วันที่ 8 ก.ค.2561 เฟซบุ๊ก Phramaha Kawee Soisakham ได้โพสต์ข้อความว่า "การทำสมาธิ" ในการติดถ้ำของเด็กๆทีมหมูป่าอคาเดมี่ ๑๓ ชีวิต ที่ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ค้นพบเด็กๆแล้วแต่ยังนำเด็กๆออกมาไม่ได้ เพราะน้ำในถ้ำยังไม่ลดลง และยังหาปล่องที่ตรงกับที่อยู่ของเด็กๆไม่ได้ ซึ่งทุกหน่วยงานก็กำลังหาวิธีการช่วยเหลือเด็กๆให้ออกมาอย่างปลอดภัยมากที่สุด
เมื่อค้นพบเด็กๆครั้งแรก หน่วย Seal เห็นเด็กยังมีสุขภาพร่างกายที่ดี สุขภาพจิตดี แม้ติดในถ้ำนานถึง ๙ วัน ไม่ได้ทานข้าวกันเลย ดื่มเพียงน้ำประทังชีวิตเท่านั้น
ถ้าลำพังแต่เด็กๆ ไม่มี "โค้ชเอก" ติดอยู่ด้วยนั้น คิดว่าเด็กคงสติแตกเกิดความหวาดกลัว ร้องห่มร้องไห้ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร คงได้เพียงนั่งหมดหวัง หมดกำลังใจ และนั่งรอความตายไปวันๆ เพราะอยู่ในความมืดสนิทหลายวัน และไม่ได้ทานข้าวเป็นเวลานาน ถ้าเป็นผู้ใหญ่อย่างสูงก็อดข้าวได้เพียง ๗ วัน ร่างกายก็เริ่มอ่อนโรยแรงไม่กำลัง หายใจรวยริน นี่ยิ่งเป็นเด็กซึ่งร่างกายมีสภาพความอดทนต่ำยิ่งไม่ต้องพูดถึง หลายคนเกือบจะทั่วประเทศจึงมีความเห็นคล้ายๆกันว่า ป่านนี้แล้วพวกเด็กๆคงไม่รอด คงเสียชีวิตแล้ว เพียงแต่ค้นหาและนำศพออกมาเท่านั้น มีการแสดงความคิดเห็นไปต่างๆนานาอันเป็นไปในทางลบมากกว่านี้ก็มี
แต่เหมือนปาฏิหาริย์ พบเด็กๆอยู่ในสภาพที่ดี สุขภาพจิตที่ดี เพียงแต่บ่นว่า "หิวข้าว มีอะไรกินมั้ย" เท่านั้น
นักข่าวถามถึงการใช้ชีวิตอยู่ในช่วงติดถ้ำ ๙ วันนี้ ซึ่งได้รับคำตอบจากโค้ชเอกว่า สอนน้องๆให้มีกำลังใจ และด้วยการให้นั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบ ร่างกายจะได้ไม่เสียพลังงานมาก ความหิวต่างๆจะลดน้อยลงด้วย
การทำสมาธิ ก็คือการทำให้จิตใจมีความตั้งมั่นแน่วแน่ การทำจิตใจให้นิ่งเป็นเอกัคคตา อยู่ในอารมณ์เดียว การทำจิตใจให้โล่งว่างเปล่าเบาบาง การทำจิตให้มีความสงบปีติปราโมทย์ และการทำจิตให้เกิดพลังเรียกว่า "พลังจิต"
นักปราชญ์กล่าวว่า เมื่อเกิดภาวะคับขันขั้นวิกฤติ ผู้เป็นบัณฑิตจะไม่หดหู่ท้อแท้เสียกำลังใจ อยู่รอความตายอย่างสิ้นหวัง แต่จะเกิดสติและปัญญาแก้ไขปัญหาสถานการณ์นั้น ถึงแม้จะต้องตายก็ตายอย่างสมศักดิ์ศรีของ "ชาติบัณฑิต"
โค้ชเอกมีประสบการณ์จากการบวชเรียน จึงมีจิตวิทยาให้กำลังใจแก่เด็กๆ และสอนให้เด็กนั่งสมาธิ
พลังของจิตที่บริสุทธิ์แน่วแน่มั่นคงของเด็กๆ มีกำลังถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ถึงคณะรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ถึงสมเด็จพระสังฆราช ประมุขแห่งคณะสงฆ์ไทย ถึงโป๊ป พระสันตปาปา ผู้นำคริสตศาสนิกชน ถึงพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ถึงจิตใจของมหาชนเกือบทั่วโลก กระแสแห่งจิตที่ประกอบไปด้วยความเมตตากรุณาสากล หลุดพ้นขีดจำกัดของเชื้อชาติศาสนาหลั่งไหลเข้าสู่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนอย่างมิขาดสาย เฝ้าติดตามให้กำลังใจตลอดระยะเวลา
