วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

สถาปัตยกรรมสันติภาพเอเชียโอกาสพุทธสันติวิธี


 

ความท้าทายด้านมนุษยธรรม, โอกาสแห่งสันติภาพ และโอกาสแห่งพุทธสันติวิธี รวมถึงนัยต่ออาเซียนและภูมิรัฐศาสตร์ในเอเชียตะวันออก

(Humanitarian Challenges, Peace Prospect, Buddhist Peacebuilding Opportunities, and Implications for ASEAN & Geopolitics in East Asia)

เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00–12.00 น. สถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติได้จัดงานเสวนาทางวิชาการหัวข้อ Humanitarian Challenges, Peace Prospect, and Implications for ASEAN & Geopolitics in East Asia ณ ห้องประชุมจุมภฎ–พันทิพย์ อาคารประชาธิปก–รำไพพรรณี โดยมี รศ.ดร.ปกรณ์ ศิริประกอบ กล่าวต้อนรับและเปิดงานอย่างเป็นทางการ

งานเสวนาได้รับเกียรติจากผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ปี 2022 Ms. Oleksandra Matviichuk เป็น Keynote Speaker พร้อมด้วยคณะผู้เสวนา ได้แก่

  • รศ.ดร.ณัฐนันท์ คุณมาศ

  • ผศ.ดร.ภาณุภัทร จิตเที่ยง

  • Mr. Per Linner รองหัวหน้าคณะผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย
    โดยมี ผศ.ดร.พงศ์พิสุทธิ์ บุษบารัตน์ ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ

บทความนี้ใช้กรอบเนื้อหาจากการเสวนามาวิเคราะห์ในสามมิติหลัก ได้แก่ (1) ความท้าทายด้านมนุษยธรรม, (2) โอกาสแห่งสันติภาพและพุทธสันติวิธี, และ (3) นัยสำคัญต่ออาเซียนและภูมิรัฐศาสตร์ในเอเชียตะวันออก


1. ความท้าทายด้านมนุษยธรรมในภูมิรัฐศาสตร์เอเชียตะวันออก

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญ วิกฤติด้านมนุษยธรรมรูปแบบใหม่ ที่ซับซ้อนขึ้นจากอดีต ด้วยปัจจัยสำคัญ ดังนี้

1.1 ความขัดแย้งระหว่างรัฐมหาอำนาจ

การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ–จีน ส่งผลให้รัฐเล็กในอาเซียนต้องเผชิญภาวะ “เลือกข้าง” อย่างไม่ชัดเจน นำไปสู่แรงกดดันด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และเทคโนโลยี ทำให้ วิกฤติผู้อพยพ แรงงาน และสิทธิมนุษยชน มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

1.2 วิกฤติความรุนแรงข้ามพรมแดน

กรณีในเมียนมา, แคชเมียร์, คาบสมุทรเกาหลี และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากตกอยู่ในความเสี่ยงด้านชีวิตและความปลอดภัย ขณะที่โครงสร้างความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยังมีข้อจำกัด

1.3 ภัยพิบัติจากสภาพภูมิอากาศ

เอเชียตะวันออกเป็นภูมิภาคที่ประสบภัยพิบัติหนักที่สุดในโลก ส่งผลต่อความยากจน ความมั่นคงทางอาหาร และความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ผลลัพธ์คือการเกิดสภาวะที่เรียกว่า Humanitarian-Political Complex ซึ่งประเด็นด้านมนุษยธรรมถูกผูกติดกับการเมืองระหว่างประเทศมากขึ้น


2. โอกาสแห่งสันติภาพและแนวโน้มเชิงบวก

แม้บริบทภูมิรัฐศาสตร์จะตึงเครียด แต่การเสวนาชี้ให้เห็นว่า โอกาสสู่สันติภาพยังมีอยู่ในหลายมิติ:

2.1 ช่องทางสันติภาพแบบพหุภาคีของอาเซียน

อาเซียนสามารถเป็น “สะพานกลาง” (Peace Bridge) ระหว่างมหาอำนาจได้ ผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น

  • ASEAN Regional Forum (ARF)

  • East Asia Summit (EAS)

  • ASEAN Defense Ministers’ Meeting Plus (ADMM-Plus)

2.2 พลังอ่อน (Soft Power) ด้านสันติภาพของประเทศในภูมิภาค

อาเซียนมีทุนทางวัฒนธรรม เช่น ความหลากหลายทางศาสนา ระบบคุณค่าชุมชน และประสบการณ์การแก้ปัญหาแบบไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งสามารถต่อยอดเป็นโมเดลสันติภาพร่วมสมัย

