วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ภาวะผู้นำทางเทคโนโลยีกับการสื่อสารวิกฤตหาดใหญ่


วิเคราะห์ภาวะผู้นำในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่ ปี 2568 ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี: บทบาทของปัญญาประดิษฐ์และการสื่อสารยุคใหม่

บทคัดย่อ

บทความนี้ต่อยอดจากการวิเคราะห์ภาวะผู้นำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในการบริหารจัดการอุทกภัยหาดใหญ่ ปี 2568 โดยมุ่งเน้นการประเมินการใช้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ เครื่องมือสื่อสารยุคใหม่ ในปฏิบัติการแก้ไขวิกฤต ภายใต้กรอบแนวคิด ภาวะผู้นำทางเทคโนโลยี (Technological Leadership) และ การสื่อสารภาวะวิกฤต (Crisis Communication) ผลการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า แม้จะมีการพยายามนำเทคโนโลยีมาใช้ในการคาดการณ์และสื่อสาร แต่ความท้าทายยังคงอยู่ที่การ บูรณาการข้อมูลจาก AI ให้เข้าสู่กระบวนการตัดสินใจของผู้นำได้อย่างทันท่วงที รวมถึงการใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและจัดการกับ ข้อมูลบิดเบือน (Misinformation)


1. บทนำและกรอบแนวคิดทางเทคโนโลยี

วิกฤตอุทกภัยในปัจจุบันเรียกร้องให้ผู้นำต้องใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือและลดความสูญเสีย AI ได้รับการยอมรับว่ามีศักยภาพสูงในการช่วยงานหลักสามด้าน ได้แก่ 1) การพยากรณ์และเตือนภัยล่วงหน้า (Predictive Analytics), 2) การจัดการทรัพยากร (Resource Allocation Optimization), และ 3) การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Processing)

กรอบแนวคิดที่ใช้ในการวิเคราะห์ภาวะผู้นำในมิตินี้จึงเป็น ภาวะผู้นำทางเทคโนโลยี (Technological Leadership) ซึ่งผู้นำต้องแสดงความสามารถในการ:

  1. การตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล (Data-Driven Decision Making): การนำเข้าและใช้ข้อมูลที่ได้จาก AI ในการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์

  2. การลงทุนและการปรับใช้เทคโนโลยี: ความมุ่งมั่นในการจัดสรรงบประมาณและการติดตั้งระบบ AI ที่จำเป็น

  3. การสื่อสารภาวะวิกฤตเชิงรุก: การใช้เครื่องมือสื่อสารดิจิทัลในการแจ้งเตือน, การรับฟังความคิดเห็น, และการจัดการข้อมูลเท็จ


2. การวิเคราะห์การใช้ AI ในการปฏิบัติการของภาวะผู้นำ

2.1 การใช้ AI ในการพยากรณ์และการตัดสินใจ

รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ได้มีการกล่าวถึงการใช้ ระบบพยากรณ์น้ำท่วมอัจฉริยะ และ แบบจำลองสภาพอากาศ ที่ขับเคลื่อนโดย AI เพื่อประเมินปริมาณน้ำฝนและระดับน้ำในลุ่มน้ำที่ไหลสู่หาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ภาวะผู้นำในขณะนั้นประสบปัญหาสำคัญสองประการ:

  1. ปัญหาความเชื่อมั่นในแบบจำลอง: มีข้อถกเถียงว่า ข้อมูลที่ได้จาก AI ถูกนำมาใช้ในการตัดสินใจในระดับนโยบายอย่างเด็ดขาดหรือไม่ หรือยังคงมีการตัดสินใจโดยอิงจากประสบการณ์ส่วนบุคคลมากกว่า การตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล (Data-Driven)

  2. ความล่าช้าในการส่งต่อข้อมูล: ข้อมูลการพยากรณ์จาก AI มักถูกประมวลผลโดยหน่วยงานทางวิชาการ แต่การส่งต่อข้อมูลเชิงลึกและข้อแนะนำ (Actionable Insights) ไปยังศูนย์บัญชาการวิกฤตส่วนหน้า (ศป.กฉ.) เพื่อให้เกิดการสั่งอพยพหรือการผันน้ำอย่างทันท่วงที ยังขาดความรวดเร็วและเป็นเอกภาพ

“การใช้ AI จะไม่มีประสิทธิภาพ หากผู้นำในระดับนโยบายขาดความเข้าใจในการตีความผลลัพธ์และขาดความกล้าหาญในการดำเนินการตามคำแนะนำทางเทคนิค”

