วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

กลยุทธ์ AI สำหรับการเมืองเชิงจิตวิทยาแบบพุทธ พ.ศ. 2569

 


วิเคราะห์กลยุทธ์การใช้เอไอช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งสส.ปี 2569 ของดร.นิยม เวชกามา ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสกลนคร เขตเลือกตั้งที่ 2 พรรคพลังประชารัฐ

บทนำ: การเมืองพุทธจิตวิทยากับคลื่นเทคโนโลยี

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยในปี พ.ศ. 2569 นับเป็นสนามประลองสำคัญที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทในการรณรงค์หาเสียงอย่างเข้มข้น บทความนี้มุ่งวิเคราะห์การเตรียมการลงสมัครรับเลือกตั้งของ ดร.นิยม เวชกามา หรือ “ดร.มหานิยม” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลยุทธ์ในการผนวกการใช้ AI เข้ากับแนวคิดหลัก “การเมืองแบบพุทธจิตวิทยา” ที่เน้นการลงพื้นที่และศรัทธาชุมชน

@siampongsnews

กลยุทธ์ AI สำหรับการเมืองเชิงจิตวิทยาแบบพุทธ พ.ศ. 2569 สื่อถึงบทความนี้วิเคราะห์กลยุทธ์การหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี 2569 ของ ดร.นิยม เวชกามา ที่ต้องการผนวกเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับแนวคิดหลักที่เรียกว่า “การเมืองแบบพุทธจิตวิทยา” โดยเน้นการใช้ศีลธรรมและความศรัทธาชุมชนเป็นกรอบกำกับ การใช้ AI ถูกวางตำแหน่งเป็น “ผู้ช่วยเชิงกลยุทธ์” หรือเครื่องมือเงียบเพื่อเสริมประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายคือการรักษาภาพลักษณ์ “นักการเมืองสายคุณธรรม” ขณะเดียวกันก็ใช้ความแม่นยำของข้อมูล การใช้งานหลักของ AI ประกอบด้วยการ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก จากฐานข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อคาดการณ์ประเด็นร้อนประจำท้องถิ่น และการ จัดการโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลงพื้นที่ของทีมงานและอาสาสมัครอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังใช้ AI ในการกลั่นกรองเนื้อหาดิจิทัลให้มี โทนที่เป็นบวก และมีความเหมาะสมทางวัฒนธรรม โดยรวมแล้ว กลยุทธ์นี้แสดงถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรมเพื่อสนับสนุนการรณรงค์ที่มุ่งเน้นความน่าเชื่อถือและการสื่อสารที่ตรงเป้าหมายในเขตเลือกตั้งสกลนคร

♬ เสียงต้นฉบับ - siampongsnews

ดร.นิยมและทีมงานได้เริ่มการขับเคลื่อนหาเสียงอย่างเป็นรูปธรรมในเขตเลือกตั้งที่ 2 ซึ่งครอบคลุมอำเภอกุสุมาลย์, โพนนาแก้ว, โคกศรีสุพรรณ, เต่างอย และบางส่วนของอำเภอเมืองสกลนคร การติดตั้งป้ายอวยพรปีใหม่ 2569 พร้อมการนำเสนอภาพแกนนำพรรคพลังประชารัฐถือเป็นสัญญาณการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายเร่งด่วนในการเข้าถึงประชาชนให้ได้มากที่สุดท่ามกลางกระแสการยุบสภาที่อาจเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า

1. การบูรณาการ AI เข้ากับวิสัยทัศน์และแนวคิดหลัก

วิสัยทัศน์ของ ดร.นิยมคือ “สกลนครต้องเป็นเมืองแห่งคุณธรรม นำเศรษฐกิจเข้มแข็งและสังคมสงบสุข” และแนวคิดหลักที่เน้น การเมืองเพื่อประชาชน และ การเมืองแห่งศีลธรรม เป็นกรอบกำกับ (Guardrails) สำหรับการใช้เทคโนโลยี AI โดยกลยุทธ์ของ ดร.นิยมคือการใช้ AI เป็น “เครื่องมือเงียบ” (Silent Servant) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของแกนนำและเครือข่าย ไม่ใช่การใช้ AI เพื่อผลิตเนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อที่หวือหวา

1.1 ยุทธศาสตร์: การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI เพื่อการสื่อสารตรง (AI-Driven Direct Talk Politics)

ยุทธศาสตร์การรณรงค์ของ ดร.นิยม เน้นที่ “พลังแห่งศรัทธาและพลังของการมีส่วนร่วม” ผ่าน “3 วงกลมสัมพันธ์” (ประชาชน, ศาสนา, พัฒนา) การใช้ AI ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนยุทธวิธี “การสื่อสารตรงถึงประชาชน” ดังนี้:

ยุทธวิธีดั้งเดิม

การเสริมด้วย AI (AI Integration)

วัตถุประสงค์

การลงพื้นที่พบปะกลุ่มเป้าหมายย่อย (Direct Talk)

AI Segmentation & Predictive Analytics: ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่จากฐานข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่ (เช่น ปัญหาที่ชาวบ้านสะท้อน) เพื่อแบ่งกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามตำบล (กุสุมาลย์, โพนนาแก้ว, ฯลฯ) และทำนายประเด็นร้อน (Hot-button Issues) ที่สำคัญที่สุดในแต่ละชุมชน

ยกระดับความแม่นยำ: ทำให้ "Direct Talk" มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะ ดร.นิยมสามารถนำเสนอโครงการที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่มได้ทันที (Personalized Policy Pitch)

