วมกัน 2 ประการ คือ1.สิ่งที่อยากพัฒนาสำหรับการปฏิบัติศาสนกิจของนิสิตในอนาคต 5 ประเด็นสำคัญ คือ(1) การสนับสนุนตามแผนการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา (6+1) (2) การสนับสนุนเครือข่าย และการพัฒนาศักยภาพนิสิตปฏิบัติ(3) การสนับสนุนเชิงวิชาการ/การวิจัย (4) การขยายผลและความยั่งยืน (5) อื่นๆ 2. สิ่งที่อยากให้ปรับปรุ แก้ไข จากการปฏิบัติศาสนกิจ
บทสรุปของผลการสัมมนานิสิตปฏิบัติศาสนกิจ รุ่นที่ 63 พบว่า บัณฑิต มจร ภาคอีสานมีศรัทธาอุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาพร้อมทำงานต่อยอดบูรณาการตามแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน และบัณฑิต มจร มี Mindset บัณฑิต มจร จิตวิญญาณเพื่อพระพุทธศาสนาและสังคม สอดคล้องกับคำบรรยายของพระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท
นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร ว่า มหาจุฬาให้โอกาสบุคคลทุกชนชั้นในการพัฒนาตนเอง ภายใต้คำว่า "จุดไฟด้วยวิชาการ ใส่เชื้อด้วยความดีงาม เกื้อกูลด้วยการออกไปปฏิบัติศาสนกิจ และหนุนปัญญา โดยไม่ยินดีในความสำเร็จเพียงพุทธศาสตรบัณฑิต" แต่จะพัฒนาตนเป็นมหาบัณฑิตและดุษฏีนิพนธ์ต่อไป เพราะการศึกษาไม่มีคำว่าสิ้นสุด เป็นบุคคลผู้บำเพ็ญตนแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต
นิสิตปฏิบัติศาสนกิจ มจร ก้าวใหม่บนฐานกิจกรรมภายใต้โครงการที่เป็นความพยายามสี่ปีตั้งแต่2557 เป็นต้นมา นำโดยพระราชวรมุนี,ดร.รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต และทีมงานกองกิจการนิสิต เห็นผลเป็นรูปธรรมแล้วก้าวต่อไปก็มีความสำคัญไม่น้อยภายใต้ทุกฝ่ายร่วมด้วยช่วยกัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
วิเคราะห์พระไตรปิฎกกับศาสตร์สมัยใหม่ยุคเอไอ: หลักการ อุดมการณ์ วิธีการ แผนยุทธศาสตร์ โครงการ และอิทธิพลต่อสังคมไทย
บทนำ พระไตรปิฎกในฐานะแหล่งความรู้ทางศาสนาและจริยธรรมที่ลึกซึ้ง มีความเชื่อมโยงอย่างแนบแน่นกับชีวิตมนุษย์และการพัฒนาสังคม การนำแน...
-
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณประสาร” รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(...
-
วิจารณ์สนั่นหลักสูตรบาลีป.ธ.1-2 ถึงป.ธ. 9 เรียนพระไตรปิฎก 149 หน้า "เจ้าคุณหรรษา" ยกสามเณร 2 รูป หนึ่งจบ ป.ธ. 9 อายุ 17 ปี หนึ่งจบ...
-
พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม อิสริโก จัดสร้างเพื่อหารายได้ สร้างหอฉันอุตตโม ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ ประกอบด้วย เนื้...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น