2.3 การขับเคลื่อนภาคประชาสังคม

กรณี Ms. Matviichuk แสดงให้เห็นบทบาทของภาคประชาชนในการตรวจสอบสิทธิมนุษยชน การบันทึกหลักฐาน และการสร้างแรงกดดันทางนโยบายระดับนานาชาติ


3. โอกาสแห่งพุทธสันติวิธี (Buddhist Peacebuilding Opportunities)

พุทธสันติวิธีเป็นแนวคิดที่ใช้หลักธรรมของพระพุทธศาสนามาบูรณาการในกระบวนการสร้างสันติภาพ โดยมีแก่นสำคัญ เช่น อหิงสา เมตตา การฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening) การเห็นอกเห็นใจ (Compassion) และความเข้าใจในเหตุปัจจัยของความขัดแย้ง

3.1 พุทธสันติวิธีในฐานะกรอบวิเคราะห์ความรุนแรง

พุทธศาสนามองว่า ความรุนแรงเกิดจาก “โลภะ โทสะ โมหะ” การลดวงจรนี้สามารถช่วยให้เกิดพลวัตสันติภาพในระดับบุคคล ชุมชน และรัฐ

3.2 การประยุกต์ในเวทีอาเซียน

ประเทศในอาเซียนจำนวนมากมีรากวัฒนธรรมพุทธ เช่น ไทย เมียนมา กัมพูชา ลาว ซึ่งสามารถร่วมกันพัฒนา

  • โครงการสันติวิธีเชิงชุมชน

  • ศูนย์พุทธสันติภาพระดับภูมิภาค

  • หลักสูตรเสริมสร้างผู้นำแบบเมตตาธรรม

3.3 การสร้างสันติภาพในพื้นที่ขัดแย้ง

แม้บางพื้นที่มีความขัดแย้งเชิงชาติพันธุ์และศาสนา พุทธสันติวิธียังช่วยเป็นฐานของกระบวนการ

  • เจรจาแบบไม่ใช่การเผชิญหน้า

  • สร้างพื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจ (Psychological Safe Space)

  • กระบวนการเยียวยาและคืนดี (Reconciliation)


4. นัยต่ออาเซียนและภูมิรัฐศาสตร์ในเอเชียตะวันออก

4.1 อาเซียนในฐานะ “ผู้รักษาสมดุล”

การผสมผสานทั้งประเด็นมนุษยธรรม สันติวิธี และภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้อาเซียนต้องพัฒนาบทบาทเป็นทั้ง

  • ผู้ไกล่เกลี่ย

  • ผู้สร้างมาตรฐานด้านมนุษยธรรม

  • ผู้เชื่อมประสานผลประโยชน์ของรัฐมหาอำนาจ

4.2 การทูตเชิงพุทธ (Buddhist Diplomacy)

สามารถพัฒนาเป็น Soft Power เชิงค่านิยมของภูมิภาค เช่น

  • เวทีเสวนาสันติภาพพุทธ–อาเซียน

  • เครือข่ายผู้นำศาสนาสำหรับการไกล่เกลี่ย

  • โมเดลความร่วมมือไทย–กัมพูชา–ลาว ในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ

4.3 การปรับตัวต่ออิทธิพลมหาอำนาจ

พุทธสันติวิธีช่วยให้เกิด “ภูมิคุ้มกันเชิงสังคม–การเมือง” ที่เน้นเหตุผล ความร่วมมือ และความสมดุล ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทการรักษาเสถียรภาพของอาเซียน


สรุป

ความท้าทายด้านมนุษยธรรมและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในเอเชียตะวันออกกำลังทวีความซับซ้อน แต่ในขณะเดียวกัน โอกาสแห่งสันติภาพและพุทธสันติวิธี ก็เปิดพื้นที่ใหม่ให้ภูมิภาคสามารถสร้างแนวทางสันติภาพที่เหมาะสมกับบริบททางวัฒนธรรมของตนเอง

อาเซียนจึงควรพัฒนา

  • กลไกด้านมนุษยธรรม

  • พื้นที่พหุภาคีสำหรับการเจรจา

  • การทูตเชิงคุณค่าทางพุทธศาสนา

เพื่อให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกก้าวสู่ สถาปัตยกรรมสันติภาพที่ยั่งยืนและสมดุลกับพลวัตโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นิยมโมเดล: แนวโน้มนโยบาย พปชร.คุ้มครองพระพุทธศาสนา ในการเลือกตั้งปี 2569

บทวิเคราะห์เชิงลึก: พลวัตและทิศทางนโยบายการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2569: กรณีศึกษาทัศนะแ...