วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ภูมิปัญญาไทยขจัดความยากจน: บทวิเคราะห์เชิงสารคดี

 

วิเคราะห์วิธีการขจัดความยากจนตามภูมิปัญญาไทย

(An Academic Analysis of Thai Indigenous Wisdom for Poverty Eradication)

บทคัดย่อ

บทความนี้มุ่งวิเคราะห์แนวทางการขจัดความยากจนผ่านกรอบ “ภูมิปัญญาไทย” โดยเชื่อมโยงกับบริบทเชิงนโยบายระดับชาติและระดับภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 14 (14th AMRDPE) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนธันวาคม 2568 การวิเคราะห์เน้นทั้งเชิงโครงสร้าง กลไกระดับชุมชน และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ยึดโยงวิถีชีวิตคนไทย เพื่อประเมินแนวทางที่ยั่งยืนในการลดความยากจนในชนบทไทยและภูมิภาคอาเซียน


1. บทนำ

ความยากจนถือเป็นปัญหาเชิงซ้อนที่มีความเกี่ยวพันทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยเฉพาะในภาคชนบทของไทยที่ยังมีความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้างอยู่ในหลายพื้นที่ การจัดประชุม 14th AMRDPE ระหว่างวันที่ 9–12 ธันวาคม 2568 ณ กรุงเทพมหานคร จึงเป็นเวทีสำคัญในการบูรณาการนโยบายระดับอาเซียนเพื่อเสริมพลังชุมชนและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

ภายใต้แนวคิด
“ขับเคลื่อนการพัฒนาชนบทอย่างทั่วถึง ด้วยนวัตกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการเสริมพลังชุมชน เพื่อการขจัดความยากจนอย่างยั่งยืนในอาเซียน”
สอดคล้องอย่างยิ่งกับองค์ความรู้ “ภูมิปัญญาไทย” ซึ่งคือฐานคิดในการพึ่งพาตนเอง ความสัมพันธ์ระหว่างคน–ชุมชน–ธรรมชาติ และการผสมผสานวิถีดั้งเดิมกับนวัตกรรมสมัยใหม่


2. บริบทการประชุมอาเซียนและบทบาทของประเทศไทย

การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นโดยกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยประสานงานหลักด้านการพัฒนาชนบทและการขจัดความยากจนของอาเซียน (SOMRDPE Thailand) โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส (22nd SOMRDPE) จนถึงระดับรัฐมนตรี

สาระสำคัญของการประชุมประกอบด้วย:

  • เวทีเสวนาความร่วมมือภาครัฐ–เอกชน–ประชาชน (PPPP Forum)

  • การประชุมเครือข่ายหมู่บ้านอาเซียน (AVN)

  • เวทีระดับอาวุโส (SOMRDPE/SOMRDPE+3)

  • การประชุมรัฐมนตรี 14th AMRDPE และการลงพื้นที่ศึกษาดูงาน

วัตถุประสงค์สำคัญคือการสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อผลักดันรูปธรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในชนบทให้ยั่งยืนและสอดคล้องกับบริบทของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน


3. แนวคิดภูมิปัญญาไทยเกี่ยวกับการขจัดความยากจน

ภูมิปัญญาไทยเป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์ การสังเกต และการเรียนรู้ของชุมชนไทยมาช้านาน ประกอบด้วยหลักสำคัญ 4 ด้านที่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาความยากจน ได้แก่:

3.1 เศรษฐกิจพอเพียง

มุ่งสร้าง “ภูมิคุ้มกัน” ทางเศรษฐกิจและสังคม โดยยึดหลัก:

  • ความพอประมาณ

  • ความมีเหตุผล

  • การสร้างภูมิคุ้มกัน

  • ความรู้และคุณธรรมเป็นฐาน

แนวคิดนี้ช่วยลดหนี้สิน ลดความเสี่ยง และเพิ่มเสถียรภาพของครัวเรือน

3.2 ระบบเครือญาติและชุมชนเข้มแข็ง

ไทยมีโครงสร้างสังคมแบบเครือญาติและชุมชนเป็นฐานซึ่งสนับสนุนการช่วยเหลือเกื้อกูล (mutual aid) เช่น

  • กลุ่มออมทรัพย์

  • วิสาหกิจชุมชน

  • กลุ่มเกษตรกร

  • กลุ่มแม่บ้าน

โมเดลเหล่านี้เป็นกลไกทางสังคมที่สร้างทุนชุมชนและลดการพึ่งพาระบบเงินทุนจากภายนอก

3.3 องค์ความรู้ด้านเกษตรกรรมดั้งเดิมและเกษตรผสมผสาน

ประกอบด้วยความรู้ด้าน:

