วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ติงสื่อหัวหมอ!กว้านซื้อลูกประคำครูบบุญชุ่มหน้าถ้ำขายต่อ ผลประโยชน์ทับซ้อนหมิ่นเหม่ต่อจริยธรรมวิชาชีพ




 วันที่ 7 ก.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก จริยธรรมสื่อวิทยุและโทรทัศน์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพความว่า  ผลประโยชน์ทับซ้อนหน้าถ้ำหลวง

7/7/61> มีผู้ทำงานสื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ได้รับลูกประคำที่ครูบาบุญชุ่มแจกเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ 12 เยาวชนและผู้ฝึกสอน ซึ่งติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่ 23 มิถุนายน 2561  โดยผู้ทำงานสื่อรายนี้ได้นำเข้าข้อความประกาศรับซื้อลูกประคำจากผู้ที่ได้รับแจกในบริเวณที่เพื่อนสื่อปฏิบัติงานและใกล้เคียงบนสื่อออนไลน์ในชื่อบัญชีของตน อันทำให้เข้าใจว่า จะนำไปปล่อย (ขาย) ต่อในราคาที่ได้กำไรจากส่วนต่าง 

แม้การซื้อขายให้เช่าพระเครื่องเป็นอาชีพสุจริต และไม่ใช่เรื่องต้องห้ามสำหรับคนทำสื่อจะใช้เป็นอาชีพเสริม แต่ในสถานการณ์เช่นที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แม้พบเยาวชนและผู้ฝึกสอนแล้ว ก็ยังมีอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อนำทั้ง 13 คน ออกจากถ้ำให้ได้ จึงไม่ใช่เรื่องที่จะฉกฉวยโอกาสเช่นนี้มาหาประโยชน์ส่วนตน ประการสำคัญที่สุดก็คือ การไปอยู่ที่บริเวณปากถ้ำหลวงฯ เป็นการไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชนตามที่ได้รับมอบหมายจากบรรณาธิการ/หัวหน้าข่าว อันทำให้ถูกมองเช่นกันว่า เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือขัดแย้งกันระหว่างอาชีพสื่อกับอาชีพขาย/ให้เช่าเครื่องราง – โปรดหยุดการกระทำนี้ก่อน เพราะนอกจากจะหมิ่นเหม่ต่อจริยธรรมวิชาชีพแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมของคนในอาชีพเดียวกันที่สังคมกำลังเฝ้ามองการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเราจากสถานการณ์นี้ เมื่อออกจากพื้นที่ไปแล้ว และไม่เกี่ยวกับเรื่องงานแล้ว จะซื้อขาย/ให้เช่าอย่างไร ก็ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่แต่ประการใด


บรรยงค์ สุวรรณผ่อง
ประธานกรรมการจริยธรรมวิชาชีพ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
7 กรกฎาคม 2561 

(ภาพนำมาจากบัญชีของผู้ทำสื่อรายนี้)

อ.นิเทศจุฬาฯ ชี้สื่อไทยแสวงหาแพะ-ฮีโร่-ไสยศาสตร์ ย้ำข่าวไวสุดไม่ใช่ผู้ชนะ แนะดูญี่ปุ่นเป็นตย. 

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสารนิเทศ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการจัดเวทีจุฬาฯ เสวนา ครั้งที่ 14 เรื่อง “วิเคราะห์ปรากฏการณ์ถ้ำหลวงจากหลากมิติ” เพื่อนำเสนอองค์ความรู้จากนักวิชาการและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อถอดบทเรียนจากการช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวม 13 ชีวิต ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน วิทยากรผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ผศ.ดร.สมบัติ อยู่เมือง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภูมิสารนสนเทศเพื่อประเทศไทย ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ, รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และผศ.พิจิตรา สึคาโมโต้ หัวหน้าภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ดำเนินรายการโดย อ.ดร.เจษฎา ศาลาทอง ภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ

