เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพ AI พระสงฆ์ เสพเมถุนภายในร้านคาราโอเกะ ว่า เรื่องนี้ ได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว ส่วนกรณีที่มีการแชร์คลิป พระรูปหนึ่ง ถือแก้วกาแฟแบรนด์ดัง พร้อมระบุแคปชั่นว่า ขอตรวจสอบก่อน โดยได้ส่งภาพพระรูปดังกล่าวให้กับวัดทุกวัดทั่วประเทศตรวจสอบ ว่าเป็นพระในวัดตนเองหรือไม่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่พระจริงก็ได้
ส่วนจะกระทบต่อศรัทธาญาติโยมที่อยากทำบุญหรือไม่นั้น นางพวงเพ็ชร ระบุว่า ขณะนี้มีเฟคนิวส์ หรือข่าวปลอมมากมาย คนที่ดูหรือเสพย์ข่าวต้องใช้วิจารณญาณว่า ข่าวจริงหรือข่าวปลอม เพราะการแชร์ในโซเชียลถือเป็นบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาได้ ขอช่วยกันอย่าแชร์เรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นภาพพระเที่ยวคาราโอเกะ หรือพระขับขี่รถจักรยานยนต์ เพราะเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่เรื่องจริง
พร้อมกันนี้นางพวงเพ็ชร จะเดินทางไปมอบนโยบายให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 เวลา 11.30-14.00 น. ณ หอประชุมพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
ชี้กลโกงมิจฉาชีพชุก แนะ ปชช. ตรวจสอบข้อมูลผ่านก่อนกดอ่าน-ส่งต่อ
นางพวงเพ็ชร ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ปัจจุบันประชาชนถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีหรือมิจฉาชีพหลอกลวง ทั้งทางโทรศัพท์และผ่านสื่อโซเชียลมีเดียหลายช่องทาง จนเกิดความเสียหายมูลค่ามหาศาล โดยขอให้ประชาชน หากได้รับข้อมูลข่าวสาร หรือข้อความชวนลงทุนใดๆ ให้ทำการตรวจสอบจากหน่วยงานภาครัฐหรือช่องทางที่เชื่อถือได้ ก่อนส่งต่อข้อมูลหรือกดอ่านข้อความ เพื่อระงับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในวงกว้าง
“การรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผู้เสพสื่อสามารถตรวจสอบได้จากศูนย์ Anti-Fake News Center Thailand หรือ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และช่องทางข่าวจริงประเทศไทย หรือ Realnews Thailand ของกรมประชาสัมพันธ์ โดยตรวจสอบว่าข่าวใดจริง ข่าวใดเท็จ ก่อนแชร์หรือส่งต่อให้ผู้อื่น เราต้องรู้เท่าทัน เพราะการสื่อสารปัจจุบันรวดเร็ว มีการโกงออนไลน์มีเยอะ ทั้งชวนลงทุน ชวนทำงาน หลอกลวงอื่นๆ ต้องเช็คกับต้นทางของภาครัฐที่เชื่อถือได้ อย่าติดกับดักกลโกงของกลุ่มมิจฉาชีพ” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมหารือทวิภาคีกับประเทศกัมพูชาและเวียดนาม ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีสารนิเทศอาเซียน ครั้งที่ 16 ณ นครดานัง ประเทศเวียดนาม โดยเน้นการให้ความรู้ประชาชนในการรู้เท่าทันสื่อ และการรับมือกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นประเด็นการผลักดันเร่งด่วนในเวทีภูมิภาคอาเซียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น