วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ธรรมาภิบาลวัดไทย: MOU ตรวจสอบภายในวัดใหม่ยายแป้น



วิเคราะห์วัดใหม่ยายแป้นกับ MOU บริษัทตรวจสอบภายใน: ก้าวใหม่ของธรรมาภิบาลและมาตรฐานการบริหารจัดการวัดไทย

บทคัดย่อ

บทความนี้มุ่งวิเคราะห์ความร่วมมือระหว่างวัดใหม่ยายแป้น กรุงเทพมหานคร กับบริษัทพีแอนด์แอล กรุ๊พ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบภายในมืออาชีพ โดยถือเป็นกรณีศึกษาเชิงนโยบายและธรรมาภิบาลในสถาบันศาสนาไทย การลงนาม MOU ครั้งนี้มีนัยยะสำคัญต่อความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ และการพัฒนามาตรฐานการบริหารจัดการวัดในยุคใหม่ ทั้งในด้านการเงิน การจัดซื้อจัดจ้าง และกระบวนการกำกับดูแลกิจการ รวมถึงการพัฒนาหลักเกณฑ์การบริหารจัดการวัดสู่ความเป็นเลิศภายใต้แนวคิด Thailand Quality Award (TQA)



1. บทนำ

การบริหารจัดการวัดในประเทศไทยมีความท้าทายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกระแสสังคมที่ให้ความสำคัญกับ “ความโปร่งใส – ความรับผิดชอบ – ธรรมาภิบาล” มากขึ้น ประกอบกับเหตุการณ์ด้านการบริหารงานวัดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ความไว้วางใจของพุทธศาสนิกชนต่อวัดลดลงอย่างมีนัยยะ การที่วัดใหม่ยายแป้นเปิดวัดให้บริษัทตรวจสอบภายในระดับประเทศเข้ามาตรวจสอบจึงถือเป็น “ปรากฏการณ์สำคัญครั้งประวัติศาสตร์” ของวัดเมืองไทย



2. ภูมิหลังของความร่วมมือ: บริบทและแรงจูงใจเชิงยุทธศาสตร์

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 พระเมธีวัชรบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดใหม่ยายแป้น ได้ลงนาม MOU กับ ดร.กิตติศักดิ์ ชนกมาตุ ประธานบริษัทพีแอนด์แอล กรุ๊พ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีพระเมธาวินัยรส และนิสิตปริญญาเอก สาขาสตินวัตกรรมและสันติศึกษาร่วมเป็นพยาน

ปัจจัยผลักดันที่สำคัญ ได้แก่

  1. วัดอยู่ในช่วงพัฒนาโครงการขนาดใหญ่หลายด้าน เช่น

    • การดีดและบูรณะโบสถ์

    • การพัฒนาอารามรมณีย์

    • การพัฒนานิพพานสถานธรรม
      ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากจากผู้มีจิตศรัทธา

  2. ความคาดหวังของสังคมด้านความโปร่งใสสูงขึ้น

  3. วิกฤตศรัทธาจากคดีทุจริตวัดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

  4. การปรับตัวของวัดต่อโลกยุคใหม่ในเชิงนโยบายและธรรมาภิบาล


3. บทบาทของบริษัทตรวจสอบภายในต่อวัด: มิติใหม่ของธรรมาภิบาลทางศาสนา

บริษัทพีแอนด์แอล (ประเทศไทย) จำกัด มีประสบการณ์ตรวจสอบภายในมากกว่า 30 ปี ตรวจสอบให้องค์กรกว่า 100 แห่งในระดับประเทศ การเข้ามาตรวจสอบวัดใหม่ยายแป้นปีละ 1 ครั้งในด้านสำคัญ เช่น

  • ระบบบัญชีและการเงิน

  • การจัดซื้อจัดจ้าง

  • ระบบบริหารจัดการภายใน

  • การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน

เป็นการยกระดับวัดสู่ “มาตรฐานองค์กรสาธารณะสมัยใหม่” แตกต่างจากการตรวจสอบรูปแบบเดิมที่อาศัยเฉพาะฝ่ายภายในวัดหรือคณะสงฆ์


4. ความหมายเชิงธรรมาภิบาลและผลต่อศรัทธาในพระพุทธศาสนา

พระเมธีวัชรบัณฑิตชี้ว่า วิกฤตศรัทธาต่อวัดในปัจจุบันเกิดจากประเด็นการทุจริต การจัดการเงินไม่โปร่งใส และความไม่ชัดเจนของการตัดสินใจในวัด