ผศ.พิจิตรา   กล่าวว่า หลายครั้งข่าวถ้ำหลวงออกมาในลักษณะเบรคกิ้งนิวส์ ถ้าพูดตรงๆ ก็เน้นเป็นข่าวที่ขายได้ ซึ่งปรากฏการณ์นี้เป็นข่าวที่ทั่วโลกจับตามอง ในส่วนของการทำเบรคกิ้งนิวส์ ในทวิตเตอร์จะเห็นค่อนข้างมาก จากวันที่เกิดเหตุการณ์ ทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง 24 มิ.ย.- 6 ก.ค. 61 สร้างให้เกิดกระแสในโลกออนไลน์รวมทั้งสิ้น 559,810 ข้อความ และสร้างการ เอ็นเกจเม้นท์ รวมทั้งสิ้นกว่า165 ล้านเอ็นเกจเม้นท์ โดยกระแสมีความพีคสูงสุดในวันที่ 2-3 ก.ค. 61 ซึ่งเป็นวันที่ทีมสำรวจจากประเทศอังกฤษและหน่วยซีลของไทยพบตัวผู้ศูนย์หายทั้ง 13 คน และวันที่ 3 ก.ค.61 เป็นวันที่มีเอ็นเกจเม้นท์ สูงสุดถึง 23 ล้าน เอ็นเกจเม้นท์

“อีกด้านหนึ่งสื่อต่างประเทศได้หยิบยกไปนำเสนอตามรูปแบบวัฒนธรรมของการเสพข่าวในประเทศของตนซึ่งนำมาถูกเปรียบเทียบระหว่างการทำข่าวของนักข่าวไทย ที่มุ่งเน้นไปด้านการแสวงหา แพะ, ฮีโร่ และเรื่องทางไสยศาสตร์ สิ่งศักดิ์เหนือธรรมชาติต่างๆ ซึ่งแตกต่างกับนักข่าวต่างประเทศที่ไม่เน้นการทำข่าวร้อน เน้นเป็นการเล่าเรื่องและคลี่คลายสถานการณ์และเก็บข้อมูลครบถ้วน เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับคนในประเทศเขาได้ครบถ้วนมากขึ้น ตอนนี้อยู่ในช่วงที่ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน รวมถึงพิบัติภัยในครั้งนี้ หลายประเทศต่างให้ความสนใจและได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่มาอย่างล้นหลาม หากพูดในฐานะสื่อ คิดว่าอยากให้ดูสื่อญี่ปุ่นเป็นตัวอย่าง ประชาชนล้วนแต่อยากได้ข่าวที่ครบและเข้าใจง่าย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้อยากบอกว่า ข่าวที่เร็วที่สุดไม่ได้เป็นผู้ชนะในเหตุการณ์นี้” ผศ.พิจิตรา กล่าว

ด้าน รศ.ดร.เจษฎา กล่าวว่า อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้สื่อได้นำเสนอ ในเรื่องของการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้ง 13 คน หลายกระแสบอกว่าจะส่งข้าวเหนียวหมู หรือบางแหล่งบอกว่าจะส่งอาหารอวกาศเข้าไปให้ทั้ง 13 คน ทาน แต่รู้หรือไม่ว่า หากทำเช่นนั้น จะทำให้เกิดอาการถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย แต่เนื่องจากได้มีผู้เชี่ยวชาญได้เข้าไปช่วยเหลือทั้ง 13 คน โดยการปรับสมดุลร่างกาย ด้วยการให้น้ำเกลือก่อน ถึงจะค่อยๆ ให้กินอาหารอ่อนๆ เพื่อเป็นการปรับสมดุลในร่างการ จึงทำให้พวกเขาเริ่มมีอาการที่ดีขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"วิเคราห์ ทิฏฐิสังยุตต์ มูลปัณณาสก์ ทุติยเปยยาล - นวาตสูตร

  "วิเคราห์   ทิฏฐิสังยุตต์  มูลปัณณาสก์  ทุติยเปยยาล  -   นวาตสูตร  - เนวโหตินนโหติตถาคตสูตร - รูปีอัตตาสูตร - อรูปีอัตตาสูตร -รูปีจอร...