วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

รอรับแจกฟรีเร็วๆ นี้!เหรียญครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโรกับหลวงพ่อเณร



รอรับแจกฟรี เร็วๆ นี้! เหรียญครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ดีกว่าเช่าโดยไม่รู้และไร้ที่มา ณ วัดศรีสุดาราม บางขุนนนท์ กทม.




"บุญชุ่ม ทาแกง"


เป็นชื่อและสกุลเดิมของ "ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร" เกิดวันอังคารที่ ๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๘ เวลา ๐๙.๐๐ น.

อุปสมบทเดือนวิสาขะ วันที่ ๑๑ เดือน ๘ ขึ้น ๑๑ ค่ำ วันที่ ๙ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๙ ตรงกับเดือนแปดเหนือขึ้น

เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๗ ได้เข้ามาเป็นเด็กวัด โดยมีพ่อลุงทาเอาไปฝากกับเจ้าอธิการสิน จิรธัมโม วัดบ้านด้ายตอนท่านอายุได้ ๑๑ ปี

หลังจากเป็นเด็กวัดได้ ๓ ปี จึงบรรพชาเป็นสามเณร ท่านชอบสงบอยากบวชตั้งแต่อายุ ๔-๕ ขวบแล้ว ในสมัยเป็นเด็กนักเรียนชอบนั่งสมาธิภาวนาไม่สุงสิงกับใคร

เวลาว่างก็เดินจงกรมที่สนามหญ้าโรงเรียน จนเพื่อนฝูงว่าท่านเป็นบ้า ใครจะว่าอย่างไรไม่สนใจ ท่านถือว่าได้ปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่วัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐเชียงตุง เขตพม่า

การจัดสร้างวัตถุมงคลของพระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร วัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง ประเทศพม่านั้น จะต้องขออนุญาตเจ้าท่านเพียงองค์เดียว

ส่วนมากจะเป็นการขออนุญาตปากเปล่า เมื่อท่านอนุญาตแล้วการมาทำการจัดสร้างแล้วนำไปถวายพระครูบาเจ้าบุญชุ่ม

จากกระแสพลังศรัทธา ล่าสุดพระเทพประสิทธิมนต์ หรือ หลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามราชวรวิหาร บางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. ได้รับอนุญาต จัดสร้างเหรียญ และ พระผง เพื่อมอบเป็นที่ระลึกให้กับผู้ร่วมบุญสร้างโรงพยาบาล

สำหรับแนวคิดในการก่อสร้างวัด โรงเรียน โรงหมอ และเทพ นั้นหลวงพ่อเณร บอกว่า การสร้างวัดเป็นการบูชาคุณของพระพุทธ พระธรรม และเป็นที่อยู่ของพระสงฆ์ กล่าวคือ โบสถ์เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งเป็นองค์แทนของพระพุทธเจ้า การสร้างศาลาการเปรียญเพื่อเป็นที่แสดงธรรมของพระพุทธเจ้า ส่วนกุฏิพระเพื่อเป็นที่อยู่ที่พักของพระสงฆ์สามเณร ซึ่งเป็นสาวกของพระพุทธองค์ ผู้ที่จะนำพาพระธรรมสู่พุทธศาสนิกชน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสืบทอดพระพุทธศาสนา

ในขณะที่การสร้างโรงเรียน ถือเป็นการให้การศึกษาสงเคราะห์ ซึ่งมีคำโบราณของพระรูปหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า พระเราแย่งข้าวลูกชาวบ้านมาฉัน แทนที่จะหุงข้าวให้ลูกกินเพียงคนเดียว แต่ด้วยจิตสำนึกของความที่เป็นชาวพุทธ ก็ต้องนำข้าวส่วนหนึ่งมาใส่บาตรถวายพระ เพื่อสืบทอดพระศาสนา เมื่อพระมีบารมีสามารถเรียกศรัทธาชาวบ้านได้ ก็ต้องสร้างสาธารณประโยชน์คืนกลับสู่ชาวบ้าน และการให้ที่ถือว่าเป็นทานสูงสุดอย่างหนึ่งคือ ให้การศึกษา เมื่อลูกชาวบ้านมีการศึกษาสามารถประกอบสัมมาอาชีพได้ เมื่อเติบโตมีกำลังก็กลับมาช่วยเหลือวัดคืนสู่พระพุทธศาสนา ส่วนการสร้างโรงพยาบาลนั้น หลวงพ่อเณรบอกว่า การสร้างโรงพยาบาลเป็นมหาทานอย่างหนึ่ง เพราะทุกคนต้องเป็นไปตามโลก คือ มีเกิด แก่ เจ็บป่วย ตาย เป็นเรื่องธรรดา

