วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

"สุริยะใส"ยกถ้ำหลวงโมเดลแก้วิกฤติชาติ พท.แนะคสช.ระวัง"ปากพูด"




วันที่ 15 ก.ค.2561 นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิตและผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวว่า ตนเห็นว่าบทเรียนจากกรณีถ้ำหลวง ได้ชี้ให้เห็นถึงพละกำลังและศักยภาพในการบริหารจัดการกับวิกฤติปัญหาระดับชาติได้เป็นอย่างดี  ประเด็นสำคัญอยู่ที่เราจะทำให้กำลังของแผ่นดินครั้งนี้เป็นแรงส่งขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และเอาการเมืองไทยออกจากถ้ำของการทุจิตคอร์รัปชั่น ความขัดแย้งแตกแยกและการเมืองที่ล้มเหลวได้อย่างไร แต่ควรเป็นธุระของทุกฝ่ายที่จะทำให้คุณูปการของภารกิจถ้ำหลวงเป็นโมเดลของการแก้ปัญหาบ้านเมือง


พท.แนะคสช.ระวัง"ปากพูด" 

นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีตสส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยจังหวัดสิงห์บุรี ให้ความเห็นต่อกรณีรองนายกฯรมต.ของรัฐบาลคสช.พูดกระทบการท่องเที่ยวจีนในไทยลดลงทันทีถึง42,000ล้านบาทในอีกสามเดือนข้างหน้า นี่มิใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ แต่พฤติกรรมกร่างหลงอำนาจพูดจาตะวาดเสียงดัง แข็งกร้าว โมโหโกรธง่ายเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งไม่สมกับเป็นผู้นำของประเทศ โดยเฉพาะช่วงที่ไม่พอใจอะไรก็มักจะแสดงออก ทางใบหน้าท่าทางและคำพูดทุกครั้งจนนักข่าวและคนไทยเห็นอยู่เป็นประจำ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชนของชาติ แต่ยิ่งคำพูดที่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะส่งผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนของประเทศไทยทันทีเพราะต่างประเทศจะไม่เชื่อถือและขาดความเชื่อมั่น ยิ่งในขณะนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากการปฎิวัติรัฐประหารซึ่งต่างชาติไม่เชื่อมั่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะต้องระมัดระว้งให้มาก จะต้องมีสามัญสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมืองให้มากกว่านี้ไม่ใช่ดีแต่ปากพฤติกรรมทาววาจาและการกระทำต้องดีและสร้างสรรค์กว่านี้ด้วย   

นายพายัพ กล่าวอีกว่า วันนี้ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลคสช.ควรประกาศกำหนดการเลือกตั้งให้ชัดเจนได้แล้วเพราะจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้คนไทยภายในประเทศและสร้างความเชื่อมั่นเชื่อถือต่อต่างประเทศกลับคืนมา ถ้าทำได้เช่นนี้การค้าการลงทุนภายในประเทศและการส่งออกสินค้าไทยไปต่างประเทศก็จะดีขึ้น และที่สำคัญรัฐบาลควรเลิกใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟื่อยเพื่อหวังผลการสืบทอดอำนาจให้ตนเองเสียที ควรหันมาใช้จ่ายเงินที่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแก้ปัญหาความยากจนและปากท้องของประชาชนอย่างแท้จริงได้แล้ว


"นพดล"ไม่กังวลข่าวการดูด ส.ส. 

นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว ต่างประเทศ พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงข่าวการดูด สส. จากพรรคเพื่อไทยว่าส่วนตัวไม่ค่อยกังวลกับเรื่องนี้ เพราะอดีต สส จำนวนมากยังอยู่กับพรรค และสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใน 10 วินาทีที่เข้าไปคูหากาบัตรเลือกตั้ง ตนเห็นว่าปัจจัยในการตัดสินเลือกใครเป็น สส นั้น เนื่องจากระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ที่ให้กาเพียงบัตรเดียว จะทำให้ประชาชนให้นำ้หนักกับตัวพรรค นโยบายพรรคและแคนดิเดทนายกฯที่พรรคนำเสนอด้วย ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองพัฒนาถึงขั้นที่ว่าประชาชนวิเคราะห์ได้ถึงตัวตน อุดมการณ์และผลงานและรู้ท่าทีของพรรคต่างๆต่อเรื่องการสืบทอดอำนาจ

“ท่าทีของพรรคทำให้ประชาชนมีตัวเลือกค่อนข้างชัดเจน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตนคิดว่าประชาชนจะไม่ถามเพียงแค่ว่าเลือกนโยบายพรรคนี้แล้วชีวิตประชาชนจะดีขึ้นอย่างไร แต่จะถามอีกว่าเลือกพรรคนี้ประเทศจะดีขึ้นอย่างไร พรรคเพื่อไทยเคารพการตัดสินใจของประชาชนในวันเลือกตั้ง แต่ความท้าทายขณะนี้คือทุกฝ่ายต้องทำให้การเลือกตั้งเสรี เป็นธรรม และมีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้”






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มส. เห็นชอบแต่งตั้ง "หลวงปู่ศิลา" ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 ธรรมยุต รายงานผลการดำเนินงาน "หมู่บ้านรักษาศีล 5"

แนะประยุกต์ใช้ AI ในการเสริมสร้างหมู่บ้านศีลห้าจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาชุมชนไทยในทางที่ยั่งยืนและสันติสุข บนพื้นฐานของศีลธรรมและจริยธรรมในป...