  • การจัดการน้ำ

  • การปลูกพืชหลายชนิด

  • การรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ

ระบบเกษตรกรรมแบบผสมผสานช่วยให้ครัวเรือนมีรายได้หลายช่องทาง ลดความเสี่ยงจากพืชเชิงเดี่ยว

3.4 ภูมิปัญญาด้านศิลปหัตถกรรม

หลายชุมชนมีทักษะพื้นถิ่น เช่น

  • ผ้าทอ

  • เครื่องจักสาน

  • งานไม้

  • งานเครื่องปั้น

ซึ่งสามารถต่อยอดสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวชุมชนได้


4. วิเคราะห์แนวทางขจัดความยากจนเชิงนโยบายผ่านภูมิปัญญาไทย

เพื่อให้ไทยและอาเซียนสามารถลดความยากจนอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องบูรณาการภูมิปัญญาไทยเข้ากับนโยบายสมัยใหม่ ดังนี้:

4.1 การเสริมพลังชุมชน (Community Empowerment)

การมีส่วนร่วมของประชาชนตั้งแต่การวางแผนจนถึงการติดตามประเมินผลช่วยให้แนวทางแก้ปัญหาสอดคล้องกับบริบทจริง ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างศูนย์กลาง–ท้องถิ่น

4.2 นวัตกรรมที่ยึดโยงกับภูมิปัญญาท้องถิ่น

เช่น:

  • แพลตฟอร์มตลาดออนไลน์สินค้าชุมชน

  • เทคโนโลยีจัดการน้ำแบบประยุกต์

  • ระบบข้อมูลเพื่อพัฒนาหมู่บ้านอัจฉริยะชนบท

นวัตกรรมที่ตั้งอยู่บนฐานภูมิปัญญาจะเพิ่มประสิทธิภาพและขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ

4.3 โครงสร้างสนับสนุนระดับอาเซียน

กรอบประชุมระดับรัฐมนตรีช่วยสร้าง:

  • ระบบแลกเปลี่ยนองค์ความรู้

  • เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนอาเซียน

  • โครงการพัฒนาชนบทข้ามพรมแดน

ซึ่งจะเพิ่มอำนาจต่อรองของชุมชนในตลาดใหม่ๆ

4.4 กลไกติดตามและประเมินผลที่เป็นรูปธรรม

การรับรองเอกสารจาก AVN, PPPP Forum, SOMRDPE ทำให้เกิดกรอบการทำงานที่มีมาตรฐานเดียวกันทั่วอาเซียน ช่วยให้ไทยสามารถวัดผลความสำเร็จได้อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง


5. ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการขจัดความยากจนอย่างยั่งยืน

จากการวิเคราะห์เชิงวิชาการ บทความนี้เสนอแนวทางดังต่อไปนี้:

  1. จัดตั้ง “ศูนย์ภูมิปัญญาเพื่อพัฒนาชนบท ASEAN” เพื่อรวบรวม อบรม และถ่ายทอดความรู้ท้องถิ่น

  2. ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์บนฐานวัฒนธรรมชุมชน

  3. สนับสนุนวิสาหกิจชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่นรัมมองตลาดระดับอาเซียน

  4. ยกระดับเกษตรกรรมผสมผสานด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่

  5. พัฒนาเครือข่ายหมู่บ้านอาเซียน (AVN) ให้เป็นฐานข้อมูลวิจัยความยากจนในภูมิภาค

  6. ผลักดันการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนแบบ PPPP (Public–Private–People Partnership)

  7. ใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ (evidence-based policy) เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายชนบท


6. สรุป

การขจัดความยากจนตามภูมิปัญญาไทยมิใช่เพียงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่เป็นกระบวนการฟื้นพลังชุมชน สร้างความมั่นคงทางสังคม และเสริมสร้างอัตลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่น การเป็นเจ้าภาพจัดประชุม 14th AMRDPE ช่วยให้ประเทศไทยสามารถแสดงศักยภาพด้านองค์ความรู้ท้องถิ่นสู่ระดับอาเซียน และสร้างความร่วมมือเพื่อความยั่งยืนในภูมิภาค

ด้วยการบูรณาการนวัตกรรม ภูมิปัญญา และการมีส่วนร่วมของชุมชน จึงสามารถก้าวสู่เป้าหมายสำคัญคือ
“การขจัดความยากจนอย่างยั่งยืนในชนบทไทยและอาเซียน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นิยมโมเดล: แนวโน้มนโยบาย พปชร.คุ้มครองพระพุทธศาสนา ในการเลือกตั้งปี 2569

บทวิเคราะห์เชิงลึก: พลวัตและทิศทางนโยบายการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2569: กรณีศึกษาทัศนะแ...