วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

รูปแบบการประยุกต์ใช้ AI เพื่อการสอนระดับอุดมศึกษา

 


วิเคราะห์รูปแบบการประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา

(An Academic Analysis on Models of AI Application for Higher Education Teaching and Learning)

บทคัดย่อ

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) กำลังเปลี่ยนภูมิทัศน์ระบบการศึกษาในศตวรรษที่ 21 อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกำลังคนคุณภาพเพื่อการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ขับเคลื่อนนโยบาย AI for University ผ่านโครงการอบรม “การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา” ใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจ ทักษะ และความพร้อมของอาจารย์ทุกสาขาวิชาในการบูรณาการ AI สู่ห้องเรียน บทความนี้มุ่งวิเคราะห์รูปแบบการประยุกต์ใช้ AI ในการเรียนการสอน โดยพิจารณาจากแนวทางปฏิบัติจริง ตัวอย่างการใช้งาน และกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ รวมถึงเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติและการพัฒนา Active Learning ในระดับมหาวิทยาลัย


1. บทนำ

การพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างก้าวกระโดดส่งผลต่อทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งเศรษฐกิจ การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน ภาคการศึกษาในระดับอุดมศึกษายิ่งต้องปรับตัว เนื่องจากมหาวิทยาลัยคือสถาบันผลิตกำลังคนที่ต้องมีทักษะ ความคิดวิเคราะห์ ความสร้างสรรค์ และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

ด้วยเหตุนี้ การสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง AI และความสามารถในการประยุกต์ใช้ AI เพื่อการออกแบบการเรียนรู้ จึงถือเป็น ทักษะหลักของอาจารย์ยุคใหม่ การดำเนินโครงการฝึกอบรมโดย สป.อว. ร่วมกับ เนคเทค สวทช. จึงเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษาทั้งในภาครัฐและเอกชน


2. นโยบาย AI for University และกรอบแนวคิดการประยุกต์ใช้ AI ในมหาวิทยาลัย

2.1 วัตถุประสงค์เชิงนโยบาย

นโยบาย “AI for University” มุ่งหวังให้บุคลากรทางการศึกษาสามารถ

  1. เข้าใจ พื้นฐาน AI และประเด็นจริยธรรม

  2. ใช้เป็น เพื่อออกแบบการเรียนการสอนรูปแบบใหม่

  3. ต่อยอดได้จริง สู่โครงการหรือเครื่องมือการสอนที่ใช้ได้ในบริบทของสาขาวิชาที่หลากหลาย

2.2 ความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ

ดร.ศวิต กาสุริยะ รองผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. อธิบายว่า โครงการนี้ตอบสนองยุทธศาสตร์ที่ 3 ของ Thailand National AI Strategy ที่มุ่งสร้างบุคลากร 3 ระดับ ได้แก่

  • ระดับพื้นฐาน (Beginner)

  • ระดับวิศวกร (Engineer)

  • ระดับผู้เชี่ยวชาญ (Professional)

มหาวิทยาลัยจึงมีบทบาทสำคัญทั้งในการฝึกอบรมและสร้างเครือข่าย AI Community เพื่อความร่วมมือทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง


3. กรอบวิเคราะห์รูปแบบการประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา

จากการเก็บข้อมูลเชิงประจักษ์ในกิจกรรมอบรม สามารถสรุปรูปแบบการประยุกต์ใช้ AI ได้ 4 มิติ ดังนี้

3.1 AI เพื่อการออกแบบการเรียนรู้ (AI-enabled Instructional Design)

AI ช่วยอาจารย์วิเคราะห์ผู้เรียน วางแผนรายวิชา และออกแบบกิจกรรม เช่น

  • การสร้าง AI Tutor ที่ปรับเนื้อหาและโจทย์ตามศักยภาพ

  • การใช้ AI วิเคราะห์ทักษะผู้เรียนรายบุคคล

  • การเลือกกลยุทธ์การสอนที่เหมาะสมกับ Active Learning

3.2 AI เพื่อเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอน–ผู้เรียน (AI-driven Interactivity)

ตัวอย่างเช่น

  • AI Chatbot กระตุ้นการค้นคว้าและบทบาทสมมุติ (role play)

