เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเรื่องการทำเหมืองแร่โปแตช โดยขอให้ไปเร่งรัดให้ผู้ได้รับสัมปทานเหมืองแร่โปแตชทั้ง 3 ราย ดำเนินการขุดเจาะแร่โปแตช เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการใดๆ และหากไม่สามารถทำได้ก็ให้หาผู้รับประมูลรายใหม่เข้ามาดำเนินการเหมืองแร่โปแตช
"ประเทศไทย มีโปแตชมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากแคนาดา สารนี้เมื่อขุดเจาะมาแล้ว สามารถนำไปขายได้ ให้ราคาได้ดีในต่างประเทศ มีความต้องการสูงที่ประเทศจีน ปัจจุบัน มีผู้ได้รับสัมปทานแล้ว 3 ราย แต่ยังไม่มีการดำเนินงานเลย ฉะนั้น เรื่องนี้จึงให้ไปเร่งรัดว่าต้องมีการดำเนินงาน ถ้าไม่สามารถทำได้ ก็ให้หาผู้รับประมูลมาทำงานใหม่" นายเศรษฐา กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการดูแลเรื่อง PM 2.5 ว่า ได้มอบหมายให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามงานที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งพบว่าโครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ล่าช้าไปมาก จึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปกำกับดูแลไม่ให้เกิดความล่าช้า และให้เป็นไปตามสัญญาในระยะเวลาที่กำหนด
พร้อมให้ข้อคิดกับรัฐมนตรีคนอื่นๆ ว่า ถ้าเป็นโครงการของภาครัฐให้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้ผู้รับเหมาทำงานล่าช้า อย่าเข้าใจผู้รับเหมามากเกินไป เพราะรัฐต้องเป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งความล่าช้าของงาน จะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ ดังนั้นจึงต้องดูแลให้ดี ขณะเดียวกัน ยังแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในพื้นที่อีอีซี โดยมอบหมายให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมเป็นประธาน และมีเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นเลขานุการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น