การเปิดวัดให้ตรวจสอบโดยมืออาชีพสร้างผลดีหลายประการ ได้แก่

4.1 เพิ่มความไว้วางใจของพุทธศาสนิกชน

ผู้บริจาคและชุมชนมีข้อมูลการบริหารใช้เงินอย่างชัดเจน

4.2 ป้องกันความเสี่ยงด้านทุจริต

ระบบตรวจสอบภายนอกเชิงรุกลดโอกาสทุจริตหรือเข้าใจผิด

4.3 ยกระดับความเป็นมืออาชีพของคณะกรรมการวัด

ทั้งเจ้าอาวาส ไวยาวัจกร และคณะกรรมการบริหารวัดต้องปรับตัวสู่รูปแบบการบริหารตามมาตรฐานองค์กร

4.4 สร้างโมเดลการบริหารจัดการวัดรูปแบบใหม่ให้ประเทศ

อาจเป็นต้นแบบให้วัดอื่นนำไปปรับใช้ในอนาคต


5. ความพยายามสู่มาตรฐาน TQA: การยกระดับวัดสู่ “องค์กรคุณภาพเป็นเลิศ”

ในฐานะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award: TQA) พระเมธีวัชรบัณฑิตกำลังเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาคุณภาพมาพัฒนา “เกณฑ์บริหารจัดการวัดเพื่อความเป็นเลิศ” โดยใช้วัดใหม่ยายแป้นเป็น โครงการนำร่อง (Pilot Project)

ประเด็นสำคัญของเกณฑ์ที่คาดว่าจะพัฒนา ได้แก่

  • การวางยุทธศาสตร์วัด

  • ระบบงานบริหารจัดการเชิงคุณภาพ

  • ความโปร่งใสด้านการเงินและการจัดซื้อจัดจ้าง

  • การตอบสนองต่อชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

  • การบริหารความเสี่ยง

  • ระบบการสื่อสารและรายงานผล

แนวทางนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่วัดถูกยกระดับสู่มาตรฐานองค์กรสาธารณะคุณภาพสูงเทียบเท่าโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย หรือรัฐวิสาหกิจ


6. วิเคราะห์เชิงนโยบาย: ความท้าทายและโอกาส

6.1 ความท้าทาย

  • วัดจำนวนมากยังไม่มีระบบบัญชีที่ชัดเจน

  • ความต้านทานต่อการตรวจสอบในบางวัดหรือบางพื้นที่

  • ข้อจำกัดด้านบุคลากร ไวยาวัจกร และคณะกรรมการวัด

  • กรอบกฎหมายการคณะสงฆ์ที่ยังไม่รองรับระบบตรวจสอบเชิงลึก

6.2 โอกาส

  • ยกระดับความโปร่งใสของสถาบันศาสนา

  • ช่วยฟื้นฟูศรัทธาพุทธศาสนิกชน

  • เป็นโมเดลสร้างมาตรฐานใหม่ระดับประเทศ

  • ขยายความร่วมมือไปสู่วัดอื่นได้

  • เชื่อมโยงงานวิชาการด้านสันติศึกษา ธรรมาภิบาล และการจัดการวัดในยุคใหม่


7. บทสรุป

การลงนาม MOU ระหว่างวัดใหม่ยายแป้นและบริษัทพีแอนด์แอล กรุ๊พ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นหมุดหมายสำคัญของการปฏิรูปการบริหารจัดการวัดไทยในศตวรรษที่ 21 การตรวจสอบภายในโดยมืออาชีพช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นต่อผู้ศรัทธา ขณะเดียวกันยังเปิดประตูสู่การพัฒนาระบบมาตรฐานการบริหารจัดการวัดตามแนวทาง TQA ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบระดับประเทศในอนาคต ถือเป็นก้าวสำคัญของการนำหลักธรรมาภิบาลและนวัตกรรมการจัดการสมัยใหม่มาสู่สถาบันศาสนาไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นิยมโมเดล: แนวโน้มนโยบาย พปชร.คุ้มครองพระพุทธศาสนา ในการเลือกตั้งปี 2569

บทวิเคราะห์เชิงลึก: พลวัตและทิศทางนโยบายการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2569: กรณีศึกษาทัศนะแ...