การเมืองบนความทุกข์ยาก! วิเคราะห์กลยุทธ์การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปี 2569 ท่ามกลางวิกฤตอุทกภัยหาดใหญ่
บทคัดย่อ บทความนี้มุ่งวิเคราะห์ปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์ธรรมชาติ โดยเฉพาะกรณีศึกษา การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สำหรับการเลือกตั้งปี 2569 ของพรรคการเมืองต่าง ๆ ในขณะที่พื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กำลังเผชิญกับวิกฤตอุทกภัยครั้งรุนแรง การศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงเส้นบาง ๆ ระหว่าง "การทำหน้าที่ตัวแทนประชาชน" กับ "การฉวยโอกาสทางการเมือง" (Political Opportunism) รวมถึงวิเคราะห์ผลกระทบต่อทัศนคติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีต่อความชอบธรรม (Legitimacy) ของพรรคการเมืองในสถานการณ์วิกฤต
1. บทนำ: เมื่อปี่กลองการเมืองดังแข่งกับเสียงไซเรนเตือนภัย
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจและการเมืองของภาคใต้ ในช่วงปลายปี 2568 ต่อเนื่องถึงปี 2569 พื้นที่นี้ต้องเผชิญกับมหาอุทกภัยที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชน กลับปรากฏความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีนัยสำคัญ คือการที่พรรคการเมืองหลายพรรคเลือกช่วงเวลานี้ในการ "เปิดตัว" หรือ "วางตัว" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569
ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ แต่สะท้อนให้เห็นถึงยุทธศาสตร์การช่วงชิงพื้นที่สื่อและมวลชนในภาวะวิกฤต (Crisis Politics) ซึ่งนำมาสู่คำถามสำคัญทางวิชาการว่า การเปิดตัวผู้สมัครท่ามกลางภัยพิบัติ เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการแสดงภาวะผู้นำ หรือเป็นความผิดพลาดในการสื่อสารที่อาจถูกมองว่าขาดความเห็นอกเห็นใจ
2. การตลาดการเมืองในภาวะวิกฤต (Political Marketing in Crisis)
การที่พรรคการเมืองมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมีขึ้นในปี 2569 ในช่วงที่พื้นที่อำเภอหาดใหญ่กำลังเผชิญวิกฤตอุทกภัยนั้น สามารถวิเคราะห์ผ่านกรอบแนวคิดทางการตลาดการเมืองได้ 3 ประการ ดังนี้:
2.1 การสร้างตัวตนผ่านบทบาท "ผู้กอบกู้" ( The Savior Archetype)
ในภาวะปกติ การเปิดตัวผู้สมัครหน้าใหม่อาจไม่ได้รับความสนใจมากนัก แต่ในภาวะวิกฤต ประชาชนต้องการที่พึ่ง การเปิดตัวผู้สมัครควบคู่ไปกับการลงพื้นที่แจกถุงยังชีพหรือประสานงานช่วยเหลือ เป็นทางลัด (Shortcuts) ที่ทำให้ผู้สมัครกลายเป็นที่จดจำในฐานะ "คนทำงาน" ได้ทันที พรรคการเมืองจึงใช้สถานการณ์น้ำท่วมเป็นเวที (Platform) ในการสาธิตประสิทธิภาพของว่าที่ผู้สมัครฯ
2.2 การช่วงชิงพื้นที่ข่าว (Media Agenda Setting)
ข่าวสถานการณ์น้ำท่วมเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจสูงสุด การที่ว่าที่ผู้สมัครปรากฏตัวในพื้นที่น้ำท่วมพร้อมเสื้อแจ็คเก็ตพรรค ย่อมได้รับการนำเสนอผ่านสื่อหลักและโซเชียลมีเดียโดยอัตโนมัติ เป็นการลดต้นทุนในการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) ที่รวดเร็วที่สุด
2.3 การเข้าถึงเครือข่ายหัวคะแนนธรรมชาติ
วิกฤตภัยธรรมชาติทำให้ชุมชนต้องรวมกลุ่มกันเพื่อความอยู่รอด การที่ว่าที่ผู้สมัครฯ เข้าไปมีส่วนร่วมในช่วงเวลานี้ ทำให้สามารถเข้าถึงผู้นำชุมชนและกลุ่มจิตอาสา ซึ่งจะกลายเป็นฐานเสียงจัดตั้ง (Organized Vote) ที่สำคัญในการเลือกตั้งปี 2569
3. ดาบสองคม: ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและกระแสตีกลับ
แม้กลยุทธ์นี้จะดูเหมือนได้ผลในเชิงการสร้างการรับรู้ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดกระแสตีกลับ (Backlash) หากประชาชนตีความเจตนาผิดเพี้ยนไป
ความไม่ถูกกาลเทศะ (Tone-Deafness): การจัดอีเวนต์เปิดตัว หรือการขึ้นป้ายแนะนำตัวขนาดใหญ่ที่เน้นชื่อผู้สมัครมากกว่าข้อมูลการเตือนภัย อาจถูกมองว่าเป็นการ "หาเสียงบนความทุกข์" (Campaigning on Misery) ซึ่งจะสร้างภาพลบในระยะยาว
ความจริงใจ vs การแสดง: ในยุคดิจิทัล ประชาชนมีการตรวจสอบที่เข้มข้น หากว่าที่ผู้สมัครเพียงแค่มาถ่ายรูป (Photo Op) แล้วกลับ โดยไม่ได้ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง จะถูกตราหน้าว่าเป็น "นักการเมืองน้ำลด" (Fair-weather politician) ทันที
4. บทวิเคราะห์: นัยต่อการเลือกตั้งปี 2569
การเปิดตัวผู้สมัครในช่วงน้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ จะส่งผลต่อผลการเลือกตั้งปี 2569 ในรูปแบบที่แตกต่างจากอดีต:
การเปลี่ยนเกณฑ์การตัดสินใจ: ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหาดใหญ่จะตัดสินผู้สมัครจาก "สิ่งที่ทำในช่วงวิกฤต" มากกว่า "นโยบายที่ประกาศบนเวที" ประสบการณ์ตรงจากการได้รับความช่วยเหลือ (หรือถูกเพิกเฉย) จะเป็นปัจจัยชี้ขาด
บทพิสูจน์ระบบพรรค: หากพรรคการเมืองใดใช้โอกาสนี้เพียงเพื่อเปิดตัวตัวบุคคล แต่ไร้ซึ่งการสนับสนุนด้านทรัพยากรจากส่วนกลางเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม พรรคนั้นจะสูญเสียความศรัทธา และอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองในพื้นที่ได้
5. บทสรุป
ปรากฏการณ์การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปี 2569 ท่ามกลางวิกฤตอุทกภัยหาดใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของพรรคการเมืองในการเปลี่ยน "วิกฤต" ให้เป็น "โอกาส" ทางคะแนนนิยม อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของกลยุทธ์นี้ไม่ได้วัดกันที่จำนวนป้ายหาเสียงหรือยอดการเข้าถึงในโซเชียลมีเดีย แต่วัดกันที่ "ความต่อเนื่องและความจริงใจ" ในการแก้ปัญหา
หากการเปิดตัวเป็นเพียงพิธีกรรมทางการเมืองที่ฉาบฉวย ผู้สมัครรายนั้นอาจต้องเผชิญกับบทลงโทษจากประชาชนในคูหาเลือกตั้งปี 2569 แต่หากการเปิดตัวมาพร้อมกับการทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อกู้วิกฤตอย่างแท้จริง วิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ก็อาจเป็นบันไดที่แข็งแกร่งที่สุดที่ส่งให้พวกเขาเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรได้สำเร็จ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น