วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

พิมพ์เขียวหาดใหญ่สู่เมืองปลอดภัยน้ำท่วม: แผนยุทธศาสตร์บูรณาการแบบครบวงจร

เพลง: “นายกฯ มืออาชีพ”

แนวเพลง : กึ่งเพื่อชีวิต–ร่วมสมัย / จังหวะหนักแน่น ให้พลังใจประชาชน


ท่อนที่ 1 — ปัญหาที่ทุกคนเห็น https://suno.com/s/t0PlLTNV3bfDPGan

สนามรบสร้างผู้กล้า แต่ในเมืองกลับเห็นแต่เงา
เสียงคนเดือดร้อนดังยาว ชีวิตยังต้องสู้ต่อไป
น้ำหลากพัดซ้ำทุกปี หาดใหญ่ยังยืนสู้ไหว
แต่บางครั้งหัวใจคนไทย ก็ถามว่า…ผู้นำเราอยู่ไหน


ท่อนฮุก — เรียกหาผู้นำมืออาชีพ

ต้องการผู้นำมืออาชีพ
ต้องการนายกฯ มืออาชีพ
ในวันที่ฟ้าหม่นทั่วเมือง คนยังต้องการความหวัง
ผู้ว่าฯ หมูป่าอยู่ไหนล่ะ…ขุนน้ำนางนอนยังจำกันได้
ชาวหาดใหญ่จะไม่ไหวแล้ว
แต่ศูนย์บัญชาการ…ก็ยังไม่เสร็จสักที


ท่อนที่ 2 — แผนกู้ภัยที่เราต้องมี

ความรู้เราก็มีพร้อมแล้ว แผนปฏิบัติงานครบทุกข้อ
ก่อนน้ำมา–ระหว่างน้ำ–หลังน้ำท่วม ต้องเดินให้ตรงตามหลักสากล
ฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้ดี ใช้ NbS อย่างเมืองพัฒนา
สร้าง Dashboard น้ำท่วม 4.0 ให้ข้อมูลพร้อมทุกเวลา


ฮุก (ทวน)

เราต้องการผู้นำมืออาชีพ
ต้องการนายกฯ มืออาชีพ
คนหาดใหญ่ไม่ต้องการถ้อยคำ ต้องการคนทำอย่างจริงจัง
ให้เมืองนี้ปลอดภัยจากน้ำท่วม ให้คนทุกชั้นได้ลืมตา
ผู้นำที่กล้าตัดสินใจ และลงมือทำไม่รอเวลา


ท่อนบริดจ์ — ทางรอดของเมือง

ICS ต้องสั่งการร่วม
GIS ต้องสำรวจครบ
ศูนย์พักพิงต้องได้มาตรฐาน
เสียงประชาชนต้องได้ยิน
บทเรียนทุกครั้งต้องสรุปจริง
นี่คือเส้นทางของเมืองที่ยั่งยืน


ฮุกสุดท้าย — ความหวังของหาดใหญ่

ต้องการผู้นำมืออาชีพ
ต้องการนายกฯ มืออาชีพ
ให้แผนกู้ภัยน้ำท่วมเป็นจริง ไม่ใช่แค่บนกระดาษ
ยืนหยัดเคียงข้างประชาชน
เพื่อพาเมืองนี้ฝ่าคลื่นมหาศาล
และทำให้หาดใหญ่…
เป็นเมืองปลอดภัยจากน้ำท่วมในวันพรุ่งนี้

บทคัดย่อ

อุทกภัยในเขตเมืองหาดใหญ่ถือเป็นภัยพิบัติที่เกิดซ้ำอย่างต่อเนื่อง และมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นจากความซับซ้อนของภูมิอากาศ การใช้ประโยชน์ที่ดิน การขยายตัวเมือง และความเสื่อมถอยของระบบนิเวศต้นน้ำ งานวิจัยนี้มุ่งวิเคราะห์ “แผนปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมแบบครบวงจร” โดยพิจารณาเชิงโครงสร้างนโยบาย กลไกปฏิบัติ และประสิทธิภาพขององค์ประกอบต่าง ๆ ตั้งแต่ระยะก่อนเกิดภัย ระยะเกิดภัย และหลังเกิดภัย ทั้งนี้ยังวิเคราะห์ความสอดคล้องของแผนงานกับหลักสากล เช่น Sendai Framework และแนวคิดการจัดการน้ำแบบธรรมชาติ (Nature-based Solutions) ผลการวิเคราะห์พบว่า แม้หาดใหญ่มีโครงสร้างพื้นฐานและแผนบริหารจัดการหลายประการ แต่ยังขาดการบูรณาการเชิงพื้นที่ การเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ การมีส่วนร่วมของชุมชน และระบบประเมินผลหลังปฏิบัติการที่เป็นระบบ จึงเสนอแนวทางพัฒนาแผนปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมแบบครบวงจรตามหลักวิชาการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับมืออุทกภัยอย่างยั่งยืน


