เพลง: “นายกฯ มืออาชีพ”
แนวเพลง : กึ่งเพื่อชีวิต–ร่วมสมัย / จังหวะหนักแน่น ให้พลังใจประชาชน
ท่อนที่ 1 — ปัญหาที่ทุกคนเห็น https://suno.com/s/t0PlLTNV3bfDPGan
สนามรบสร้างผู้กล้า แต่ในเมืองกลับเห็นแต่เงา
เสียงคนเดือดร้อนดังยาว ชีวิตยังต้องสู้ต่อไป
น้ำหลากพัดซ้ำทุกปี หาดใหญ่ยังยืนสู้ไหว
แต่บางครั้งหัวใจคนไทย ก็ถามว่า…ผู้นำเราอยู่ไหน
ท่อนฮุก — เรียกหาผู้นำมืออาชีพ
ต้องการผู้นำมืออาชีพ
ต้องการนายกฯ มืออาชีพ
ในวันที่ฟ้าหม่นทั่วเมือง คนยังต้องการความหวัง
ผู้ว่าฯ หมูป่าอยู่ไหนล่ะ…ขุนน้ำนางนอนยังจำกันได้
ชาวหาดใหญ่จะไม่ไหวแล้ว
แต่ศูนย์บัญชาการ…ก็ยังไม่เสร็จสักที
ท่อนที่ 2 — แผนกู้ภัยที่เราต้องมี
ความรู้เราก็มีพร้อมแล้ว แผนปฏิบัติงานครบทุกข้อ
ก่อนน้ำมา–ระหว่างน้ำ–หลังน้ำท่วม ต้องเดินให้ตรงตามหลักสากล
ฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้ดี ใช้ NbS อย่างเมืองพัฒนา
สร้าง Dashboard น้ำท่วม 4.0 ให้ข้อมูลพร้อมทุกเวลา
ฮุก (ทวน)
เราต้องการผู้นำมืออาชีพ
ต้องการนายกฯ มืออาชีพ
คนหาดใหญ่ไม่ต้องการถ้อยคำ ต้องการคนทำอย่างจริงจัง
ให้เมืองนี้ปลอดภัยจากน้ำท่วม ให้คนทุกชั้นได้ลืมตา
ผู้นำที่กล้าตัดสินใจ และลงมือทำไม่รอเวลา
ท่อนบริดจ์ — ทางรอดของเมือง
ICS ต้องสั่งการร่วม
GIS ต้องสำรวจครบ
ศูนย์พักพิงต้องได้มาตรฐาน
เสียงประชาชนต้องได้ยิน
บทเรียนทุกครั้งต้องสรุปจริง
นี่คือเส้นทางของเมืองที่ยั่งยืน
ฮุกสุดท้าย — ความหวังของหาดใหญ่
ต้องการผู้นำมืออาชีพ
ต้องการนายกฯ มืออาชีพ
ให้แผนกู้ภัยน้ำท่วมเป็นจริง ไม่ใช่แค่บนกระดาษ
ยืนหยัดเคียงข้างประชาชน
เพื่อพาเมืองนี้ฝ่าคลื่นมหาศาล
และทำให้หาดใหญ่…
เป็นเมืองปลอดภัยจากน้ำท่วมในวันพรุ่งนี้
อุทกภัยในเขตเมืองหาดใหญ่ถือเป็นภัยพิบัติที่เกิดซ้ำอย่างต่อเนื่อง และมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นจากความซับซ้อนของภูมิอากาศ การใช้ประโยชน์ที่ดิน การขยายตัวเมือง และความเสื่อมถอยของระบบนิเวศต้นน้ำ งานวิจัยนี้มุ่งวิเคราะห์ “แผนปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมแบบครบวงจร” โดยพิจารณาเชิงโครงสร้างนโยบาย กลไกปฏิบัติ และประสิทธิภาพขององค์ประกอบต่าง ๆ ตั้งแต่ระยะก่อนเกิดภัย ระยะเกิดภัย และหลังเกิดภัย ทั้งนี้ยังวิเคราะห์ความสอดคล้องของแผนงานกับหลักสากล เช่น Sendai Framework และแนวคิดการจัดการน้ำแบบธรรมชาติ (Nature-based Solutions) ผลการวิเคราะห์พบว่า แม้หาดใหญ่มีโครงสร้างพื้นฐานและแผนบริหารจัดการหลายประการ แต่ยังขาดการบูรณาการเชิงพื้นที่ การเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ การมีส่วนร่วมของชุมชน และระบบประเมินผลหลังปฏิบัติการที่เป็นระบบ จึงเสนอแนวทางพัฒนาแผนปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมแบบครบวงจรตามหลักวิชาการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับมืออุทกภัยอย่างยั่งยืน
