วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

พระองค์ครู - “พระนาคปรก”แช่เลือด!!...พาหลวงปู่พุทธะอิสระ เข้าคุกไร้อิสระ






“พระนาคปรก” รุ่น “หนึ่งในปฐพี"

ด้านหน้าเป็นพระนาคปรก ด้านหลังของพระเครื่องรุ่นนี้ ยังได้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และ สก. อุดปรอท จารนะอ่อนช้อย

นอกจากนี้ยังมีการใช้เลือดหรือประสะโลหิตของหลวงปู่พุทธะอิสระในการจัดพิธีดังกล่าวด้วย

การใช้ "พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และ สก." ตำรวจมีการแจ้งข้อหาแอบอ้างใช้ปรมาภิไธย ภปร. และ ส.ก. กรณีสร้างพระเครื่องพระนาคปรก รุ่นหนึ่งในปฐพีด้วย



พระเครื่อง พระเครื่องพระนาคปรก รุ่นหนึ่งในปฐพี ที่ประกอบพิธีประสะโลหิต หรือ แช่เลือด เป็นข่าวสุดดัง กับกรณีแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือแกนนำเสื้อเหลือง ที่ชื่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล ถูกคนร้ายลอบถล่มด้วยอาวุธสงครามขนาดกระสุนกว่า ๑๐๐ นัด ฝ่าทะลุกระจกรถเป็นรูพรุนทั้งคัน

แต่นายสนธิก็รอดมาได้ ทำให้หลายฝ่ายกังขา "รอดได้อย่างไร"

ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืด วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๒ บนถนนสามเสน ใจกลางกรุงเทพมหานครนี่เอง

เมื่อเป็นข่าวสะพัดออกไป “นักเลงพระ” ต่างรุมถามแกนนำเสื้อเหลือง แขวนพระอะไร จึงรอดตายอย่างเหลือเชื่อ เพราะลักษณะการถูกถล่ม ทุกคนฟันธงว่า “ไม่น่ารอด” ป่านนี้ คิดว่าทุกคนคงทราบกันแล้ว

นายสนธิ แขวนพระเครื่อง ๓ องค์ คือ จตุคามฯ รุ่นกู้ชาติ หลวงปู่ทวด รุ่นชุบเลือด ของหลวงปู่พุทธะอิสระ และอีกองค์ที่สำคัญ คือ รูปเหมือนหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ต้องยอมรับว่า วัตถุมงคลที่จะมีชื่อเสียงโด่งดัง และได้รับความนิยม ล้วนแต่มีที่มาที่ไปที่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะห้อยคอแล้วแคล้วคลาด เซียนพระก็ไม่พลาดที่จะมีไว้ในกรุ

เมื่อกระแสเกิดขึ้นจากคนดังแล้ว วัตถุมงคลนั้นยิ่งดูจะเพิ่มความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อของคนไทยบางคน ที่หลงใหลในวัตถุมงคลหา "หลวงปู่ทวด" รุ่น "ประสะโลหิต" มาห้อยคอ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันเสาร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๒ หลวงปู่พุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้เจาะเลือดนานกว่า ๕ นาที เพื่อเป็นส่วนผสมในการทำน้ำมนต์ สร้างความฮือฮาและเป็นที่สนใจของลูกศิษย์เป็นอย่างยิ่ง

จากนั้นได้นำไปเทลงตู้แก้ว ๒ ใบ โดยภายในบรรจุพระหลวงปู่ทวด รุ่นประสะโลหิต หรือรุ่นแช่เลือด โดยมีลูกศิษย์จำนวนมาก สั่งจองพระรุ่นดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้นำน้ำมนต์ที่มีส่วนผสมของเลือด นำมาประกอบพิธีอาบน้ำพระเวท และพิธีประสะโลหิต ให้เหล่าบรรดาลูกศิษย์ที่มาร่วมงานกว่า ๒ หมื่นคน

หนึ่งในจำนวนนี้ คือ นางจันทร์ทิพย์ ลิ้มทองกุล ภรรยานายสนธิ ลิ้มทองกุล รวมทั้งบุคคลที่มีชื่อเสียง ทั้งนักการเมือง ดารา พิธีกร ไปร่วมพิธีดังกล่าวหลายท่าน

น้ำมนต์ที่ผสมเลือด หลวงปู่พุทธะอิสระซึ่งส่วนหนึ่งมีคติความเชื่อ ที่ว่า “เหตุที่นายสนธิรอดตายจากการถูกลอบสังหารนั้น มาจากพระหลวงปู่ทวด รุ่นประสะโลหิต ที่ได้รับจากหลวงปู่พุทธะอิสระ โดยรุ่นแรกสร้างในหลักร้อยองค์เท่านั้น”

สำหรับพิธีประสะโลหิต เป็นศาสตร์โบราณ ต้องอาศัยใจที่ตั้งมั่นถึงขีดสุดของผู้กระทำ และถือเป็นเอกลักษณ์ของสายวิชานี้ โดยเฉพาะ และมีลักษณะที่น่าหวาดเสียวยิ่ง