  • การเรียนแบบระดมความคิด (Brainstorming) โดยใช้ AI ช่วยจัดกลุ่มไอเดีย

  • ระบบโต้ตอบที่ทำให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากขึ้น

3.3 AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอน (AI-powered Classroom Management)

ผ่านแพลตฟอร์ม Abdul Uni ซึ่งมีความสามารถ เช่น

  • ตรวจงานอัตโนมัติ

  • ประเมินผลและให้ฟีดแบ็ก

  • ติดตามความก้าวหน้าผู้เรียน

  • ดูแลผู้เรียนรายบุคคลผ่านระบบ AI Tutor

สิ่งนี้ช่วยลดภาระงานอาจารย์และเพิ่มเวลาในการโฟกัสการสอนเชิงคุณภาพ

3.4 AI เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนเฉพาะสาขาวิชา (Discipline-specific AI Application)

กรณีศึกษาที่นำเสนอในเวทีอบรม ได้แก่

  • การท่องเที่ยวและการโรงแรม → ใช้ AI ออกแบบสถานการณ์จำลอง

  • Digital Marketing → วิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคและสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ

  • International Business → ใช้ AI Teaching Assistant Bot

สิ่งนี้ทำให้การเรียนรู้เชื่อมโยงกับโลกงานจริงมากขึ้น


4. ผลลัพธ์จากการอบรมเชิงปฏิบัติการ: พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

กิจกรรมอบรมครั้งแรกจัดที่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระหว่างวันที่ 17–18 พฤศจิกายน 2568 โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 120 คน จาก 31 มหาวิทยาลัย จุดเด่นของเวทีนี้คือ

  • การแลกเปลี่ยนแนวคิดและกรณีศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายมหาวิทยาลัย

  • การสาธิตการใช้งาน AI สำหรับการสอนในสาขาที่แตกต่างกัน

  • Workshop ที่ให้ผู้เข้าร่วมออกแบบการสอนผสาน AI ด้วยตนเอง

เนื้อหามีความเข้มข้นทั้งทางทฤษฎีและการปฏิบัติ สร้างความเข้าใจที่นำไปสู่การใช้จริงในห้องเรียน


5. การวิเคราะห์ประเด็นท้าทายและข้อจำกัดในการประยุกต์ใช้ AI

แม้ AI จะนำมาซึ่งโอกาส แต่ก็มีประเด็นท้าทายที่ต้องพิจารณา ได้แก่

5.1 ความเหลื่อมล้ำด้านเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน

บางมหาวิทยาลัยอาจขาดโครงสร้างพื้นฐานหรือบุคลากรด้านเทคโนโลยี

5.2 ประเด็นจริยธรรมและความเป็นส่วนตัวของผู้เรียน

การใช้ข้อมูลผู้เรียนต้องกำกับด้วยแนวทางที่โปร่งใสและปลอดภัย

5.3 ความพร้อมและทักษะของอาจารย์แต่ละสาขา

อาจารย์ที่ไม่ใช่สายเทคโนโลยีอาจต้องการเวลาในการปรับตัว

5.4 ความเสี่ยงในการพึ่งพา AI มากเกินไป

ต้องเน้นการใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทนอาจารย์


6. ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อยกระดับการใช้ AI ในระดับอุดมศึกษา

  1. พัฒนาหลักสูตรอบรม AI แบบต่อเนื่อง (Continuous AI Upskilling)
    รวมถึงหลักสูตรเฉพาะสาขาวิชา

  2. สร้าง AI Community ระดับอุดมศึกษา
    เพื่อแบ่งปันกรณีศึกษาและวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด

  3. ผลักดันแพลตฟอร์ม AI Education มาตรฐานกลาง
    เช่น Abdul Uni ให้ใช้ได้ในทุกมหาวิทยาลัย

  4. กำหนดแนวทางจริยธรรม AI เพื่อการสอนอย่างเป็นระบบ
    รวมถึงข้อแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

  5. สนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมด้านการเรียนรู้ด้วย AI
    เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่สำหรับสังคมไทยในระยะยาว


7. สรุป

AI ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี แต่เป็น โครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการเรียนรู้ ที่ช่วยให้มหาวิทยาลัยสามารถออกแบบการเรียนการสอนที่มีความเฉพาะตัว เข้าถึงผู้เรียนได้ลึกซึ้ง และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้สอน โครงการฝึกอบรม “การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา” จึงเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการเตรียมกำลังคนคุณภาพสำหรับอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นิยมโมเดล: แนวโน้มนโยบาย พปชร.คุ้มครองพระพุทธศาสนา ในการเลือกตั้งปี 2569

บทวิเคราะห์เชิงลึก: พลวัตและทิศทางนโยบายการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2569: กรณีศึกษาทัศนะแ...