1. บทนำ
อุทกภัยในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นปัญหาโครงสร้างเชิงระบบที่เกิดซ้ำทุกปี โดยเฉพาะเหตุการณ์ปี 2531, 2543, 2553 และหลายครั้งหลังจากนั้น แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา การขยายตัวของพื้นที่เมือง และความไม่พร้อมของแผนกู้ภัยในระดับปฏิบัติการ
การจัดทำ “แผนปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมแบบครบวงจร” จึงต้องมีการวิเคราะห์ตามกรอบ 3 มิติ ได้แก่
-
มิติสิ่งแวดล้อม–กายภาพ
-
มิติการบริหารจัดการเชิงนโยบายและสถาบัน
-
มิติสังคม–ชุมชนและความพร้อมของประชาชน
บทความนี้วิเคราะห์องค์ประกอบดังกล่าวพร้อมเสนอโมเดลการปฏิบัติการที่เหมาะสมกับหาดใหญ่ในบริบทปัจจุบัน พ.ศ. 2568–2570
2. กรอบแนวคิดและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
2.1 กรอบแนวคิดการจัดการภัยพิบัติแบบครบวงจร (Disaster Management Cycle)
-
ก่อนเกิดภัย (Preparedness & Mitigation)
การพยากรณ์น้ำหลาก การซ่อมบำรุงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบเตือนภัยชุมชน -
ระยะเกิดภัย (Response)
การอพยพ การประสานงานศูนย์บัญชาการ และการกู้ภัย -
หลังเกิดภัย (Recovery)
การฟื้นฟูบ้านเรือน เศรษฐกิจท้องถิ่น และการประเมินผลเพื่อกลับมาปรับปรุง
2.2 แนวคิดการบริหารจัดการน้ำท่วมเมือง (Urban Flood Management)
ประกอบด้วยการระบายน้ำ, โครงสร้างป้องกันน้ำ, การใช้พื้นที่ชุ่มน้ำธรรมชาติ และการออกแบบเมืองที่ยืดหยุ่น (Flood Resilient City)
2.3 นโยบายสากล
Sendai Framework 2015–2030 มุ่งเน้นการลดความเสี่ยงภัย เพิ่มความพร้อม และสร้างความร่วมมือข้ามสถาบัน
Nature-based Solutions (NbS) ได้แก่ป่าเขาหลวง ป่าพรุ และแก้มลิงธรรมชาติ
3. สภาพปัญหาอุทกภัยในพื้นที่หาดใหญ่
-
ลักษณะทางภูมิศาสตร์
ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภามีพื้นที่รับน้ำขนาดใหญ่ และเกิดน้ำหลากรวดเร็วเมื่อมีฝนตกหนักเหนือเมือง -
โครงสร้างพื้นฐานดั้งเดิมไม่เพียงพอ
-
คลองระบายน้ำตื้นเขิน
-
ประตูน้ำบางจุดเสื่อมสภาพ
-
การก่อสร้างรุกล้ำทางน้ำ
-
ปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดิน
การขยายชุมชนเมือง–ทุ่งตำเสา, คอหงส์, ควนลัง ทำให้พื้นที่รับน้ำน้อยลง -
ระบบสั่งการฉุกเฉินยังไม่รวมศูนย์จริง
แต่ละหน่วยงานใช้ระบบข้อมูลต่างกัน ขาดการประสานแบบเรียลไทม์ -
ประชาชนยังขาดองค์ความรู้ด้านการรับมือภัยน้ำท่วมเชิงชุมชน
4. วิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมแบบครบวงจร
4.1 การบริหารก่อนเกิดภัย (Preparedness)
จุดแข็ง
-
มีโครงการเพิ่มพื้นที่แก้มลิง เช่น ทุ่งตำเสา
-
มีศูนย์พยากรณ์น้ำหลากอู่ตะเภาให้ข้อมูลทุก 1–3 ชั่วโมง
ช่องว่างของนโยบาย
-
ข้อมูลจากสื่อสารหลายช่องทาง ไม่ได้รวมศูนย์ใน Dashboard เดียว
-