สำหรับผู้ไม่เคยพบเห็น หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้ใช้วิธีการดังกล่าว ในการประสิทธิ์ประสาทวิทยาคุณของท่าน ให้แก่สานุศิษย์ ทั้งการทำน้ำมนต์ และการลงพระเครื่องมงคลต่างๆ

ในอดีตนั้น พิธีประสะโลหิตที่เลื่องลือในวงการจัดสร้างวัตถุมงคล คือ อ.ฟ้อน ดีสว่าง ฆราวาสจอมขมังเวท ในยุคสงครามอินโดจีน ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังในพระเวทคุณไสย คาถาอาคม

โดยเฉพาะเรื่องสักยันต์ ที่ไม่เหมือนใคร คือ ใช้เลือดของอาจารย์สักยันต์ให้ผู้ที่มาฝากตัวเป็นศิษย์

พิธีตอกเพดานประสะโลหิตลงบนผ้าขาว เพื่อมอบให้แก่เหล่าทหารหาญ ใช้ติดตัวเป็นเครื่องคุ้มภัย ในการไปร่วมรบในสงคราม

สำหรับชาติถูมิ

หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม (ฉายาปัจจุบัน) ท่านเป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด แต่บรรพบุรุษตั้งรกรากอยู่ที่ จ.นครปฐม โยมพ่อชื่อ นายชมภู โยมแม่ชื่อ นางอัมพร นามสกุล ทองประเสริฐ

เกิดเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๙๙ การศึกษาเล่าเรียนทางโลก ไม่จบชั้นประถมปีที่ ๔ ส่วนการศึกษาเล่าเรียนทางธรรมนั้น จบนักธรรมเอก

บวชเรียนครั้งแรก เมื่ออายุ ๒๐ ปี โดยบวชที่วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โดยมี พระครูธีราภินันท์ เจ้าอาวาสวัดคลองเตยใน เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชได้เพียงพรรษาเดียว ก็สึกออกไปเป็นทหาร ๒ ปี

หลังเสร็จภารกิจทางทหาร ก็กลับมาบวชใหม่ที่วัดเดิม คือวัดคลองเตยใน เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๒๖

โดยมี พระครูธีราภินันท์ เจ้าอาวาสวัดคลองเตยใน เป็นพระอุปัชฌาย์เช่นเดิม และ พระครูวรกิจวิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดภาษี เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวินัยธรสมพงษ์ วัดคลองเตยใน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายาว่า "ธมฺมธีโร" แปลว่า "ปราชญ์ทางธรรม”

ช่วงที่อยู่วัดคลองเตยใน มีผู้คนมากมายมาฟังท่านแสดงธรรม ท่านอยู่วัดคลองเตยในได้ประมาณ ๖ ปี ก็มาสร้าง วัดอ้อน้อย ที่ ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ในปี ๒๕๓๒

โดยอุบาสิกา ทองห่อ วิสุทธิผล เป็นผู้บริจาคที่ดินผืนนี้ให้ สร้างวัดเสร็จเป็นรูปเป็นร่างภายใน ๓ ปี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ยกฐานะขึ้นเป็นวัด ชื่อว่า "วัดอ้อน้อย"

เดิมได้ทำเรื่องขอใช้ชื่อวัดว่า "วัดธรรมอิสระ" แต่ก็มีเหตุขัดข้องบางประการ

เมื่อสร้างวัดเรียบร้อย ท่านก็ให้พระลูกศิษย์ดูแลวัด ส่วนท่านก็ออกธุดงค์ เพื่อฝึกฝนปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเป็นเวลากว่า ๕ ปี หลวงปู่พุทธะอิสระ กลับมาปกครองดูแลวัดอ้อน้อยอีกครั้ง

เมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๓๘ ท่านได้ทำนุบำรุงวัดจนเจริญเรื่อยมา และเมื่ออุโบสถสร้างเสร็จเรียบร้อย จึงได้จัดพิธีผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิต ในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒  

ต่อมาในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๒ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลห้วยขวาง แทนเจ้าคณะเก่าที่มรณภาพ หลังจากนั้นเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๔๔ หลวงปู่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากทุกตำแหน่งอย่างเป็นทางการ กับเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม

โดยหลวงปู่กล่าวว่า "ที่ผ่านมามันก็เป็นความรู้สึกค้างคาในใจว่า เราทำงานไม่ได้หวังที่จะได้อะไร แต่เราทำงานเพื่อเป็นพุทธบูชา ด้วยความศรัทธาในพระธรรมวินัย และอุดมการณ์ของศาสนา"

...............

(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก พระองค์ครู ไตรเทพ ไกรงู)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"บึงกาฬ" จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนเเรงในครอบครัว

เมื่อวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ จัดกิจกรรมกา...