วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

"บิ๊กตู่"เตือนสื่อถามทีมหมูป่าอย่างระวังรับคุมโซเชียลไม่ได้




วันที่ 18 ก.ค.2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความห่วงใยต่อคำถามสื่อมวลชนต่อเด็กและผู้ฝึกสอนทั้ง 13 คนของทีมหมูป่าอะคาเดมีที่จะออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ว่า เด็กๆ คงได้รับการเตือน ตนเองจึงขอฝากไปยังสื่อมวลชนให้ระมัดระวังคำถามที่จะไปสอบถามกับเด็กๆ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยด้วยดี อย่าทำอะไรให้เกิดความเสียหายหากทำมากเกินไปทั้งเจตนาและไม่เจตนาอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ ดังนั้นอะไรที่ไม่สำคัญและไม่จำเป็นขออย่าไปซักไซร้ไล่เรียงกัน วันนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะการรับรู้ในต่างประเทศและในประเทศไทย จึงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว ดังนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรที่จะเสียหายไปกว่าเดิมจึงขอเตือนไว้แค่นี้
       


ส่วนรูปแบบในการจัดงานเลี้ยงขอบคุณหน่วยงานที่ร่วมค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมีที่จะขอพระราชานุญาตในการใช้สถานที่พระลาน พระราชวังดุสิตนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการเชิญเข้ามาร่วมงานเลี้ยงโดยมีการจัดเตรียมอาหาร การแสดง ที่ทรงพระราชทานมาให้สำหรับประชาชนที่สามารถเดินทางมาได้ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย รวมถึงทีมกู้ภัยต่างชาติที่ร่วมให้การช่วยเหลือ แต่ขณะยังไม่มีการกำหนดในการจัดงานเนื่องจากต้องมีการประชุมกันภายในก่อน สำหรับรูปแบบในการจัดงานจะมีการเตรียมไว้ 2-3 แผน ซึ่งแผนแรกคือการจัดงานที่กรุงเทพมหานคร และแผนต่อไปหากไม่มีความสะดวกจะต้องมีวิธีการว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากมีคนจำนวนมาก แต่ก็เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระราชทานกำลังใจให้กับพวกเราทุกคน ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลในเรื่องเหล่านี้



ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงหนึ่งในปาฐกถาหัวข้อ”มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เพื่อสุขภาพคนไทย”ว่า คนไทยใช้โทรศัพท์ประมาณ 90 ล้านเครื่อง บางคนใช้ 2-3 เครื่อง และใช้ เฟสบุ๊ก กว่า70ล้านไอดี ถือมีสถิติการใช้ที่สูงที่สุดไปอาเซียน ซึ่งต้องดูว่าที่ใช้ทุกวันเกิดประโยชน์แค่ไหน ถ้าใช้แค่พูดคุยจะจ๋า คงไม่ต้องใช้มาก แต่ใช้เพื่อเกิดประโยชน์เพื่อการค้าขาย ทางออนไลน์เรื่องการศึกษารักษาพยาบาลเพื่อพัฒนาตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเองตรงนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการใช้โซเชียลมีเดียมันมีทั้งบวกทั้งลบเสมอวันนี้โลกกำลังขับเคลื่อนด้วยประชาธิปไตยเป็นส่วนใหญ่และการขับเคลื่อนด้วยยุคโลกาภิวัตน์ ดังนั้นโซเชียลมีเดียมีบทบาทสูงต่อสังคมปัจจุบันและสังคมโลกซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ 100 เปอร์เซ็นต์ จะใช้กฎหมายไม่ได้ทั้งหมดฉันนั้นขึ้นอยู่กับจิตใจจึงขอฝากสาธารณสุขช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วยในเรื่องจิตใจคน



พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ถ้าติดตามข่าวสารในโทรทัศน์จะมีข่าวที่ทำให้เกิดความห่อเหี่ยวเยอะ และมีข่าวที่ทำให้เกิดความสับสนอลหม่านเยอะพอสมควรเพราะสิ่งนี้คือข่าวที่คนชอบเพสและติดตามแต่สิ่งเหล่านี้จะกลับมาเป็นความทุกข์ให้กับตัวเอง โดยที่เราไม่รู้ตัวและพร้อมที่จะเบี่ยงเบนประเด็นไปโดยเสมอ แม้อาจจะไม่มีเรื่องอะไร แต่ก็ทำให้สถานการณ์รู้สึกไม่สบายใจไประยะหนึ่ง



