เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมต้องการสนับสนุนอุตสาหกรรมฮาลาลในประเทศไทย ซึ่งไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมายแค่เฉพาะประเทศที่นับถืออิสลาม อย่างอินโดรีเซีย หรือตะวันออกกลาง เท่านั้น แต่หลายประเทศเองก็ยังใช้เรื่องของฮาลาลมาเป็นมาตรฐานด้วยเช่นกัน ทำให้เป็นโอกาสที่ดีที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมดังกล่าวนี้ โดยทางกระทรวงฯ จะรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 10 หน่วยงานจากหลายกระทรวงมารวมเป็นองค์การมหาชน ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม เปลี่ยนจากเดิมที่เคยจะตั้งเป็นกรมฮาลาล เนื่องจากว่ากระบวนการจัดตั้งกรมนั้นมีความซับซ้อน ยุ่งยากและกินระยะเวลานาน ขณะที่การตั้งเป็นองค์การมหาชนจะทำได้รวดเร็วมากกว่า
"อุตสาหกรรมฮาลาลต้องอาศัยความน่าเชื่อถือ รวมถึงต้องการหน่วยงานที่เป็นระบบ เพื่อขับเคลื่อนให้ไทยกลายเป็นฮับของฮาลาลและเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมในประเทซ ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่นกับประเทศคู่ค้า โดยต้องประสานงานกับทุกฝ่ายเพื่อหาแนวทางร่วมกัน ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ในภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากการประชุมเอเปกที่สหรัฐฯ"
นอกจากนี้ นางสาวพิมพ์ภัทรายังกล่าวอีกด้วยว่า คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (กอท.)ยังคงมีอำนาจในการออกใบอนุญาตฮาลาลตามเดิม ไม่ได้มีการก้าวก่ายอำนาจซึ่งกันและกัน เพียงแต่กระทรวงฯ จะนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องฮาลาล ซึ่งกระจายตามกระทรวงต่าง ๆให้รวมเป็นองค์การมหาชนเดียวกันเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อประสานงาน โดยตอนนี้รายละเอียดของนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลยังไม่ครบถ้วน ต้องรอการประชุมที่จะถึงในวันศุกร์นี้และคาดว่าจะแถลงความชัดเจนได้ภายในสัปดาห์หน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น