1. บทนำ

อุทกภัยในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นปัญหาโครงสร้างเชิงระบบที่เกิดซ้ำทุกปี โดยเฉพาะเหตุการณ์ปี 2531, 2543, 2553 และหลายครั้งหลังจากนั้น แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา การขยายตัวของพื้นที่เมือง และความไม่พร้อมของแผนกู้ภัยในระดับปฏิบัติการ

การจัดทำ “แผนปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมแบบครบวงจร” จึงต้องมีการวิเคราะห์ตามกรอบ 3 มิติ ได้แก่

  1. มิติสิ่งแวดล้อม–กายภาพ

  2. มิติการบริหารจัดการเชิงนโยบายและสถาบัน

  3. มิติสังคม–ชุมชนและความพร้อมของประชาชน

บทความนี้วิเคราะห์องค์ประกอบดังกล่าวพร้อมเสนอโมเดลการปฏิบัติการที่เหมาะสมกับหาดใหญ่ในบริบทปัจจุบัน พ.ศ. 2568–2570


2. กรอบแนวคิดและเอกสารที่เกี่ยวข้อง

2.1 กรอบแนวคิดการจัดการภัยพิบัติแบบครบวงจร (Disaster Management Cycle)

  • ก่อนเกิดภัย (Preparedness & Mitigation)
    การพยากรณ์น้ำหลาก การซ่อมบำรุงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบเตือนภัยชุมชน

  • ระยะเกิดภัย (Response)
    การอพยพ การประสานงานศูนย์บัญชาการ และการกู้ภัย

  • หลังเกิดภัย (Recovery)
    การฟื้นฟูบ้านเรือน เศรษฐกิจท้องถิ่น และการประเมินผลเพื่อกลับมาปรับปรุง

2.2 แนวคิดการบริหารจัดการน้ำท่วมเมือง (Urban Flood Management)

ประกอบด้วยการระบายน้ำ, โครงสร้างป้องกันน้ำ, การใช้พื้นที่ชุ่มน้ำธรรมชาติ และการออกแบบเมืองที่ยืดหยุ่น (Flood Resilient City)

2.3 นโยบายสากล

Sendai Framework 2015–2030 มุ่งเน้นการลดความเสี่ยงภัย เพิ่มความพร้อม และสร้างความร่วมมือข้ามสถาบัน
Nature-based Solutions (NbS) ได้แก่ป่าเขาหลวง ป่าพรุ และแก้มลิงธรรมชาติ


3. สภาพปัญหาอุทกภัยในพื้นที่หาดใหญ่

  1. ลักษณะทางภูมิศาสตร์
    ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภามีพื้นที่รับน้ำขนาดใหญ่ และเกิดน้ำหลากรวดเร็วเมื่อมีฝนตกหนักเหนือเมือง

  2. โครงสร้างพื้นฐานดั้งเดิมไม่เพียงพอ

  • คลองระบายน้ำตื้นเขิน

  • ประตูน้ำบางจุดเสื่อมสภาพ

  • การก่อสร้างรุกล้ำทางน้ำ

  1. ปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดิน
    การขยายชุมชนเมือง–ทุ่งตำเสา, คอหงส์, ควนลัง ทำให้พื้นที่รับน้ำน้อยลง

  2. ระบบสั่งการฉุกเฉินยังไม่รวมศูนย์จริง
    แต่ละหน่วยงานใช้ระบบข้อมูลต่างกัน ขาดการประสานแบบเรียลไทม์

  3. ประชาชนยังขาดองค์ความรู้ด้านการรับมือภัยน้ำท่วมเชิงชุมชน


4. วิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมแบบครบวงจร

4.1 การบริหารก่อนเกิดภัย (Preparedness)

จุดแข็ง

  • มีโครงการเพิ่มพื้นที่แก้มลิง เช่น ทุ่งตำเสา

  • มีศูนย์พยากรณ์น้ำหลากอู่ตะเภาให้ข้อมูลทุก 1–3 ชั่วโมง

ช่องว่างของนโยบาย

  • ข้อมูลจากสื่อสารหลายช่องทาง ไม่ได้รวมศูนย์ใน Dashboard เดียว

  • ขาดการจำลองสถานการณ์ (Flood Simulation) สำหรับทุกเขตชุมชน

  • การดูแลต้นน้ำ เช่น ป่าเขาหลวง ยังไม่มีแผนฟื้นฟูแบบ NbS ที่จริงจัง


4.2 การรับมือขณะเกิดภัย (Emergency Response)