2.2 บทบาทของ AI ในการจัดการทรัพยากร

มีการนำระบบ AI มาใช้ในการจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน โดยพิจารณาจากความหนาแน่นของประชากรและระดับน้ำท่วมขัง (จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมและโดรน) ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ดีในเชิงปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม การใช้ AI เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรเรือท้องแบนและถุงยังชีพ ($Optimization\ of\ Logistics$) ยังไม่ปรากฏเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน


3. การวิเคราะห์การใช้เครื่องมือสื่อสารยุคใหม่ในการแก้ปัญหาวิกฤต

ภาวะผู้นำของนายอนุทินมีการใช้เครื่องมือสื่อสารที่หลากหลาย ทั้งช่องทางดั้งเดิม (แถลงข่าว, โทรทัศน์) และช่องทางยุคใหม่ (Facebook Live, Twitter/X) เพื่อเข้าถึงประชาชน

3.1 การสื่อสารภาวะวิกฤตผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล

นายกรัฐมนตรีและทีมงานได้ใช้ สื่อสังคมออนไลน์ เป็นช่องทางหลักในการแจ้งเตือนและอัปเดตสถานการณ์ แต่ความท้าทายที่เกิดขึ้นคือ:

  • การจัดการข้อมูลบิดเบือน (Misinformation): การสื่อสารของภาครัฐไม่สามารถก้าวทันอัตราการแพร่กระจายของ ข่าวปลอม (Fake News) เกี่ยวกับเขื่อนแตกหรือปริมาณน้ำที่เกินจริงได้ ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในวงกว้าง ภาวะผู้นำจำเป็นต้องแสดงบทบาทที่เข้มแข็งในการ ยืนยันความจริง (Fact-Checking) อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง

  • การสื่อสารแบบสองทาง (Two-Way Communication): แม้จะมีการเผยแพร่ข้อมูล แต่การใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อ รับฟังและตอบสนอง ต่อความต้องการเฉพาะหน้าของประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่วิกฤตอย่างเป็นระบบ (เช่น การใช้ Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับการรายงานเหตุฉุกเฉิน) ยังอยู่ในระดับที่จำกัด

3.2 การใช้เครื่องมือสื่อสารเพื่อสร้างความเชื่อมั่น

การสื่อสารเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจของผู้นำถูกวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นที่กล่าวถึงแล้ว (ความสุขนิยม) ทำให้เกิดคำถามว่า รูปแบบการสื่อสาร ของผู้นำในโลกดิจิทัลนั้นเหมาะสมกับความรุนแรงของวิกฤตหรือไม่


4. บทสรุปและข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์

ภาวะผู้นำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในการรับมือกับน้ำท่วมหาดใหญ่ ปี 2568 ได้แสดงให้เห็นถึง ความริเริ่มในการนำเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสื่อสารยุคใหม่มาใช้ แต่การบูรณาการเทคโนโลยีเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการตัดสินใจและการสื่อสารหลักยังไม่เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาภาวะผู้นำทางเทคโนโลยีในภาวะวิกฤต:

  1. จัดตั้งคณะทำงาน AI ด้านวิกฤต: ผู้นำควรจัดตั้งทีมเฉพาะกิจที่มีอำนาจในการ ประมวลผลข้อมูล AI และรายงานผลต่อผู้สั่งการสูงสุดโดยตรง เพื่อลดความล่าช้าในการถ่ายโอนข้อมูล และเสริมสร้าง ความกล้าหาญในการตัดสินใจ ตามคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์

  2. พัฒนาระบบสื่อสารแบบสองทางเชิงรุก: ลงทุนในการพัฒนาระบบ AI-Powered Chatbots หรือศูนย์รับเรื่องผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่สามารถตอบสนองต่อรายงานเหตุฉุกเฉินเฉพาะบุคคลได้อย่างรวดเร็วและตรวจสอบได้ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของ การสั่งการช่วยเหลือ (Response Logistics)

  3. กลยุทธ์ต่อต้านข้อมูลบิดเบือน: ผู้นำต้องกำหนดให้มีการใช้เครื่องมือสื่อสารยุคใหม่เพื่อ เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำและสม่ำเสมอ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือแห่งเดียว เพื่อต่อสู้กับข่าวปลอมและรักษาความเชื่อมั่นของสาธารณะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นิยมโมเดล: แนวโน้มนโยบาย พปชร.คุ้มครองพระพุทธศาสนา ในการเลือกตั้งปี 2569

บทวิเคราะห์เชิงลึก: พลวัตและทิศทางนโยบายการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2569: กรณีศึกษาทัศนะแ...