เหมือนปัญหาหวยจบไม่จบอยู่อย่างนี้ซึ่งไม่รู้จะทำอย่างไรอะไรที่ควรจะจบก็ไม่จบ ซึ่งเป็นกระแสของสังคมในเวลานี้ขอฝากไว้ด้วยตนไม่ได้โทษใคร เพราะห้ามกันไม่ได้ แต่ถ้าเรามีจิตใจมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศมีความสุขและเห็นว่าอะไรที่ทำให้ประเทศหรือตัวเราไม่มีความสุขตรงนั้นต้องหาให้เจอแล้วช่วยกันแก้มันก็จะจบลงได้ ไม่ใช่คิดว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้เป็นของคนโน้นมันไม่ใช่โรคทางกายที่หมอจะช่วยแก้ได้ แต่ปัญหาสังคมทุกคนต้องช่วยกันแก้เพื่อเราจะได้เป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าอย่าง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เหมือนกับประเทศโครเอเชีย ที่มีประชากร 5ล้านคน แต่ได้เข้าชิงฟุตบอลโลก เรามีตั้ง70กว่าล้าน ได้นำพลังเหล่านี้มาขับเคลื่อนร้อยเปอร์เซ็นต์หรือยัง




“พรุ่งนี้จะเดินทางไปประเทศภูฏานสองวัน เป็นไปตามคำเชิญซึ่งช่วงนี้มีงานเยอะหลายคนช่วยเราไปหลายคนก็มาหาเราอันนั้นคือศักยภาพของประเทศไทยในทุกๆด้าน แม้กระทั่งการช่วยเหลือชีวิตทีมหมูป่าก็เป็นที่รับรู้กันทั่วโลก ขอให้ระมัดระวังการเขียนข่าวจะเขียนเสนอข่าวหรือสัมภาษณ์อะไรออกไปมันจะทำให้สิ่งที่เป็นภาพบวกอยู่ กลับมาลบอีกหรือเปล่ายังไม่รู้ ต้องคำนึงถึงตรงนี้เสมอ อะไรที่ทำดีและแก้ปัญหาได้แล้วมันก็ต้องจบกัน และต้องเป็นบทเรียนของเราในวันข้างหน้า




แม้กระทั่งเรื่องทัวร์ต่างๆรัฐบาลก็พยายามขับเคลื่อน แต่ทุกอย่างก็แก้ไขด้วยตัวคนเดียวไม่ได้จะโดยรัฐ อย่างเดียวก็ไม่ได้มันเกี่ยวข้องกับหลายส่วนฉะนั้นการทำงานทุกอย่างประกอบด้วยรัฐประชาชนเอกชนและภาคธุรกิจต่างๆรัฐบาลมีหน้าที่อำนวยความสะดวก กฎหมายออกหลักเกณฑ์กติกาให้ข้าราชการปฏิบัติตามระเบียบวินัยต่อการทำงานแค่นี้จบถ้าทุกคนรู้หน้าที่ตัวเองก็จะเดินหน้า ไปสู่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน” นายกฯ กล่าว




โฆษกรบ.ตรวจความเรียบร้อยสถานที่ให้สัมภาษณ์แล้ว



          พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้มาตรวจความเรียบร้อยสถานที่ให้สัมภาษณ์ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ พร้อมกล่าวถึงขั้นตอนการพูดคุยทั้ง 13 คน ว่าในช่วงแรกคงให้พิธีกรเป็นผู้ถามคำถามที่ทางจังหวัดเชียงรายเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างเทศส่งมาภายในช่วงเวลา 17.00 น.วานนี้ (17 ก.ค.) ที่ผ่านการคัดเลือกจากนักจิตวิทยา นักพัฒนาสังคม และในช่วงท้ายของรายการพร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนยกมือถามคำถามได้

http://www.banmuang.co.th/news/politic/118544




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บุคคลไม่ควรคบยามสูงวัย

การแยกแยะบุคคลที่ควรคบในวัยสูงอายุเป็นสิ่งสำคัญในบริบทพุทธสันติวิธี เพื่อเสริมสร้างความสงบสุขภายในและการใช้ชีวิตที่สมดุล การปฏิบัติตามหลักธร...