พลังแห่งสมาธิที่มีความบริสุทธิ์ของเด็กๆที่ฝึกอย่างเข้มข้น ได้ทำให้เกิดพลังแห่งความรัก ความสมัครสมานสามัคคีขึ้นในชาติ ในโลกเป็นที่ประจักษ์ชัด ที่สำคัญคือทำให้เด็กรอดพ้นจากความตาย ได้รับความรักความเมตตาจากทั่วโลก ประเทศไทยเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี
เด็กๆรอดตาย ถึงความสวัสดีในครั้งนี้ เพราะอำนาจความดี คือใจที่บริสุทธิ์ ใจที่มีพลัง จนทำให้เกิดบุญใหญ่ " ด้วยอำนาจการทำสมาธิ"
ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยเด็กๆมีกัลยาณมิตรที่ดี คือ"โค้ชเอก" ที่สอนให้เด็กๆเกิดสติปัญญา ทำสมาธิสร้างพลังจิตให้เข้มแข็ง จนในที่สุดประสบผลแห่งพลังจิตนั้นอย่างอัศจรรย์"
ทั้งนี้พระราชปัญญาเมธี กุสลจิตโต ได้แต่งกลอนความว่า
เจ้าหมู่ป่าน้อย ใจสู้ฟังปู่ฯบอก
(๑)
เจ้าหมูน้อยกลอยใจได้ฟังปู่
อย่าหดหู่(เรา)สู้ได้ใจเราแข็ง
ถ้าใจดีกายก็ดีมีเรี่ยวแรง
ร่วมกันแข็งแรงรุดฉุดออกมา
(๒)
เจ้าหมูน้อยกลอยใจฟังปู่แนะ
อย่ามัวแคะค่อนไค้ในคูหา
ถ้าไม่สู้ก็แพ้พ่ายตายต้นตา
เมื่อสู้กล้าพาเรารอดสู่ปลอดภัย
(๓)
สิบห้าวันผันผ่านถึงกาลนี้
ใช่กาลีอัปมงคลพ้นสดใส
เรื่อง”กรรมเก่า”ระหว่างทางเราสร้างไว้
มันเลื่อนไหลหมายจะทับ(เรา)ให้ดับลง
(๔)
เดชะคุณบุญ เกื้อเข้าเผื่อช่วย
แทบจะม้วยดีบุญใหม่ได้หนุนส่ง
กลับมายืนฝืนสู้อยู่ครบองค์
ชีวิตคงเดินไปหน้าอย่างท้าทาย
(๕)
เกิดเป็นคนต้องทนสู้ฟังปู่บอก
ไม่กลับกลอกยืนหยัดไม่พลัดหาย
เกิดเป็นคนทน”สู้” “ลูกผู้ชาย”
เจอแล้วหายหมายหน้าตรา”สตรี”
(๖)
เกิดเป็นคนทนสู้หลวงปูว่า
ไม่เกรงฟ้าท้าดินหมิ่นศักดิ์ศรี
ถ้าไม่สู้เราก็แพ้แก่ไพรี
สู้ยังมีโอกาสคลาดจากภัย
(๗)
ชีวิตสู้ปู่ขอเสริม(ว่า)”วีรบุรุษ”
เป็นมนุษย์ทรงค่าน่าพิสมัย
ชีวิตคนที่ไม่สู้อยู่ไปไย
อยู่ให้อายไปทั่วฟ้าทั่วธาตรี
(๘)
ชีวิตสู้ปู่ขอบอก(ว่า)คือ “พระเอก”
ใช่ว่าเสกเสริมเติมไปทั้งไข่สี
(แม้)องค์พุทธะยอดมนุษย์ที่สุดดี
ท่านยังชี้เป็นแนวทางวางให้เดิน
(๙)
(ว่า)“วายะเมเถวะ ปุริโส” เกิดโตขึ้น
ไม่ต้องขืนเบือนไว้ไร้ขัดเขิน
สู้แล้วล้มไม่สมหวังคนยังเชิญ
พร้อมสรรเสริญว่า”สุดยอด”ตลอดกาล
(๑๐)
เจ้าหมูฯน้อยคงต้องรู้ฟังปู่เล่า
ในโลกเรามีแต่คนล้นรากฐาน
การต่อสู้ที่สุดยอดตลอดกาล
คือจัดการ”ตัวตน”(ให้)พ้นทุกข์ภัย
(๑๑)
ชนะคนหมดทั้งโลกโศกไม่ลด
จะกำสรดก่อทุกข์ไร้สุกใส
ชนะตนคนเดียวเหนี่ยวน้ำใจ
เจริญใจได้สุขล้ำฉ่ำชื่นจริง เอยฯ
-----------------------
พระพุทธพจน์
๑. “อัตตา เหว ชิตั เสยโยฯ”
“เอาชนะตนได้แล ประเสริฐนัก”
๒. “วิริเยนะ ทุกขะมัจเจตีติ ฯ”
“คนเราจะพ้นจากทุกข์ได้เพราะความพากเพียร”
๓. “วายะเมเถวะ ปุริโส ยาวะ อัตถ้สสะ นิปปทาฯ”
“เกิดเป็นคนแล้ว ต้องพากเพียรเรื่อยไป จนจะบรรลุ
ถึงเป้าหมาย”
(พระพุทธพจน์ ทั้ง ๓ ภาษิต)
------------------------------------------
นโม พุทธาย,
หลวงตา: พระราชปัญญาเมธี-กุสลจิตโต
อาทิตย์ที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๒๖ น.
ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ผู้คนกำลังยืน, สถานที่กลางแจ้ง และธรรมชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น