การสร้างเครือข่ายจิตอาสา 2,000 คน

AI Route & Schedule Optimization: ใช้ AI ในการวางแผนปฏิบัติการ (Action Plan) โดยเฉพาะในระยะที่ 2 และ 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีม “พลังสกลนคร” ให้อาสาสมัครสามารถเข้าถึงชุมชนเป้าหมายในพื้นที่เขต 2 ได้อย่างทั่วถึงและใช้เวลาน้อยที่สุด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: จัดการทรัพยากรบุคคลและเวลาให้ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง โดยเฉพาะการเร่งทำงานตามแผนรับมือการยุบสภา

1.2 ยุทธวิธี: การสร้างเนื้อหาเชิงบวกอย่างมีประสิทธิภาพ

ดร.นิยมกำหนดให้มีการ “ใช้สื่อดิจิทัลอย่างพอดี” โดยการผลิตคลิปสั้นแนว “พุทธการเมืองเชิงบวก” ซึ่งสอดคล้องกับการวางตัวเป็น “นักการเมืองสายคุณธรรม” (Moral Politician)

  • AI-Enhanced Content Moderation & Tone Check: AI ถูกใช้ในการวิเคราะห์เนื้อหาก่อนเผยแพร่ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกข้อความและทุกคลิปสั้นที่เผยแพร่บน TikTok และ Facebook นั้น:

    1. ไม่ขัดกับบุคลิกของผู้สมัคร: รักษาโทนที่สงบ (สีฟ้าขาว–ทอง), จริงใจ, และมีคุณธรรม.

    2. มีความเหมาะสมทางวัฒนธรรม: ไม่มีการใช้ถ้อยคำที่สร้างความขัดแย้งหรือสุ่มเสี่ยงต่อการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในมิติของศีลธรรม.

  • AI for Platform Targeting: AI จะช่วยกำหนดเวลาการโพสต์ (Optimal Posting Time) และเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเนื้อหาแต่ละประเภท เช่น การโปรโมต “โครงการตลาดธรรมะดิจิทัล” (Digital Dharma Market) อาจเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นและคนรุ่นใหม่ ขณะที่เนื้อหาเกี่ยวกับ “โครงการสกลนครเมืองศีล 5” อาจถูกนำเสนอผ่าน Line Group หรือ Facebook Group ของเครือข่ายวัดและชุมชน

2. การวิเคราะห์โครงการสำคัญและการใช้ AI ในการสร้างฐานเสียงถาวร

โครงการสำคัญที่เสนอมานั้น เน้นการสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน การใช้ AI จึงถูกผสานเข้ากับโครงการเหล่านี้เพื่อสร้างผลกระทบที่วัดผลได้ในระยะยาว:

  • โครงการตลาดธรรมะดิจิทัล: AI มีบทบาทสำคัญในการเป็นเครื่องมือ (Tool) ในแพลตฟอร์มนี้ เช่น การใช้ AI ช่วยในการจัดหมวดหมู่สินค้าชุมชน (Product Categorization), การแนะนำสินค้า (Recommendation Engine) ให้กับผู้บริโภคที่สนใจผลิตภัณฑ์เกษตรปลอดภัย หรือสินค้าจากวิสาหกิจชุมชน, และการสร้าง Chatbot ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลักธรรมะและความพอเพียง เพื่อให้ตลาดนี้เป็นมากกว่าแค่การซื้อขาย แต่เป็นพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนความรู้ตามแนวคิดหลักของ ดร.นิยม

  • โครงการเยาวชนพุทธจิตอาสา: AI อาจถูกนำมาใช้ในลักษณะของการเรียนรู้ส่วนบุคคล (Personalized Learning) โดยช่วยจัดทำโมดูลการเรียนรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยเชิงคุณธรรมที่ปรับให้เข้ากับช่วงอายุและความสนใจของเยาวชนแต่ละกลุ่ม เพื่อให้การปลูกฝังผู้นำรุ่นใหม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

บทสรุป: AI ในฐานะผู้รับใช้ความศรัทธา

กลยุทธ์การใช้ AI ของ ดร.นิยม เวชกามา สำหรับการเลือกตั้งปี 2569 จึงมิใช่การใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างกระแสหรือการรณรงค์แบบก้าวร้าว (Aggressive Campaigning) แต่เป็นการใช้ AI อย่างมีขอบเขตและมีจริยธรรม (Ethical AI Use)

AI ถูกวางตำแหน่งเป็น “ผู้ช่วยทางยุทธศาสตร์” ที่ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การจัดการโลจิสติกส์การลงพื้นที่ และการกลั่นกรองการสื่อสาร เพื่อให้การรณรงค์แบบ “การเมืองแนวพุทธจิตวิทยา” สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในโลกดิจิทัล การผสานความศรัทธาเข้ากับข้อมูล (Faith-Data Integration) นี้ทำให้ ดร.นิยมสามารถรักษาอัตลักษณ์ “ดร.มหานิยม” ที่เน้นความใกล้ชิดและความน่าเชื่อถือ ขณะเดียวกันก็ใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขันด้านความแม่นยำในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเขตเลือกตั้งที่ 2 ของสกลนคร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นิยมโมเดล: แนวโน้มนโยบาย พปชร.คุ้มครองพระพุทธศาสนา ในการเลือกตั้งปี 2569

บทวิเคราะห์เชิงลึก: พลวัตและทิศทางนโยบายการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2569: กรณีศึกษาทัศนะแ...