ขาดการจำลองสถานการณ์ (Flood Simulation) สำหรับทุกเขตชุมชน
-
การดูแลต้นน้ำ เช่น ป่าเขาหลวง ยังไม่มีแผนฟื้นฟูแบบ NbS ที่จริงจัง
4.2 การรับมือขณะเกิดภัย (Emergency Response)
จุดแข็ง
-
มีอาสาสมัคร ปภ. อปพร. และมูลนิธิหลายหน่วยช่วยประสานงาน
-
การใช้เรือท้องแบนและโดรนเริ่มแพร่หลาย
ข้อจำกัด
-
ระบบวิทยุสื่อสารของหน่วยกู้ภัยบางส่วนไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้
-
การตั้งศูนย์พักพิงยังไม่ได้มาตรฐาน Sphere
-
การอพยพบางพื้นที่ล่าช้า เพราะพึ่งพาแรงงานอาสาสมัครมาก
4.3 การฟื้นฟูหลังน้ำลด (Recovery)
จุดแข็ง
-
หน่วยงานท้องถิ่นมีประสบการณ์น้ำท่วมมาหลายรอบ
-
ชุมชนเข้มแข็งในบางเขต เช่น ย่านตลาดกิมหยง
ข้อจำกัด
-
ขาดระบบประเมินความเสียหายที่เชื่อมต่อฐานข้อมูลกลาง (GIS-based Damage Assessment)
-
การเยียวยาและซ่อมแซมบ้านเรือนช้า
-
ไม่มีการประเมินแผนหลังปฏิบัติการอย่างเป็นทางการ (After Action Review)
5. ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อแผนกู้ภัยน้ำท่วมแบบครบวงจร
5.1 ระยะก่อนเกิดภัย
-
สร้างระบบข้อมูลกลางน้ำท่วม (Hatyai Flood Dashboard 4.0)
รวมข้อมูลฝน น้ำท่า ปริมาณระบาย ประตูน้ำ และตำแหน่งเสี่ยงแบบเรียลไทม์ -
ฟื้นฟูป่าต้นน้ำเขาหลวงตามแนวคิด Nature-based Solutions
ลดน้ำหลากรวดเร็ว เพิ่มพื้นที่ซับน้ำ -
ติดตั้งระบบเตือนภัยชุมชนอัจฉริยะ (Smart Community Warning System)
ใช้เซ็นเซอร์ IoT วัดระดับน้ำทุกตำบล -
ทำแผนที่เสี่ยงอุทกภัยรายชุมชน (Community Flood Risk Map)
ให้ชาวบ้านร่วมวิเคราะห์เส้นทางอพยพ
5.2 ระยะเกิดภัย
-
ตั้งศูนย์บัญชาการกลางแบบ Incident Command System (ICS)
เพื่อรวมคำสั่งเดียว ลดความซ้ำซ้อน -
ใช้โดรน–ดาวเทียมวิเคราะห์จุดเสี่ยงแบบวันต่อวัน
เพื่อกำหนดพื้นที่เข้าช่วยเหลืออย่างแม่นยำ -
ยกระดับศูนย์อพยพตามมาตรฐานสากล
มีระบบสุขาภิบาล อาหาร และยารักษาโรคที่เพียงพอ
5.3 ระยะฟื้นฟู
-
ใช้ระบบสำรวจความเสียหายผ่าน GIS และ Mobile App
ให้ประชาชนแจ้งข้อมูลเอง ลดขั้นตอนราชการ -
กองทุนฟื้นฟูหลังน้ำท่วมระดับชุมชน
เพื่อซ่อมแซมบ้านและฟื้นอาชีพเร็วขึ้น -
สรุปบทเรียนหลังเหตุการณ์ทุกครั้ง (After Action Review)
แล้วปรับปรุงแผนประจำปี
6. สรุป
แผนปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมหาดใหญ่แบบครบวงจรต้องพึ่งพาการบูรณาการทั้งโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีการพยากรณ์ การบริหารจัดการข้ามสถาบัน และการมีส่วนร่วมของชุมชน การพัฒนาระบบเตือนภัยอัจฉริยะ การจัดทำฐานข้อมูลกลาง และการวางระบบปฏิบัติการตามกรอบสากลจะช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิต เศรษฐกิจ และทรัพย์สิน และทำให้เมืองหาดใหญ่เดินหน้าสู่ “เมืองปลอดภัยจากน้ำท่วม” อย่างยั่งยืนในระยะยาว

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น