จุดแข็ง

  • มีอาสาสมัคร ปภ. อปพร. และมูลนิธิหลายหน่วยช่วยประสานงาน

  • การใช้เรือท้องแบนและโดรนเริ่มแพร่หลาย

ข้อจำกัด

  • ระบบวิทยุสื่อสารของหน่วยกู้ภัยบางส่วนไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้

  • การตั้งศูนย์พักพิงยังไม่ได้มาตรฐาน Sphere

  • การอพยพบางพื้นที่ล่าช้า เพราะพึ่งพาแรงงานอาสาสมัครมาก


4.3 การฟื้นฟูหลังน้ำลด (Recovery)

จุดแข็ง

  • หน่วยงานท้องถิ่นมีประสบการณ์น้ำท่วมมาหลายรอบ

  • ชุมชนเข้มแข็งในบางเขต เช่น ย่านตลาดกิมหยง

ข้อจำกัด

  • ขาดระบบประเมินความเสียหายที่เชื่อมต่อฐานข้อมูลกลาง (GIS-based Damage Assessment)

  • การเยียวยาและซ่อมแซมบ้านเรือนช้า

  • ไม่มีการประเมินแผนหลังปฏิบัติการอย่างเป็นทางการ (After Action Review)


5. ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อแผนกู้ภัยน้ำท่วมแบบครบวงจร

5.1 ระยะก่อนเกิดภัย

  1. สร้างระบบข้อมูลกลางน้ำท่วม (Hatyai Flood Dashboard 4.0)
    รวมข้อมูลฝน น้ำท่า ปริมาณระบาย ประตูน้ำ และตำแหน่งเสี่ยงแบบเรียลไทม์

  2. ฟื้นฟูป่าต้นน้ำเขาหลวงตามแนวคิด Nature-based Solutions
    ลดน้ำหลากรวดเร็ว เพิ่มพื้นที่ซับน้ำ

  3. ติดตั้งระบบเตือนภัยชุมชนอัจฉริยะ (Smart Community Warning System)
    ใช้เซ็นเซอร์ IoT วัดระดับน้ำทุกตำบล

  4. ทำแผนที่เสี่ยงอุทกภัยรายชุมชน (Community Flood Risk Map)
    ให้ชาวบ้านร่วมวิเคราะห์เส้นทางอพยพ


5.2 ระยะเกิดภัย

  1. ตั้งศูนย์บัญชาการกลางแบบ Incident Command System (ICS)
    เพื่อรวมคำสั่งเดียว ลดความซ้ำซ้อน

  2. ใช้โดรน–ดาวเทียมวิเคราะห์จุดเสี่ยงแบบวันต่อวัน
    เพื่อกำหนดพื้นที่เข้าช่วยเหลืออย่างแม่นยำ

  3. ยกระดับศูนย์อพยพตามมาตรฐานสากล
    มีระบบสุขาภิบาล อาหาร และยารักษาโรคที่เพียงพอ


5.3 ระยะฟื้นฟู

  1. ใช้ระบบสำรวจความเสียหายผ่าน GIS และ Mobile App
    ให้ประชาชนแจ้งข้อมูลเอง ลดขั้นตอนราชการ

  2. กองทุนฟื้นฟูหลังน้ำท่วมระดับชุมชน
    เพื่อซ่อมแซมบ้านและฟื้นอาชีพเร็วขึ้น

  3. สรุปบทเรียนหลังเหตุการณ์ทุกครั้ง (After Action Review)
    แล้วปรับปรุงแผนประจำปี


6. สรุป

แผนปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมหาดใหญ่แบบครบวงจรต้องพึ่งพาการบูรณาการทั้งโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีการพยากรณ์ การบริหารจัดการข้ามสถาบัน และการมีส่วนร่วมของชุมชน การพัฒนาระบบเตือนภัยอัจฉริยะ การจัดทำฐานข้อมูลกลาง และการวางระบบปฏิบัติการตามกรอบสากลจะช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิต เศรษฐกิจ และทรัพย์สิน และทำให้เมืองหาดใหญ่เดินหน้าสู่ “เมืองปลอดภัยจากน้ำท่วม” อย่างยั่งยืนในระยะยาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นิยมโมเดล: แนวโน้มนโยบาย พปชร.คุ้มครองพระพุทธศาสนา ในการเลือกตั้งปี 2569

บทวิเคราะห์เชิงลึก: พลวัตและทิศทางนโยบายการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2569: กรณีศึกษาทัศนะแ...