ก่อนตายนั้นก็ต้องเจ็บป่วย ซึ่งต้องพึ่งหมอพึ่งโรงพยาบาล หากมีสถานที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยให้ญาติโยมได้รับการรักษาคนให้หายเจ็บไข้ได้ป่วย เท่ากับว่าเป็นการรักษาชีวิตของคน

“พระทุกรูปมีภูมิความรู้ มีบารมี แต่หากอยู่ที่ว่าพระแต่ละรูปนั้นจะใช้ความรู้และบารมีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา รวมทั้งสร้างสาธารณประโยชน์คืนสู่สังคมได้มากน้อยเพียงใดเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่า คำสอนของหลวงพ่อปัญญาเป็นมรรคเป็นผลมากขึ้น ทั้งพระที่เป็นลูกศิษย์สายวัดชลประทานโดยตรง พระที่ได้ยินคำเทศน์คำสอนของหลวงพ่อปัญญาก็นำไปใช้ไปปฏิบัติ ดังเห็นว่า บทบาทของพระนอกจากเป็นผู้รักษาและเผยแผ่พระธรรมแล้ว พระยังทำหน้าที่ด้านสังคมสงเคราะห์ และสร้างสาธารณประโยชน์ที่มีผลงานเด่นชัดจำนวนมาก”

นี่เป็นคำสอนของพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ที่หลวงพ่อเณรบอกว่า นำมายึดถือและปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา เมื่อถามถึงวิธีการเรียกศรัทธาและหาปัจจัยจากญาติโยม หลวงพ่อเณรพูดไว้อย่างน่าคิดว่า ปัจจัยที่สร้างวัด สร้างโรงเรียน รวมทั้งสร้างโรงหมอ มิใช่เป็นของอาตมา หากเกิดจากศรัทธาของญาติโยมโดยมีอาตมาเป็นแกนนำศรัทธา นอกจากปัจจัยสี่ที่พระแทบไม่ต้องหา

เพราะญาติโยมใส่บาตรให้ทุกวันแล้ว ปัจจัยที่ญาติโยมถวายก็กลับไปสู่ญาติโยมในลักษณะของการสร้างสาธารณประโยชน์ เมื่อญาติโยมเห็นว่า พระตั้งใจจริง ไม่ว่าจะสร้างอะไรก็ย่อมมีญาติโยมสนับสนุนช่วยเหลือเสมอ การสร้างศรัทธาจากญาติโยม สิ่งที่พระต้องยึดเป็นหลักปฏิบัติมีอยู่ ๓ ประการ คือ

๑.การครองตน คือ มีความประพฤติ และปฏิบัติตน ประกอบไปด้วยคุณธรรม ควรแก่การยกย่อง สร้างตัวเองให้เป็น

๒.การครองคน คือ มีความสามารถในการติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น สามารถจูงใจให้เกิดการยอมรับ และให้ความร่วมมือ

และ ๓.การครองงาน คือ การมีความสามารถปฏิบัติงานในหน้าที่ และงานที่ได้รับมอบหมายอย่างดี อะไรควรทำก่อนหลัง

“พระทุกรูปมีภูมิความรู้ มีบารมี แต่หากอยู่ที่ว่าพระแต่ละรูปนั้นจะใช้ความรู้และบารมีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา รวมทั้งสร้างสาธารณประโยชน์คืนสู่สังคมได้มากน้อยเพียงใด”

ล่าสุดพระเทพประสิทธิมนต์ หรือ หลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามราชวรวิหาร บางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. ได้รับอนุญาต จัดสร้างเหรียญ และ พระผง เพื่อมอบเป็นที่ระลึกให้กับผู้ร่วมบุญสร้างโรงพยาบาล รอของที่มีประวัติการสร้างที่ชัดเจนดีกว่าครับ

............

(หมายเหตุ : ขอบคุณเพจพระองค์ครู ไตรเทพ ไกรงู)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การวิเคราะห์ “ยมกวรรค” ในพระไตรปิฎก 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ทุติยปัณณาสก์

  การวิเคราะห์ “ยมกวรรค” ในพระไตรปิฎกและบทบาทในปริบทพุทธสันติวิธี บทนำ “ยมกวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 16 อังคุตตรนิ...